กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“แม็คกรุ๊ป” ปลื้มราคาเปิดเหนือราคาจองซื้อที่ 15.00 บาท สวนภาวะตลาดในช่วงผันผวน FA มั่นใจพื้นฐาน — ฐานะทางการเงินแกร่ง พร้อมรักษาแชมป์ยอดขายยีนส์เบอร์ 1 ของไทย เตรียมปันผลทันที 0.225 บาท
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC หนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกายและสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยมี “แม็คยีนส์” หนึ่งในแบรนด์ของกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้น “MC” มีราคาเปิดเหนือราคาจองซื้อนั้น สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัท ประกอบกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนภาวะตลาดในช่วงนี้ที่มีความผันผวนทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ
ด้วยประสบการณ์กว่า 38 ปี และทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ “MC” ได้มีการพัฒนาสินค้าและนำเสนอแบรนด์ใหม่ๆให้มีความโดดเด่น ด้วยรูปแบบการดีไซน์ที่แตกต่าง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงแต่เสนอขายในราคาที่เหมาะสม อีกทั้งมีการบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายให้แข็งแกร่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ จึงทำให้ “MC” สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ “MC” สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ยีนส์ที่มีแบรนด์ในประเทศไทย
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MC” กล่าวแสดงความขอบคุณนักลงทุนและผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและความสนใจลงทุนในหุ้น “MC” จนทำให้ราคาเปิดของหุ้น “MC” สูงกว่าราคาไอพีโอที่ราคา 15.00 บาท และขอให้ความมั่นใจว่าทีมผู้บริหารและพนักงาน “MC” จะทุ่มเทความพยายามอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อรักษาความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนไทย
ทั้งนี้ “MC” วางแผนที่จะใช้เงินจาก IPO เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศตามเป้าที่วางไว้ในปีนี้ เพิ่มจากปัจจุบันที่มีกว่า 550 สาขาแล้ว และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด การลดต้นทุนในส่วนของการจัดทำสินค้า และการพัฒนาระบบไอที เพื่อให้การจัดการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอทำให้บริษัทฯ มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท หรือ 800 ล้านหุ้น โดยบริษัทฯ มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.225 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวน 180 ล้านบาท หลังจากผลประกอบการรวมในไตรมาสแรกเติบโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทได้กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD (Ex-dividend date) ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินปันผลในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2556