กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--กสทช.
กสทช.ประวิทย์ เดินสายเยี่ยม 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ข้อมูลสิทธิ พร้อมเผยนักเรียนตรังทดลองเลี้ยงแมลงหวี่พร้อมไวไฟ เจออาการผ่าเหล่า มีปีกงอกเพิ่มขึ้น
ที่จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ที่ผ่านมา ในระหว่างการร่วมเสวนากับเครือข่ายภาคประชาชน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ คณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และ เครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ได้กล่าวให้ข้อมูลว่า ผู้บริโภคในยุคนี้จะต้องเรียนรู้เทคโนโลยีและบริการ เพราะต้องเท่าทัน เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มิฉะนั้นอาจทำให้ต้องเสียเงินมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว สำหรับด้านเทคโนโลยี เช่น การดาวน์โหลดแอพพริเคชั่น บางครั้งแอพพริเคชั่น ก็มีการตั้งค่าออโต้อัพเดท ข้อมูลในเครื่องก็จะมีการอัพเดทตลอดเวลาโดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบ หรือ กรณีเอสเอ็มเอสรบกวน ที่ส่งลิงค์ที่เป็นมัลแวร์ หากกดไปดูจะทำให้ข้อมูลส่วนตัวของเราในเครื่องจะถูกแฮ็คไปหมด เป็นต้น สำหรับเรื่องบริการนั้น กรณีบริการเสริมไม่ได้สมัครใช้แต่ถูกหักเงินผู้ใช้บริการจะต้องตรวจสอบ และหากพบให้ทวงเงินคืน เพราะมีผู้ใช้บริการอีกมากที่ถูกหักค่าบริการเสริมทั้งที่ไม่ได้สมัครใช้ บริการ ยังมีสิทธิอีกหลายประเด็นที่ผู้บริโภคควรทราบ เช่น สิทธิในการยกเลิกสัญญา สิทธิในการขอให้ตรวจสอบกรณีพบความผิดปกติในการคิดค่าบริการ กรณีเลือกที่จะปิดหรือเปิดบริการ เช่น บริการโรมมิ่งในพื้นที่ชายแดน หากไม่ได้ใช้บริการควรแจ้งบริษัทเพื่อปิดบริการ และหากเจอปัญหาจากการใช้บริการควรแลกเปลี่ยนให้ผู้อื่นทราบเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับคนอื่น
“ประเด็นเรื่องความเป็นอันตรายต่อสุขภาพนั้น เท่าที่ทราบนักเรียนที่อิสราเอลได้ทดลองปลูกเมล็ดผัก ๒ แปลง แปลงหนึ่งมีไวไฟมาตั้ง กับอีกแปลงหนึ่งไม่มีไวไฟ และพบว่า แปลงที่ปลูกพร้อมสัญญาณไวไฟนั้นเมล็ดผักไม่งอก ไม่เติบโต ล่าสุดได้ทราบว่า ที่โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดตรัง ได้ทำการศึกษาโดยเอาเร้าเตอร์ไวไฟเปิดไว้แล้วทดลองเลี้ยงแมลงหวี่ ระหว่างแมลงหวี่ที่เลี้ยงและมีไวไฟ กับแมลงหวี่ที่ไม่มีไวไฟ ผลการศึกษาของเด็กนักเรียนพบว่า แมลงหวี่รุ่นที่ ๔ มีปีกเล็กๆเพิ่มขึ้นมาอีก ๒ ปีก ที่เรียกว่าผ่าเหล่า ปีกที่เคยมีอยู่เท่านี้ ก็งอกมาเพิ่ม ปลอดภัยหรือไม่ก็ต้องคิดเอา มันมีผลต่อดีเอ็นเอไม่ว่าพืช หรือมนุษย์ ซึ่งผู้ใช้บริการต้องระมัดระวังและรวมไปถึงสัญญาโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งไม่ควรนำไปไว้ใกล้หัวนอนตัวเอง ” นายประวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ผลการศึกษาของนักเรียนกลุ่มนี้ได้นำเสนอในการประกวดโครงการวิทยาศาสตร์ประจำปี ๒๕๕๕ ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็คทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค