กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--โอเอซิส มีเดีย
เปิดประชุมอธิบดีกรมการบินภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 50 วันที่ 1-4 ก.ค.38 ประเทศ + 10 องค์กรการบินทั่วโลกเข้าร่วมยกระดับนิรภัย รักษาความปลอดภัย และความยั่งยืนการบินในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
เปิดงานการประชุมระดับอธิบดีกรมการบินพลเรือนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 50 ชูประเด็นสำคัญมุ่งเน้นนวัตกรรม และเป้าหมายสำหรับการยกระดับนิรภัยการบิน การรักษาความปลอดภัยการบิน และความยั่งยืนของกิจกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กรมการบินพลเรือน เป็นเจ้าภาพต้อนรับ 38 ประเทศภาคีสมาชิก และ 10 องค์กรการบินสำคัญจากทั่วโลก 1-4 ก.ค.นี้
นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวภายหลังเปิดงานการประชุมระดับอธิบดีกรมการบินพลเรือน ภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิก ครั้งที่ 50 (The 50th Conference of Directors General of Civil Aviation, Asia and Pacific Regions: DGCA/50) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคมนี้ โดยกรมการบินพลเรือน เป็นเจ้าภาพ เป็นการประชุมของรัฐภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกรวม 38 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศด้านการบินที่สำคัญจากทั่วโลก 10 องค์กร โดยประเด็นสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ มุ่งเน้นนวัตกรรมและเป้าหมายสำหรับการยกระดับนิรภัยการบิน การรักษาความปลอดภัยการบิน และความยั่งยืนของกิจกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Innovations and Targets for Increased Safety, Enhanced Security and Sustainability of Asia Pacific Aviation)
การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวน และแลกเปลี่ยนข้อมูลตลอดจนข้อคิดเห็นด้านการบินที่สำคัญและกำลังอยู่ในความสนใจของนานาประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาค การส่งเสริมความร่วมมือด้านการบินพลเรือนระดับภูมิภาค และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และข้อกำหนดต่างๆ ตลอดจนการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกฎหมายในระดับภูมิภาค นอกจากนี้ยังเป็นการนำเสนอความก้าวหน้าของกิจการการบินพลเรือนของแต่ละประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา อันจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของกิจการการบินพลเรือนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมถึงเพื่อติดตามผลและประสานงานเกี่ยวกับประเด็นสำคัญๆได้อย่างถูกต้องและทันเวลา
วาระการประชุม DGCA ครั้งที่ 50 มุ่งเน้นความสำคัญของนวัตกรรม และเป้าหมายสำหรับการยกระดับนิรภัยการบิน การรักษาความปลอดภัยการบิน และความยั่งยืนของกิจกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประกอบด้วย การหารือในเชิงเทคนิค เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการบิน รวมถึงมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ของกฎระเบียบสากลทางการบิน ร่วมด้วยการ
พัฒนาทางเศรษฐกิจการขนส่งทางอากาศ การบินและสิ่งแวดล้อม มาตรฐานการปรับปรุงการ — ดำเนินงานพลังงานทดแทนที่ยั่งยืนสำหรับการบิน การรักษาความปลอดภัยทางการบินและการอำนวยความสะดวก การรับมือกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และรวมไปถึงความคิดริเริ่มและนวัตกรรมใหม่ๆ ในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของการบิน เป็นต้น
ทั้งนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติจาก องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ International Civil Aviation Organization (ICAO) ให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับอธิบดีกรมการบินพลเรือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ ถือว่าได้เป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก เพราะเป็นการประชุมนัดพิเศษของการครบรอบวาระการประชุมครั้งที่ 50 ซึ่งจนถึงวันนี้การบินทั่วโลกมีพัฒนาการมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก และเป็นทิศทางเดียวกันกับอัตราการขยายตัวของการขนส่งทางอากาศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จึงเป็นหน้าที่ของรัฐภาคีที่จะหามาตรการในด้านต่างๆ เพื่อทำให้กิจกรรมการบินพลเรือนและการขนส่งทางอากาศให้มีความมั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องมีเสถียรภาพและยั่งยืนอีกด้วย
ประเทศไทยเป็นสถานที่ตั้งขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ สำนักงานสาขาภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การเป็นเจ้าภาพในโอกาสครบรอบ 50 ปีจึงถือเป็นครั้งพิเศษ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการสนับสนุนกิจกรรมของ ICAO นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงศักยภาพและความเป็นผู้นำทางการบินพลเรือนของประเทศไทยในระดับภูมิภาค เป็นการเสริมสร้างความร่วมมืออันดีกับกรมการบินของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมถึงหน่วยงานด้านการบินที่สำคัญจากทั่วโลก
“การประชุมในระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคมนี้ กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ได้จัดเตรียมโปรแกรมไว้อย่างแน่นขนัด ทั้งเนื้อหาการประชุม รวมถึงโปรแกรมทัวร์ ที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าประชุมและผู้ติดตามได้ชื่นชมศิลปวัฒนธรรม รวมถึงการดำรงค์ชีวิตของชาวไทย ทั้งการเยี่ยมชมพระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งวิมานเมฆ โบราณสถานที่จังหวัดอยุธยา ตลาดน้ำดำเนินสะดวก การร่ายรำนาฏศิลป์ เป็นต้น” อธิบดีกรมการบินพลเรือนกล่าว