กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,250 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,231 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.15 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,450 บาท กับ 18,550 บาท และกลับมาปิดที่ 18,150 บาท กับ 18,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 3,718 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,377 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 9.02% แบบ 10 บาทลดลง 8.7% GFM13 ปิด 18,230 บาท และ GFQ13 ปิด 18,320 บาท GF10M13 ปิด 18,210 บาท GF10Q13 ปิด 18,310 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 45.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,229.8ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 93.9 เซนต์ ปิดที่ระดับ 18.587 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 969.50 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 18 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 95.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 149.83 จุด ปิดที่ 14,910.14 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักวานนี้ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 1,222.1 เหรียญ หลังเกิดสัญญาณเทขายทางเทคนิคในตลาดฟิวเจอร์ส ประกอบกับความกังวลที่เฟดจะชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเทขายของ SPDR
แม้ตัวเลขสหรัฐ Final GDP จะออกมาแย่ลงที่ระดับ 1.8% จาก 2.4% ก็ทำได้เพียงสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้นๆ เท่านั้น และเกิดแรงเทขายเข้ามาใหม่ โดยราคาทองคำกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,229.8 เหรียญ
คอมเมิร์ซแบงก์ กล่าวว่า การปรับตัวลดลงล่าสุดของราคาทองคำ หมายถึง การเทขายของกองทุน ETF อีกระลอกหนึ่ง โดยเมื่อดูภาพรวมกองทุน Gold ETF ทั้งหมดที่รวม SPDR ด้วย เมื่อวันอังคารมีการเทขายออกไปทั้งสิ้น 23.3 ตัน นับเป็นปริมาณขายมากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน
สำหรับเมื่อวานนี้ SPDR ไม่ได้ทำอะไร คงทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 969.5 ตัน
นายเจฟฟรี่ย์ เคอร์รี่ย์ จากโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ทองคำใกล้ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,200 เหรียญในระยะอันใกล้ โดยการซื้อขายล่าสุดเรียกได้ว่ามีการเทขายออกมามากเกินไป และจะเกิดแรงกดดันในตลาดทองคำอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
ฟิทช์ เรตติ้งส์ กล่าวว่า การลดมูลค่าของเหมืองทองตอนนี้สามารถอยู่ในความควบคุมได้แล้ว แต่ให้ระวังว่า หากราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,000 เหรียญอาจทำให้เกิดการลดเงินปันผล
นายแพทริค CEO จาก Fourth Quadrant Asset Management กล่าวว่า ราคาต้นทุนหน้าเหมืองอยู่ที่ประมาณ 1,000 เหรียญในการผลิตทองคำ และเขาเชื่อว่าราคาอาจมีการลงไปซื้อขายบริเวณนี้ จากปริมาณความต้องการที่ลดลงในจีนและอินเดีย
นักวิเคราะห์จากเครดิต ซูอิส กล่าวว่า การเข้าซื้อทองคำในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เอเชีย และอินเดียในช่วงปลายเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมจางหายไป และคาดว่าในช่วงอีก 12 เดือนจะเห็นราคาทองคำที่ระดับ 1,150 เหรียญ
HSBC ได้ให้เหตุผล 5 ข้อว่าทำไมราคาทองคำจะปรับตัวลดลงต่อ
1) การลดขนาด QE ของเฟด
2) การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
3) การชะลอตัวในเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจอันดับสองของโลก และผู้บริโภคทองคำอันดับสอง
4) ปริมาณความต้องการทองคำลดลงในอินเดีย ผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่ง
5) แรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางลดลง
นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าววานนี้ว่า อีซีบีจะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปในอนาคต และเรียกร้องให้รัฐบาลในกลุ่มสมาชิกยูโรโซนลดยอดขาดดุลและกระตุ้นการลงทุนมากขึ้น
เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2010 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดที่ยังมีอยู่ และการถือครองของ SPDR ทรงตัว
เวลา 21.00 น. นายดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค จะกล่าวเกี่ยวกับเงื่อนไขในการจ้างงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ และเศรษฐกิจในภูมิภาค
เวลา 21.30 น. นายโพเวลล์ ฝ่ายปกครองของเฟด จะกล่าวเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของนโยบายการเงินในปัจจุบันของเฟด
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.4% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 2.4% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 1.8%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3M ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -1.9M ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.0M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 354K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 347K
- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.3%
- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3%ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.1%
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องในตลาด COMEX แม้ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ออกมาไม่ดีนักที่ระดับ 1.8% จากเดิม 2.4% ทำให้ราคาทองคำยังดีดตัวกลับขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดเอเชีย แต่ในตลาด COMEX เองราคาทองคำยังอยู่ในระดับต่ำโดยปิดตลาดที่บริเวณ 1,229.8 เหรียญ ขณะที่ทองคำยังถูกเทขายอย่างหนักจากกองทุนต่างๆ ถึงแม้ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเมื่อวานก็ตาม ภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก และเชื่อว่าน่าจะมีการทรงตัวอยู่ได้บริเวณแนวรับ 1,220 เหรียญที่อาจจะรับอยู่ในช่วงระยะสั้นๆ คาดว่าราคาอาจจะเคลื่อนตัว Sideways ระหว่าง 1,220 — 1,250 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังใช้กลยุทธ์ลงทุนในแนวโน้มทิศทางขาลง MTS Gold ย้ำเน้นการปรับเปลี่ยนแนวคิดและกลยุทธ์ และถ้านักลงทุนยังติดกับการหาจังหวะช้อนซื้อก็จะประสบภาวะขาดทุน เพราะยังไม่รู้ว่าจะหยุดตกที่ตรงไหน จึงยังแนะนำให้ขายก่อนซื้อทีหลังเป็นหลัก วันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,220 — 1,250 เหรียญ และ Gold Futures M13 จะหมดอายุในเย็นวันนี้เวลา 16.30 น. แนะนักลงทุนพิจารณาและถือครองในซีรี่ย์ถัดไป
- นักลงทุนถือ Long Position
ยังแนะนำให้ทำการปิดสถานะ Long Position และเปิด Short Position ไม่แนะนำให้คอยเติม Margin อย่างเดียว
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ปิดสถานะ Short เพื่อทำกำไรออกไป จะเห็นว่ามีช่วงที่ราคา Rebound ได้เล็กน้อย
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,380 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,260 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,460 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง