กรุงเทพ--8 ก.ย.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
กทม.ตัดสินใจชลอการก่อสร้างอาคารศาลาว่าการ กทม. 2 เพื่อนำงบฯ ไปเสริมโครงการป้องกันน้ำท่วม และแก้ไขปัญหาจราจร
ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ว่า จากภาวะเศรษฐกิจ ในปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบให้งบประมาณของ กทม. ไม่เพียงพอ และอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้น ผู้บริหาร กทม. จึงต้องใช้วิธีการประหยัดมากที่สุด เพื่อสำรองเงินไว้ในกรณีฉุกเฉิน โดยจะถือหลักการว่า โครงการสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนกับประชาชนเราจะเริ่มลงมือก่อสร้างทันที ส่วนโครงการที่มีผลกระทบต่อประชาชนน้อย หรือไม่มีเลย ก็จะชลอโครงการไว้ก่อน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการที่ผู้บริหาร กทม. ได้ตัดสินใจชลอการก่อสร้างไว้ก่อน ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคารศาลาว่าการ กทม. 2 ตามแบบสัญญาที่จัดทำโดยวิธีประกวดราคา ในวงเงิน 3,195 ล้านบาท เป็นงบฯ สะสมปี 2539 จำนวน 280 ล้านบาท และงบฯ สะสมปี 2540 จำนวน 382 ล้านบาท มีกำหนดแล้วเสร็จในระยะเวลา 1,095 วัน ทั้งนี้ กทม. ได้ชลอโครงการก่อสร้างออกไป และให้เปลี่ยนเป็นโครงการที่แบ่งการก่อสร้างเป็นระยะ ๆ แทน โดยในระยะแรกจะก่อสร้างอาคารที่จำเป็นก่อน เพื่อให้เป็นอาคารที่ทำงานของหน่วยงานที่ไปเช่าอาคารพาณิชย์อื่นอยู่ เช่น สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักอนามัย
ดร.พิจิตต กล่าวในตอนท้ายว่า ในการนี้ตนได้มอบหมายให้ นายประเสริฐ สมะลาภา ปลัดกรุงเทพมหานครและนายบำเพ็ญ จตุรพฤกษ์ รองปลัด กทม. หารือว่า จากโครงการสร้างใหญ่ที่ได้ลงเสาเข็มไปแล้ว ถ้าจะก่อสร้างเป็นบางส่วนเพื่อให้มีพื้นที่พอสำหรับสำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักอนามัย ไปอยู่ชั่วคราวก่อน จะดำเนินการอย่างไร โดยงบประมาณในการก่อสร้างคาดว่าจะอยู่ในวงเงินไม่เกิน 500-600 ล้านบาท และจากการที่ กทม. ได้ชลอโครงการดังกล่าวออกไป จะทำให้มีเงินสำรองประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งงบฯ จำนวนนี้สามารถนำไปใช้เพื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และปัญหาการจราจร เป็นต้น--จบ--