เอเอเอสฯ เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล(CONTINENTAL GT SPEED CONVERTIBLE)

ข่าวยานยนต์ Friday July 5, 2013 15:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส เอเอเอสฯ เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล(CONTINENTAL GT SPEED CONVERTIBLE) รถยนต์เปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ ที่สุดของความสมบูรณ์แบบและความทรงพลังอย่างเต็มพิกัด เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทอล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible ) ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ณ Hall of Mirrors ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่งที่เร็วที่สุดในโลก: 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประสิทธิภาพเครื่องยนต์เสมือนกับซูเปอร์คาร์ ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า เครื่องยนต์ W12 มาพร้อมกับระบบส่งผ่านกำลัง 8 สปีด เส้นสายของรถที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยความสปอร์ต ผสมผสานเข้ากับงานหัตถกรรมชั้นหรูร่วมสมัย สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยม และปราณีตเหมือนรุ่นคูเป้ เครื่องยนต์ W12 ได้รับการพัฒนาให้มีอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษได้มากถึง 15% เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานมหกรรมยานยนต์ Detroit Auto Show เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เบนท์ลี่ย์เปิดตัว คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) รถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพและพละกำลัง อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นรถยนต์ 4 ที่นั่ง เปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการแล้วในงานมหกรรมยานยนต์ North American International Auto Show ที่เมืองดีทรอย ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ใหม่ล่าสุดคือรถยนต์ที่เสมือนเป็นตัวแทนของการผสมผสานกันระหว่างรถเปิดประทุนที่หรูหราเข้าไว้กับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ทรงพลังได้อย่างลงตัว โดยเครื่องยนต์ twin-turbocharged 6.0 ลิตร W12 มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า และพัฒนาศักยภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นอีก 15% เลยทีเดียว ระบบส่งกำลังเครื่องยนต์มีอัตราการทดเกียร์อยู่ที่ 8 สปีด ระบบช่วงล่างได้รับการพัฒนาให้มีการยกระดับให้สูงและต่ำลงได้ ระบบพวงมาลัยมีความแม่นยำส่งผลให้รถมีอัตราการเร่งเครื่องยนต์ที่โดดเด่น การขับเคลื่อนและการรักษาเสถียรภาพของรถสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้รถมีความสะดวกสบายสูงสุด ระบบขับเคลื่อนออกมาในรูปแบบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถมีสมรรถนะในการเกาะถนนได้อย่างดี และมีพละกำลังเครื่องยนต์ที่ถูกส่งออกมาสู่ทุกๆ สภาวะของท้องถนนได้อย่างเต็มพิกัดอีกด้วย คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ใหม่ล่าสุดคันนี้ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมาะสมกับความเป็นที่สุดในรุ่นคอนติเนนทัลของเบนท์ลี่ย์ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังผสมผสานไว้ทั้งงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยม หรูหรา และมีพละกำลังเครื่องยนต์และประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นกว่าใคร ล้ออัลลอยด์ 21 นิ้วที่โดดเด่น ปลายท่อไอเสียในรูปแบบ ‘rifled’ ต่างได้รับการติดตั้งเสริมรูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตให้กับรถคันนี้มากขึ้น ภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยม และมีจุดเด่นด้วยการติดตั้งชุดแต่ง Mulliner Driving Specification มาเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมาตรฐานให้กับรถ เสริมความเป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราที่ร่วมสมัยเข้าไว้กับความเป็นสปอร์ตที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว Dr Wolfgang Schreiber ประธานกรรมการและประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ใหม่ล่าสุดคันนี้ว่า “หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากรุ่นจีที สปีด (GT Speed) ในตอนนี้เราจึงขอแนะนำ คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ใหม่ล่าสุดที่ออกมาสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการสัมผัสถึงความเป็นที่สุดของรถยนต์ 4 ที่นั่งเปิดประทุนที่เร็วที่สุด มีประสิทธิภาพตามความเป็นรถยนต์แกรนด์ ทัวเร่อร์ ทุกประการ อีกทั้งยังมาพร้อมกับความหรูหรา ปราณีต และได้รับการออกแบบมาให้มีความสมบูรณ์แบบ” ระบบขับเคลื่อน: 12 สูบ 616 แรงม้า และเกียร์ 8 จังหวะ รายละเอียดของระบบขับเคลื่อนของคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) จะคล้ายกับรุ่นจีที สปีด คูเป้ (GT Speed coup?) เครื่องยนต์ออกมาในรูปแบบ W12 48 วาล์ว twin-turbocharged และให้พละกำลังสูงสุดถึง 616 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่งจาก 0-100 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 9.7 วินาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800 นิวตันเมตร ขณะที่รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบต่อนาที และสามารถรักษาระดับแรงบิดนี้ไว้ได้จนถึง 5,000 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว ระบบ ME17 engine management system มีความสามารถในการคำนวนการทำงานได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังทำการควบคุม turbocharger และการจัดการแรงบิด และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ได้รับการเสริมทัพด้วยระบบหมุนเวียนพลังงาน Energy recuperation system เหมือนกับรุ่นเครื่องยนต์ W12 รุ่นอื่น มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้มีความสามารถในการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ส่งผลให้รถสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอีก 15% หากเทียบกับรุ่นสปีดเจเนอเรชั่นเดิม คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ใหม่ล่าสุดมีระบบขับเคลื่อนที่ดีขึ้นกว่ารุ่นสปีดเดิม และมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเทียบเท่ากับรุ่นคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) W12 ใหม่ หากทำการเปลี่ยนเกียร์เข้าสู่โหมดสปอร์ตจะทำให้ได้มาซึ่งการตอบสนองต่อเครื่องยนต์ที่รวดเร็วขึ้น และระบบส่งผ่านกำลังจะเปลี่ยนเกียร์เมื่อความเร็วของเครื่องยนต์สูงขึ้น และทำการ ‘block shifting’ ได้เร็วขึ้น (เช่น เปลี่ยนจากระดับเกียร์ 8 เข้าสู่เกียร์ 4 โดยตรงเป็นต้น) ส่งผลให้ได้มาซึ่งอัตราเร่งที่สมบูรณ์แบบอีกด้วย ตัวถัง; ต่ำลง เฉียบคมขึ้น และมีส่วนร่วมมากขึ้น ด้วยดีกรีของความแกร่งเชิงบิดที่ยอดเยี่ยมที่ 22,500 นิวตันเมตรต่อดีกรี ทำให้ตัวถังของคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) มีความแข็งแกร่ง และเป็นพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการตั้งค่าช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ (Double wishbone) และช่วงล่างด้านหลังแบบ trapezoidal multi-link นี้เองที่เป็นจุดเด่นทำให้สปริงของช่วงล่างแบบถุงลมและเครื่องลดกันสะเทือนได้รับการปรับเปลี่ยน และพัฒนาให้เกิดการเกาะถนน การทรงตัว และการควบคุมตัวรถได้ดีขึ้น อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ระบบการลดระดับ self-levelling system ได้รับการตั้งค่าให้ลดลง 10 มิลลิเมตร จากรุ่น คอนทิเนนทัล จีที คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Convertible) ช่วงล่างมีความแน่นหนาและแข็งแกร่ง รักษาเสถียรภาพของรถได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมี Anti-roll bars เข้ามาช่วยในการทรงตัวและรักษาเสถียรภาพของรถให้ดีมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพในการควบคุมตัวรถที่ยอดเยี่ยม เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นแม้จะอยู่ภายใต้สภาวะการเข้าโค้งที่หนักหน่วง ระบบ Electronic Stability Control (ESC) ได้รับการปรับค่าให้เหมาะสมกับระบบจัดการเครื่องยนต์ (engine management system) ใหม่ล่าสุดเพื่อให้ได้มาซึ่งความปลอดภัยสูงสุดและสร้างความมีส่วนร่วมในการขับขี่มากขึ้น ระบบ ESC รักษาการตั้งค่า “Dynamic Mode” ไว้เพื่อเพิ่มการ slip ของล้อที่ความเร็วสูง รวมไปถึงการเรียกแรงบิดของเครื่องยนต์คืนได้อย่างรวดเร็ว ระบบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้ค้นหาการคั้งค่าของตัวถังใหม่พร้อมด้วยกำลังขับจากเครื่องยนต์ที่สูงมากขึ้นอีกด้วย รูปลักษณ์ภายนอก — ความเข้มข้นจากการออกแบบของเบนท์ลี่ย์ หากมองคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) จะพบกับความแตกต่างที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบเมทริกซ์ และช่องดักอากาศที่กันชนออกมาในรูปแบบ Dark-tint chrome หรือโครเมี่ยมเคลือบสีเข้ม ล้อมีขนาด 21 นิ้วในลาย Speed alloy wheels สร้างความโดดเด่น ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งสีเงินหรือสี Dark tint ได้ ปลายท่อไอเสียขนาดใหญ่ออกมาในรูปทรงไข่ และหากเปิดฝากระโปรงรถจะพบกับท่อรวมไอดีสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีโลโก้ “B” พื้นหลังสีดำตกแต่งอยู่บนฝาครอบหมอน้ำเพิ่มความโดดเด่นเช่นเดียวกัน ปีกหน้าของคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ทำมาจากอลูมิเนียมแบบ superformed aluminium ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสร้างชิ้นส่วนของรถโดยไม่มีรอยต่อและราบเรียบเป็นส่วนเดียวกัน สามารถสร้างภาพลักษณ์ของความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี ช่วงล่างได้รับการปรับให้ต่ำลง 10 มิลลิเมตร เติมเต็มด้วยล้อ 21 นิ้ว และเพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพของรถตามแบบฉบับรถซูเปอร์คาร์ รถคันนี้จึงได้รับการประดับด้วยสปอยเลอร์เพิ่มเติม และเสริมด้วยลิ้นบนฝากระโปรง double-horseshoe เพื่อสร้างแรงกดตามหลักอากาศพลศาสตร์ให้กับ คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) เมื่ออยู่ที่ความเร็วเกินกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกด้วย ภายในห้องโดยสาร: หรูหรา โดดเด่นอย่างสง่างาม และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ท่านจะได้สัมผัสกับตำนานความเป็นสปีด และความโดดเด่นที่เฉพาะจากภายในห้องโดยสารของรถ 4 ที่นั่งคันนี้ อีกทั้งยังมีจุดเด่นด้วยงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมด้วยชุดตกแต่งภายใน Mulliner Driving Specification เบนท์ลี่ย์ได้นำเสนออุปกรณ์พิเศษสำหรับคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) คันนี้โดยเฉพาะนั่นคือ แผงหน้าปัดในรูปแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถ Le Mans ที่คว้าชัยชนะและสร้างตำนานมาอย่างโด่งดังในปี 1920 อีกทั้งยังมีแผงเนื้อไม้ชั้นดี และตกแต่งคอนโซลกลางด้วยอุปกรณ์ตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ในรูปแบบสี ซาติน (อุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้) เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับห้องโดยสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบ Infotainment ได้รับการอัปเกรดซอฟแวร์ด้วยเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่แตกต่างกันไปตามความแตกต่างของแต่ละภูมิภาค รวบรวมไว้ซึ่งอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกสบายและข้อมูลที่สำคัญ อาทิเช่น แผนที่สำหรับจุดต่างๆ ที่น่าสนใจ ภาพภูมิทัศน์จากดาวเทียม ข้อมูลการจราจร และ digital radio ระบบ Infotainment มีหน่วยความจำถึง 15 กิกาไบท์เพื่อใช้ในการเก็บเพลง และยังสามารถเล่นเพลงจากเครื่อง iPod, MP3 Player หรือเครื่องเล่น CD 6 แผ่นของรถ หรือการ์ด SD ได้เช่นกัน ลำโพงของเครื่องเสียงออกมาในรูปแบบ Balanced Mode Radiator (BMR) ซึ่งผสมผสานฟังก์ชั่นของลำโพงที่แยกเสียงแหลมและเสียงกลางไว้ในลำโพงตัวเดียว เพื่อให้ได้มาซึ่งการส่งตรงของเสียงที่ชัดเจนและให้สเปกตรัมของเสียงที่ดียิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้เบนท์ลี่ย์ยังขอนำเสนอชุดเครื่องเสียง Naim ให้สามารถเลือกติดตั้งได้ ความโดดเด่นของระบบนี้คือการทำงานของลำโพงที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีและยังมีโหมด Digital Sound Processing modes หากทำการเปิดหลังคาลงนั้นผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าความสมดุลของเสียงให้เหมาะสมได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น วิ่งไปบนถนนด้วยความเร้าใจ 356 วันต่อปี คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) ใหม่ล่าสุดจะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความปราณีตตามแบบฉบับความเป็นคูเป้ หากแต่สามารถเปิดประทุนได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น หลังคามีระดับชั้น 4 ชั้นเพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถมีความสะดวกสบายในระดับสูง หลังคาได้รับการทดสอบเพื่อพัฒนาในทุกๆ สภาวะจาก -30 องศาเซลเซียส จนถึง +50 องศาเซลเซียส ผลลัพธ์ที่ได้คือหลังคาที่มีความแข็งแกร่งและคงทนต่อฝน อีกทั้งยังรักษาความสะดวกสบายของห้องโดยสารไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความอบอุ่นกับห้องโดยสารได้แม้ต้องอยู่ในวันที่หนาวที่สุดอีกด้วย อีกหนึ่งจุดเด่นของรถยนต์เปิดประทุนคันนี้คือระบบให้ความอบอุ่นต่อคอ (Neck warmer) ซึ่งจะทำงานและให้ความสะดวกสบายแด่ผู้โดยสารได้เป็นอย่างดีเมื่อเปิดประทุนวิ่งในวันที่มีอุณหภูมิต่ำของช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงได้ คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) มีระบบขับเคลื่อนแบบท 4 ล้อเหมือนกับเบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล รุ่นอื่นๆ โดยแน้นการกระจายแรงบิดไปทางด้านหลังในสัดส่วน 60:40 เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการ understeer ระหว่างเข้าโค้งที่หนักหน่วง และระบบจะปรับเปลี่ยนการกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังตามความเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการเกาะถนนบนทุกๆ สภาวะอากาศ ผลลัพธ์ที่ได้คือการผสมผสานของประสิทธิภาพเครื่องยนต์และความสามารถในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังกลายมาเป็นเบนท์ลี่ย์ที่สามารถวิ่งไปบนถนนที่ปกคลุมด้วยน้ำหรือผ่านเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะด้วยความมั่นใจได้ ข้อมูลเฉพาะทางเทคนิค GT Speed Convertible GT Speed เครื่องยนต์ ชนิด 6ลิตรtwin-turbocharged W12 พละกำลังสูงสุด 616แรงม้า/ 460กิโลวัตต์/ 625PSที่รอบเครื่องยนต์6,000รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 800นิวตันเมตร/ 590lb.ftที่รอบเครื่องยนต์2,000รอบต่อนาที ระบบส่งผ่านกำลัง ชนิด ZF 8สปีดอัตโนมัติมาพร้อมกับการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ (QuickShift)รวมถึงพวงมาลัยที่ติดตั้งก้านเกียร์มาด้วย ระบบขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบContinuous all-wheel drive(40:60เน้นทางด้านหลัง) อัตราการทดเกียร์ 1st : 4.71; 2nd: 3.14; 3rd: 2.1; 4th: 1.67; 5th: 1.29; 6th: 1.00; 7th: 0.839; 8th: 0.667 Final Drive 2.85 เบรก ด้านหน้า จานเบรกระบายความร้อน 405 มิลลิเมตร (หรือ 420 มิลลิเมตรCarbon Silicon Carbide, cross drilled) ด้านหลัง จานเบรกระบายความร้อน 335 มิลลิเมตร (หรือ 356 มิลลิเมตรCarbon Silicon Carbide, cross drilled) ล้อและยาง ล้อ 9.5J x 21” ยาง 275/35ZR21 ระบบพวงมาลัย ชนิด Rack & pinion, power assisted, speed-sensitive ZF servotronic หมุนจากlock to lock 2.6รอบ หมุนรอบวง 11.3 m ระบบกันสะเทือน (SUSPENSION) ด้านหน้า ช่วงล่างแบบปีกนกแบบFour link double wishbones,ควบคุมการลดระดับของช่วงล่างแบบถุงลมโดยระบบคอมพิวเตอร์,anti-roll-bar. ด้านหลัง ช่วงล่างTrapezoidal multi-link,ควบคุมการลดระดับของช่วงล่างแบบถุงลมโดยระบบคอมพิวเตอร์,anti-roll-bar. ขนาด ฐานล้อ 2,746มิลลิเมตร/ 108.1นิ้ว ความยาวโดยรวม 4,806มิลลิเมตร/ 189.2นิ้ว ความกว้าง 1,944มิลลิเมตร/ 76.5นิ้ว ความกว้างรวมกระจกข้าง 2,227มิลลิเมตร/ 87.7นิ้ว ความสูงโดยรวม 1,393มิลลิเมตร/ 54.8นิ้ว 1,394มิลลิเมตร/ 54.9นิ้ว ความจุถังน้ำมัน 90ลิตร/ 20แกลลอน/ 24USแกลลอน ความจุของที่เก็บสัมภาระ 260 / 9.18cu ft 358ลิตร/ 12.6cu ft น้ำหนักรถเปล่า (EU) 2,495กิโลกรัม/ 5500 lb 2,320กิโลกรัม/ 5115lb น้ำหนักรถรวม 2,900กิโลกรัม/ 6393 lb 2,750กิโลกรัม/ 6063lb ประสิทธิภาพ ความเร็วสูงสุด 325กิโลเมตร/ชั่วโมง 330กิโลเมตร/ชั่วโมง 0-60ไมล์ต่อชั่วโมง 4.1วินาที 4.0วินาที 0-100ไมล์ต่อชั่วโมง 9.7วินาที 9.0วินาที 0-100กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.4วินาที 4.2วินาที 0-160กิโลเมตรต่อชั่วโมง 9.7วินาที 9.0วินาที อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบวงจรการขับขี่EU* ในเมือง 22.7ลิตร/100กิโลเมตร 22.2ลิตร/100กิโลเมตร นอกเมือง 10.4ลิตร/100กิโลเมตร 10.1ลิตร/100กิโลเมตร ในเมืองผสมกับนอกเมือง 14.9ลิตร/100กิโลเมตร 14.5ลิตร/100กิโลเมตร อัตราการปล่อยCO2 347กรัม/กิโลเมตร 338กรัม/กิโลเมตร อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบวงจรการขับขี่EPA** ขับขี่ในเมือง(ไมล์ต่อกรัม (US)) 12 13 ขับขี่บนทางหลวง(ไมล์ต่อกรัม (US)) 20 20 ผสมผสานทั้งสองรูปแบบ(ไมล์ต่อกรัม (US)) 15 15 ระบบควบคุมมลพิษ EU 5 and US LEV II * อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเพียงอัตราชั่วคราวและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามชนิดที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ ** อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเพียงอัตราชั่วคราวและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามการรับรองโดย EPA สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package) มากกว่านั้นเอเอเอสฯ ยังมอบบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงตลอดระยะเวลารับประกัน และบริการสายด่วนให้คำแนะนำปรึกษาทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง* โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทาง เอเอเอสฯ ได้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-261-1051 หรือ 02-610-9911 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com *Terms & Condition Apply

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ