กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--ทริปเปิล เอท ไอเดียส์
บางแสนอยู่ห่างจากรุงเทพมหานครเพียงแค่ใช้ระยะเวลาขับรถประมาณ 90 นาทีเท่านั้น แต่ในปัจจุบันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทย และชาวต่างชาติเหมือนในอดีต หรือเหมือนกับเมืองชายทะเลอื่นๆ แต่เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน ซึ่งทั้งนักเรียน อาจารย์ ตลอดจนพนักงานของมหาวิทยาลัย คือปัจจัยหลักที่ช่วยพื้นที่นี้มีการขยายตัว โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัย
อุปทานของคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและจดทะเบียนที่กรมที่ดินแล้ว ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 มีอยู่ประมาณ 4,380 ยูนิต อ้างอิงจากรายงานวิจัยตลาดคอนโดมิเนียมในบางแสนฉบับล่าสุดจากฝ่ายวิจัย ของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งในรายงานฉบับนี้คอลลิเออร์ส ได้แบ่งบางแสนออกเป็น 3 พื้นที่ คือ อ่างศิลา บางแสนฝั่งเหนือ (ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย) และบางแสนฝั่งใต้ (ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัย)
นายนายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย จากคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในบางแสนว่า “พื้นที่ที่น่าสนใจคือ บางแสนฝั่งเหนือ และบางแสนฝั่งใต้ ซึ่งมีโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในทั้ง 2 พื้นที่นี้ โครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2537 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปีพ.ศ.2555”
“นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพา คือปัจจัยหลักที่ช่วยเร่งให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ และใต้ นักเรียนบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตจากพักอาศัยในอพาร์ทเม้นท์ มาเป็นคอนโดมิเนียม และขายยูนิตของตนเองหลังจากเรียนจบ” นายสุรเชษฐ กล่าว
“ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในบางแสนทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์บางรายเองก็มีแผนที่จะเปิดขายโครงการในพื้นที่นี้เช่นกัน นอกจากนี้ราคาขายเฉลี่ยในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ประมาณ 7% และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต” นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติม
คอนโดมิเนียมหลายโครงการเปิดขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีคอนโดมิเนียมจำนวนมากที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วง 1 — 2 ปี นับจากนี้ ซึ่งนายนายสุรเชษฐ กองชีพ ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงคอนโดมิเนียมที่กำลังก่อสร้างว่า “มีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จในปีนี้ในพื้นที่อ่างศิลาเพียงแค่ประมาณ 240 ยูนิตเท่านั้น เนื่องจากจำนวนที่ดินที่มีอยู่จำกัด ในขณะที่มีอีกประมาณ 600 ยูนิต และ 440 ยูนิตที่กำหนดแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2556 ในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ และใต้ ตามลำดับ พื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ และใต้ ได้กลายเป็นทำเลยอดนิยมในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีที่ดินที่มีศักยภาพ และราคาไม่สูงเกินไปอีกหลายแปลงอยู่ในพื้นที่ และความต้องการคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”
กลุ่มผู้ซื้อในบางแสน คือ นักศึกษา และคนที่ทำงานในมหาวิทยาลัยบูรพา รวมทั้งคนที่เดินทางมาทำงานในพื้นที่นี้ หรือในพื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี นอกจากนั้น มีผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าให้กับนักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน เป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่บางแสน และอ่างศิลา โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม
“อัตราการขายได้เฉลี่ยในบางแสน และอ่างศิลา อยู่ที่ประมาณ 72% อัตราขายได้เฉลี่ยในพื้นที่อ่างศิลาต่ำที่สุดที่ประมาณ 64% และประมาณ 87% ของยูนิตในพื้นที่นี้เปิดขายในช่วงปีพ.ศ.2555 — เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 คอนโดมิเนียมมากว่า 2,670 ยูนิตเปิดขายในปีพ.ศ.2555 ในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ ความต้องการที่มีมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ เป็นปัจจัยที่ช่วงส่งเสริมให้อัตราการขายได้ในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือสูงขึ้น อัตราการขายได้เฉลี่ยในบางแสนฝั่งเหนือ และฝั่งใต้ อยู่ที่ประมาณ 74% และ 72% ตามลำดับ ” นายสุรเชษฐ กล่าว
“แม้ว่าค่าเช่าของคอนโดมิเนียมจะสูงกว่าอพาร์ทเม้นท์ แต่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยบูรพาบางส่วนยังเลือกที่จะพักอาศัยในคอนโดมิเนียม เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ที่จอดรถ และระบบรักษาความปลอดภัย และนี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนโดยซื้อคอนโดมิเนียมที่อยู่รอบๆ มหาวิทยาลัยเพื่อปล่อยเช่า นักศึกษาของมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน มีมากกว่า 30,000 คน และประมาณ 6,000 คนเป็นนักศึกษาใหม่ในปีพ.ศ.2556 ซึ่งจำนวนนักศึกษาที่มีมากขนาดนี้ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรมในพื้นที่ คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่เปิดขายในช่วง 2 — 3 ปีที่ผ่านมาพุ่งเป้าไปที่นักศึกษาที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมไว้พักอาศัยระหว่างเรียนที่นี่ หลังจากนั้นจึงขาย หรือปล่อยเช่าออกไปเมื่อเรียนจบ” เขากล่าวเพิ่มเติม
ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่บางแสนอยู่ในช่วงประมาณ 750,000 บาท ถึงมากกว่า 8 ล้านบาทต่อยูนิต หรือประมาณ 29,000 บาทต่อตารางเมตร ถึงประมาณ 115,000 บาทต่อตารางเมตร โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมทั้งหมดในตลาดอยู่ที่ประมาณ 45,600 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 7% จากปีพ.ศ.2555
“ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่บางแสนฝั่งใต้สูงกว่าพื้นที่อื่นประมาณ 12 — 40% เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษา และพนักงานของมหาวิทยาลัยมากกว่าพื้นที่อื่น นอกจากนี้ราคาที่ดินในบริเวณนี้ก็สูงกว่า ซึ่งกระทบโดยตรงต่อราคาขายของคอนโดมิเนียม ราคาขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือในปีพ.ศ.2556 เพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ.2555 มากกว่า 15% เพราะว่าโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการที่เปิดขายในช่วง 1 — 2 ปีที่ผ่านมาใกล้จะแล้วเสร็จ” นายสุรเชษฐ กล่าว