กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,198 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,213 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.19 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 17,700 บาท กับ 17,800 บาท และกลับมาปิดที่ 17,750 บาท กับ 17,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,430 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,951 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.9% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 2.3 % GFQ13 ปิด 18,070 บาท และ GFV13 ปิด 18,130 บาท GF10Q13 ปิด 18,060 บาท GF10V13 ปิด 18,140 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 32 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,255.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 10.8 เซนต์ ปิดที่ระดับ19.578 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 968.3 ตัน (ขายออก 1.2 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 97.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 65.36 จุด ปิดที่ 14,974.96 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำเช้านี้ได้ปรับตัวลดลงบางส่วน จากข้อมูลสหรัฐโดยรวมที่ออกมาทั้งดีและไม่ดี ได้เพิ่มความไม่แน่นอนว่าเฟดจะเริ่มชะลอ QE ในปีนี้หรือไม่
ราคาทองคำในช่วงการซื้อขายก่อนหน้าได้ปรับเพิ่มขึ้น จากการทำ Short Covering (ปิดสถานะ Short เพื่อตัดขาดทุน) และการเข้าเก็งกำไร แต่ SPDR ยังคงเทขายทองคำออกมาอีก 1.2 ตัน จากระดับ 969.5 ตัน สู่ระดับ 968.3 ตัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยในปีนี้ SPDR ได้ขายออกไปเกือบ 13 ล้านออนซ์แล้ว
ราคา ทองคำในคืนวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมาจนถึงวันจันทร์ จากคำกล่าวของสมาชิกเฟดที่ยังต้องการให้คงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย และกระตุ้นให้เกิดความดึงดูดใจในทองคำ
จาก ข้อมูลที่ประกาศเมื่อคืนนี้ ตัวเลขภาคการผลิตเมื่อเดือนที่แล้วออกมาเพิ่มขึ้น ฟื้นตัวจากการลดลงอย่างผิดคาดในเดือน พ.ค. อย่างไรก็ตามการจ้างงานในภาคการผลิต ได้ออกมาอ่อนแอมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี
ตลาด หุ้นเอเชียได้รับผลกระทบตั้งแต่วันแรกของไตรมาสใหม่ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาอ่อนแอ และโกลด์แมน แซคส์ปรับลดศักยภาพของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย
นายจอห์น วิลเลี่ยม ประธานเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่สนับสนุนให้เฟดลดขนาด QE ในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังต่ำกว่าที่คาด
นายเจเรมี่ สเตอิน ฝ่ายปกครองเฟด กล่าวว่า บางทีเดือนกันยายนอาจจะเป็นเวลาที่เฟดจะตัดสินใจว่าจะเริ่มเข้าสู่การยกเลิก QE หรือไม่ และเน้นย้ำถึงความจำเป็นให้มองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ออกมาสลับกันทั้งไม่ดีและดี โดยดัชนี Chicago PMI ออกมาแย่ลงที่ 51.6 จากคาดการณ์ 55.5 แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดีขึ้นที่ 84.1 จากคาดการณ์ 83.1
ในเดือนมิถุนายน ยอดขายเหรียญทองคำอเมริกา อีเกิ้ล โกลด์ บุลเลี่ยน คอยน์ ลดลงสู่ระดับ 57,000 ออนซ์ นับเป็นยอดขายที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก CFTC เก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 25 มิ.ย. ระบุว่า นักลงทุนลดการลงทุนในสถานะ Long ลง 20% สู่ระดับ 31,197 คู่สัญญา นับว่าต่ำสุดในรอบหกปี
ในไตรมาสที่ 2 ราคาทองคำเข้าสู่ไตรมาสที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 23% ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,180เหรียญเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2010
ปริมาณความต้องการทองคำในอินเดียและจีนยังคงซบเซา แม้ค่าพรีเมี่ยมจะทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สมาคมค้าอัญมณีและเครื่องประดับสนับสนุนการส่งออกของอินเดีย กล่าวเตือนเมื่อวันอาทิตย์ว่า ยอดส่งออกเครื่องประดับจะลดลง 15-20% ในปี 2014 เนื่องจากความขาดแคลนของทองคำในตลาดอินเดียจากมาตรการจำกัดการนำเข้าของรัฐบาล
ในวันจันทร์ บาร์เคลย์ออกมากล่าวลดคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้อยู่ที่ 1,393 เหรียญ จาก 1,483 เหรียญ จากปริมาณความต้องการทองคำที่อ่อนแอในไตรมาสที่สอง และการเทขายของกองทุน ETF
นักลงทุนจะจับตาการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดี และการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ในคืนวันศุกร์นี้
จากความกังวลที่เฟดจะลดขนาด QE ส่งผลให้นักลงทุนถอนเงินออกจากตลาดพันธบัตรในเดือนมิถุนายนมากเป็นประวิตการณ์ถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
-Chicago PMI เดิม 58.7 ผลออกมาลดลงเหลือ51.6
-Revised UoM Consumer Sentiment เดิม82.7 ผลออกมาดีขึ้น 84.1
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์
- ISM Manufacturing PMI เดิม49.0 ผลออกมาเพิ่มขึ้น 50.9
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Factory Orders เดิม1.0% คาดการณ์เพิ่มขึ้น 2.0%
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็น Technical Rebound หลัง จากปรับตัวลดลงรุนแรงจากคืนวันพฤหัสและวันศุกร์ ตลาดบ้านเราปิดทำการวันจันทร์เนื่องจากวันหยุดครึ่งปีธนาคาร ทำให้ส่วนต่างของราคาทองคำในวันนี้กับวันศุกร์แตกต่างกันค่อนข้างมาก ราคาทองคำตลาดช่วงเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับปรมาณ 1,258 เหรียญ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเข้าสู่ช่วง Technical Rebound น่าจะมีการ Rebound ขึ้น ไปที่ระดับประมาณ 1,275 — 1,300 เหรียญ ไม่น่าจะทะลุผ่านแนวต้านที่ระดับ 1,300 เหรียญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์ที่ต้องติดตามคือ Non-Farm Employment Change โดยในวันนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวในช่วง 1,230 — 1,270 เหรียญ เป็นลักษณะSideway ในกรอบ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นลักษณะ Sideway โดยให้ปิดสถานะทำกำไรตามจังหวะการแกว่งตัว
- นักลงทุนถือ Long Position
ให้ขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้หาจังหวะในการปิด เนื่องจากในระยะสั้นมีโอกาสดีดขึ้นไปก่อน หรือหาจังหวะในการปิดสถานะ รอความชัดเจนของ Non-Farm Employment Change ในวันศุกร์นี้
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,780 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,850 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Tel: 02-222-6222 E: research@mtsgoldgroup.com
MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44