กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--บลจ.ยูโอบี
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด (เดิมคือ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด) ได้ดำเนินการควบรวมธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อ“บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด” และก้าวขึ้นสู่อันดับ 6 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 2 แสนล้านบาท (ณ พ.ค. 56) พร้อมประกาศแผนธุรกิจ “ก้าวสู่อันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรม ในอีก 3 ปีข้างหน้า”
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวว่า “การควบรวมธุรกิจครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งวิสัยทัศน์ของกลุ่มยูโอบี เพื่อขยายธุรกิจให้พร้อมเป็นธนาคารภูมิภาคชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมกองทุนภายในประเทศ ที่ผสานความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านบริหารจัดการธุรกิจกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของทั้ง 2 บลจ. ที่มีความแข็งแกร่งเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสามารถการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่พร้อมสรรพ ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายในวงกว้างขึ้น”
การควบรวมกิจการดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด มีความมั่นคงมากขึ้นจากทั้งสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการและสัดส่วนการตลาดที่สูงขึ้น และมากไปกว่านั้นบริษัทจัดการจะมีจำนวนบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการจัดการกองทุนรวมซึ่งเป็นที่ยอมรับในธุรกิจการบริหารจัดการกองทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันเป็นการเสริมสร้างชื่อเสียงและการยอมรับโดยทั่วไป อีกทั้งเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านผลิตภัณฑ์และผนึกกำลังเพื่อก้าวสู่อีกระดับของความสำเร็จ
นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ — สายการลงทุน ได้ให้ความเห็นว่า “ทีมการลงทุนจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงการบริหารกองทุนที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ปรัชญาการลงทุน ขั้นตอนการลงทุน และกรอบการทำงานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ทั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างผลตอบแทนกองทุนที่ดีกว่า”
สำหรับแผนการตลาด นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ — สายพัฒนาธุรกิจ ได้กล่าวว่า “ด้วยความสามารถด้านการบริหารการลงทุน และฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นับเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจและเพิ่มฐานลูกค้าทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าสถาบัน โดยเรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทางเลือกการลงทุนด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรและบริการที่เป็นเลิศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการแนะนำและคำปรึกษาการลงทุนจากทีมงานที่มีประสบการณ์สูง สามารถตอบโจทย์และบรรลุเป้าหมายการลงทุนของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัว นอกจากนี้เรายังมีแผนงานที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจในระดับภูมิภาค ทั้งกับบลจ.ยูโอบีในประเทศต่างๆและพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเพิ่มช่องทางการลงทุนในตราสารต่างประเทศ รวมถึงการขยายฐานผู้ลงทุนในต่างประเทศด้วย ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำในระดับภูมิภาค”
นางสุนรี พิบูลย์ศักดิ์กุล กรรมการผู้จัดการ — สายปฏิบัติการ ได้กล่าวว่า “หลังจากควบรวม เราจะมีระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งเทคโนโลยี ระบบบริหารการลงทุน ระบบงานทะเบียน รวมถึงระบบการบริหารความเสี่ยงและการวัดผลตอบแทนของกองทุนที่เป็นมาตรฐานสากล ทั้งนี้การพัฒนาระบบดังกล่าว เพื่อสนับสนุนงานด้านการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นในอนาคต”
นายวนา พูลผล ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า “เราจะเป็นสถาบันการเงินที่ให้บริการด้านการบริหารเงินลงทุนแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมที่มีระดับความเสี่ยงแตกต่างกันสำหรับนักลงทุนทั่วไป กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับนักลงทุนสถาบัน รวมถึงการลงทุนทางเลือกที่มีความหลากหลายสำหรับกลุ่มนักลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง ผ่านที่ปรึกษาการลงทุนที่มีประสบการณ์และความชำนาญ การควบรวมนี้จะเป็นการผนึกกำลังที่แข็งแกร่ง และแน่นอนว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา”
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน
สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
จิรชยา ลาภถาวรเกียรติ 02 6767100 ต่อ 163