ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เขตบางพลัด และบางกอกน้อย

ข่าวทั่วไป Monday August 25, 1997 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--25 ส.ค.--กปส.กทม.
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2540 เวลา 10.00 น. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, รศ.ญาณเดช ทองสิมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ดร.สุทัศน์ วีสกุล ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิคม ปราชญ์นคร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะได้เดินทางโดยทางเรือเพื่อตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย ตรวจการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณวัดคฤหบดี วัดบวรมงคล เขตบางพลัด ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณชุมชนดุสิต และตรวจประตูระบายน้ำปากคลองน้ำตาล พื้นที่เขตบางกอกน้อย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า แนวป้องกันน้ำท่วมถาวรตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่เขตบางพลัด ช่วงระหว่างสะพานกรุงธนถึงสะพานพระปิ่นเกล้า กับมาตรการป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว เช่น การสร้างกำแพงกระสอบทราย และทำนบไม้ชั่วคราว ความยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 2.53 ตารางกิโลเมตร ซึ่งสามารถ ป้องกันบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในแขวงบางยี่ขัน ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์นั้น ขณะนี้สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตบางพลัด ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว อย่างไรก็ดีจากการเปรียบเทียบเกณฑ์น้ำท่วมเมื่อปี 2538 กับปัจจุบันพบว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ประชาชนบางส่วนที่อาศัยอยู่ริมถนนแม่น้ำเจ้าพระยากำลังประสบปัญหาอยู่ สำหรับกรุงเทพมหานครในปีนี้ได้จัดเตรียมสร้างสะพานไม้ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังให้เขตบางพลัดตรวจจุดต่างๆ ที่อาจเป็นช่องทางทำให้น้ำไหลลงสู่ถนน พร้อมทั้งจัดกระสอบทรายเตรียมอุดไม่ให้น้ำไหลเข้าได้ ส่วนพื้นที่เขตบางกอกน้อยช่วงระหว่างสะพานพระปิ่นเกล้า เข้าคลองบางกอกน้อย ถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ สำนักการระบายน้ำ ได้เร่งรัดผู้รับจ้างสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมเสร็จแล้ว สำหรับช่วงนี้มีความยาวประมาณ 2.2 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.02 ตารางกิโลเมตร สามารถป้องกันน้ำท่วมและช่วยลดพื้นที่เสียหายลงได้ 65 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสามารถป้องกันน้ำท่วมถนนบรมราชชนนี พื้นที่บางกอกน้อยอีกด้วย ส่วนอีกฝั่งของคลองบางกอกน้อยจะใช้กระสอบทรายทำเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว
โอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กล่าวถึงห้างเมอรี่คิงส์ สาขาสะพานควาย ซึ่งถูกเพลิงไหม้อาคารตั้งแต่ชั้นที่ 2 ถึงชั้นที่ 4 เป็นเวลาถึง 10 ชั่วโมง และศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้รื้อถอนห้างเมอร์รี่คิงส์ ว่า เรื่องนี้ รศ.ประภาภัทร นิยม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ารื้ออาคารเป็นบางส่วน จนไม่สามารถประกอบกิจการได้แล้ว พร้อมกันนี้ก็ได้ประกาศให้อาคารดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลเข้าใช้พื้นที่ ทั้งนี้ตนไม่อยากให้เวลาล่าช้าจนเหมือนห้างนิวเวิลด์ และห้างบางลำภูสรรพสินค้า--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ