กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,285 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,275 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.95 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,900 บาท กับ 19,000 บาท และกลับมาปิดที่ 18,800 บาท กับ 18,900 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,806 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,322 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.3% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 7.9% GFM13 ปิด 18,930 บาท และ GFQ13 ปิด 19,020 บาท GF10M13 ปิด 18,930 บาท GF10Q13 ปิด 19,020 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,275.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ ปิดที่ระดับ 19.526 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 969.50 ตัน (ขายออก 16.23 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 95.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 100.75 จุด ปิดที่ 14,760.31 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นทั้งหมด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,275.1 เหรียญ
เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากระดับ 1,276 เหรียญ ปรับตัวลดลง 21 เหรียญทำจุดต่ำสุดเช้านี้ที่ระดับ 1,255 เหรียญ โดยเมื่อวานนี้ SPDR เทขายออกเพียงวันเดียว 16.23 ตัน คงเหลือการถือครองที่ระดับ 969.5 ตัน
ดอยซ์แบงก์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ราคาทองคำจะขึ้นต่อได้ยากในปีนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่เริ่มจะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ ดอยซ์แบงก์ได้ลดคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้ลง 6.8% สู่ระดับ 1,428 เหรียญ และลดคาดปีหน้าลง 10.8% เหลือ 1,338 เหรียญ
กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์จาก CIBC คาดการณ์ราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบที่ยังเอาชนะตลาด และคาดว่าราคาทองคำจะลงไปแตะระดับ 1,200 เหรียญในระยะกลาง และอาจหลุด 1,200 เหรียญไปสู่ระดับ 1,000 เหรียญได้
Bloomberg รายงานเช้านี้ว่า เหมืองทองแอฟริกาใต้ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะตลาดหมีของทองคำ เนื่องจากแรงงานที่อยู่ในเหมืองที่มีต้นทุนแพงที่สุดหยุดงานประท้วง โดยต้องการให้จ่ายค่าแรงเพิ่มมากกว่าสองเท่า
ข่าวเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อตึงตัวในจีนนั้น ธนาคารกลางจีนกล่าวว่าสามารถควบคุมได้แล้ว และความผันผวนล่าสุดในตลาดการเงินเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
ต้นทุนการล็อคสวอปอัตราดอกเบี้ยของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.745% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008 หลังจากธนาคารกลางจีนให้คำมั่นสัญญาว่าจะรับมือกับปัญหาสินเชื่อตึงตัวให้ได้
จากการที่ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกมีการออกมากล่าวในช่วง 36 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงความพยายามที่ยังต้องใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป ทำให้เทรดเดอร์และนักลงทุนคลายความกังวลไปได้จากการประชุม FOMC ในสัปดาห์ที่แล้ว
หากนับตั้งแต่เริ่มต้นไตรมาสที่ 2 เดือนเมษายน ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปแล้ว 20.2% และตอนนี้ราคาทองคำกำลังมุ่งเข้าสู่ไตรมาสการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบมากกว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี 1968 ในช่วงที่ทองคำแท่งมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 40 เหรียญ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.5% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงออกมา 0.7%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.5% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 3.0% ตัวเลขจริงออกมา 3.6%
- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 76.2 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 75.2 ตัวเลขจริงออกมา 81.4
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 454K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 462K ตัวเลขจริงออกมา 476K
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.4% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 2.4%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3M ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -1.9M
ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนที่ออกมาดีมากจำนวน 4 ตัวเลขเมื่อวานนี้ได้แก่ Core Durable Goods Orders, Durable Goods Orders, CB Consumer Confidence และNew Home Sales โดยเช้านี้ราคาทองคำยังถูกกดดันให้ร่วงลงมาหลุดระดับแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,275 เหรียญ และเริ่มไปทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 1,250 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลงและมีโอกาสถูกกดดันให้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยที่ระดับ 1,250 เหรียญจะเป็นแนวรับถัดไป ถ้าหลุดบริเวณนี้จะมีแนวรับที่ระดับ 1,200 เหรียญถ้วน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — แนวโน้มราคาทองคำเป็นแนวโน้มขาลง โดยจากการคาดการณ์ในทุกภาคส่วน โดยหากราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,250 เหรียญได้ มีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ลงทุนในทิศทางแนวโน้มขาลงเป็นหลัก
นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้ปิด Long Position และเปิด Short Position
นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรเป็นช่วงๆ หาจังหวะเปิด Short Position เพิ่มเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมา
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,550 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,650 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Tel: 02-222-6222 E: research@mtsgoldgroup.com
MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44