กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
บริษัท ฮิตาชิ ลิมิเต็ด (TSE:6501) ประกาศเปิดโครงการผู้นำเยาวชนฮิตาชิ ครั้งที่ 12 หรือ 12th Hitachi Young Leaders Initiative (HYLI) อย่างเป็นทางการ โดยในปีนี้งานประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนฮิตาชิ ครั้งที่ 12 จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ภายในงานฯได้รวบรวมผู้นำเยาวชนทั้งหมด 28 คน รวมทั้งผู้นำทางความคิดและนักการเมือง ระดับสูงของ 7 ประเทศจากภูมิภาคอาเซียน เพื่อร่วมเสวนา บทบาทของอาเซียนในเอเชียและเวทีโลก ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558
โครงการผู้นำเยาวชนฮิตาชิ ครั้งที่ 12 หรือ 12th HYLI จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-5 กรกฎาคม 2556 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โอกาสหรือเวทีแสดงความเป็นผู้นำให้กับ อนาคตผู้นำชาวเอเชีย โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วเอเชีย มารวมตัวกัน เพื่อเสนอแนะ แนวทาง ความคิด ในการแก้ไขปัญหา และสิ่งท้าทายที่เกิดขึ้นในเอเชีย เพื่อให้ตระหนัก และเข้าใจร่วมกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้
“ฮิตาชิ เชื่อมั่นถึงความสำเร็จของโครงการผู้นำเยาวชนฮิตาชิ ครั้งที่ 12” มร. มาซาฮิเดะ ทานิกากิ ผู้แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รองประธานอาวุโส และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ ลิมิเต็ด กล่าว “กว่า 17 ปี ที่เราเห็นโครงการ HYLI เสมือนเป็นเวที เพื่อให้เยาวชนในเอเชีย ได้มีโอกาสฉายแววซึ่งความเจิดจรัสแห่งความเป็นผู้นำ ผ่านการเสวนา ถกประเด็นปัญหาต่างๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำในแต่ละประเทศ โดยท้ายสุดแล้ว เยาวชนเหล่านี้ จะออกมานำเสนอแนวคิด และแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีต่อภูมิภาคอาเซียน รวมถึงปัญหาท้าทายต่าง ๆ ที่รออยู่ในอนาคตอันใกล้”
ในปีนี้ หัวข้อหลักของโครงการผู้นำเยาวชนฮิตาชิ ครั้งที่ 12 ได้แก่ “เส้นทางสู่อนาคต: บทบาทของอาเซียนในเวทีเอเชียและเศรษฐกิจโลก” (The Road Ahead: ASEAN’s Role in Asia and the Global Economy) โดยผู้นำความคิดในอาเซียนที่ได้รับเชิญมา จะมาบรรยายในหัวข้อ ดังนี้
1. AEC 2015: ความคาดหวังของอาเซียนจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และความสำคัญของเอเชียในเศรษฐกิจโลก
2. เครือข่ายระหว่างประเทศ: พลังขับเคลื่อนของการแข่งขันของอาเซียน
รายชื่อของวิทยากรหลักที่เดินทางมาจากทั่วภูมิภาคอาเซียนที่จะมาบรรยายในหัวข้อเกี่ยวกับอาเซียน ได้แก่ (เรียงตามลำดับสุนทรพจน์):
มิสฮูดา บาวาเรส รองผู้ช่วย องค์การเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและการเงิน กระทรวงพาณิชย์ (อินโดนีเซีย)
มร. ชิเกฮิโร ทานากะ ผู้อำนวยการ แผนกระบบการค้าพหุภาคี กระทรวงพาณิชย์ การค้าและอุตสาหกรรม (ญี่ปุ่น)
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ดาตั๊ก โนฮารัดดิน นอร์ดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กระทรวงการพัฒนาการลงทุน ประเทศมาเลเซีย (MIDA) (มาเลเซีย)
มร. โรแลนโด ตังพาลาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการการวางแผนการลงทุน กองการพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติ (หมู่เกาะฟิลิปปินส์)
มร. ลี ยุง ยุง ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ยามาโตะ เอเชีย จำกัด อดีตนักวิจัย สถาบันการศึกษาด้านนโยบาย ลีกวนยู มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (สิงคโปร์)
ดร.จุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการจราจร กระทรวงคมนาคม (ไทย)
แพม ธาน ถัง ผู้อำนวยการทั่วไป แผนกองค์การนานาชาติ กระทรวงคมนาคม (เวียดนาม)
“ฮิตาชิรู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งมาก ที่ผู้นำทางความคิดจากทั่วอาเซียนให้เกียรติเดินทางมาร่วมบรรยายในงานประชุมดังกล่าว การอุทิศและทุ่มเทของผู้นำทุกท่านในการมอบความรู้ ประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน จะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้เยาวชนอาเซียนของเราได้เติบโตเป็นผู้นำที่มีศักยภาพในอนาคต” มร. คิโยอากิ อิกาย่า กรรมการบริหารภูมิภาคเอเชีย บริษัท ฮิตาชิ ลิมิเต็ด ประธาน บริษัท ฮิตาชิ เอเชีย จำกัด และฮิตาชิ อินเดีย จำกัด กล่าว
โครงการดังกล่าวริเริ่มขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ใน พ.ศ. 2539 นับแต่นั้น โครงการ HYLI ก็ประสบความสำเร็จมาโดยตลอดในการเฟ้นหา รวบรวม และฟูมฟัก นักศึกษาที่มีศักยภาพในเอเชีย แต่ละปีจะมีการคัดเลือกนักศึกษาหัวกะทิ อายุไม่เกิน 28 ปี ประเทศละ 4 คน เข้าร่วมโครงการฯ ล่าสุดเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ HYLI มี 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม และญี่ปุ่น สำหรับโครงการ 12th HYLI มีผู้สมัครในโครงการฯทั้งสิ้น 222 คน จากมหาวิทยาลัยทั้งหมด 36 แห่ง
ผู้นำเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ต่างผ่านขั้นตอนการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากคุณสมบัติทางด้านวิชาการ อาทิ ผลการเรียนเป็นเลิศ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร รางวัลหรือความสำเร็จที่เคยได้รับ ใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีเยี่ยม มีความรู้รอบตัวที่หลากหลาย และมีความสนใจในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ทั้ง 28 คน ที่ได้รับการคัดเลือกจะเป็นตัวแทนประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ ตลอดสัปดาห์
นอกเหนือจากงานประชุมฟอรั่ม และเวิร์คช้อป ที่ได้คิดมาเพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้นำและนักการเมืองในภูมิภาคนี้ ทางฮิตาชิยังได้ริเริ่มให้เยาวชนได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงไฟฟ้า ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. อีกด้วย