กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ผู้นำในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของไทยและอาเซียน เผยราคาเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 220 ล้านหุ้น ราคาจองหุ้นละ 13 บาท คิดเป็นส่วนลดประมาณ 26% จากราคาต่อมูลค่าทางบัญชีของบริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจในลักษะณะเดียวกัน เพื่อต้องการให้ผลตอบแทนที่ดีกับทั้งผู้มีอุปการะคุณ ผู้ลงทุนสถาบันและรายย่อย
การเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ ซีเค พาวเวอร์ แต่งตั้ง บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด บริษัท กรุงไทย แอดไวซ์เซอรี่ จำกัด และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคทีซีมิโก้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัดเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด(มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Co-underwriter)โดยเปิดให้จองซื้อหุ้น CKP ได้ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดพลังงาน ประมาณวันที่ 18กรกฎาคมนี้
ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า “การเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชน (IPO) จำนวน 220 ล้านหุ้นครั้งนี้ แบ่งออกเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 180 ล้านหุ้น และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิม 40 ล้านหุ้นโดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำมาชำระคืนเงินกู้เป็นเงินทุนในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจคิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 2,860ล้านบาท”
จุดแข็งของซีเค พาวเวอร์ ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนคือ เป็นบริษัทแฟล็กชิพด้านพลังงานของกลุ่ม ช. การช่าง ที่มีศักยภาพในการเติบโตด้วยรายได้ที่มั่นคง มีตลาดที่มีการเติบโตสูง มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ การบริหารงานและดำเนินงานโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มีแผนพัฒนาโครงการที่ชัดเจน มีการพัฒนาโครงการจากแหล่งพลังงานที่มีความหลากหลายเพื่อบริหารความเสี่ยงส่งผลให้มีรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
ปัจจุบัน ซีเค พาวเวอร์ ลงทุนในโรงไฟฟ้า 6 แห่งจากแหล่งพลังงานที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโต ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บางเขนชัย และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์นครราชสีมาโซล่ารที่ จ.นครราชสีมา โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์เชียงรายโซล่าร์ที่ จ. เชียงราย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น 1 และบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น 2 ที่จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ในประเทศ สปป.ลาว และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนอีก 8 แห่ง ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ตลอดจนการลงทุนเพิ่มเติมในสปป.ลาว ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของภูมิภาค โดยประกอบด้วยโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำบากและโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีรวมทั้งการสำรวจความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง
นายประเสริฐ ภัทรดิลก กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินว่า “ซีเค พาวเวอร์ เป็นผู้นำด้านพลังงาน ที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในโรงไฟฟ้าต่างๆ อย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงสูง มีรายได้ที่แน่นอนสม่ำเสมอ นอกจากนั้น ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง ทั้งจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขี้นปีละ 5% การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ตลอดจนเพื่อรองรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี)”
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น CKPมั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากเป็นอย่างดี เนื่องจาก CKP มีฐานรายได้ที่มั่นคง มีการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจไฟฟ้าหลายรูปแบบ มีโครงการที่ดำเนินการอยู่และสามารถส่งมอบได้ในอนาคต อีกทั้งเป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ซึ่ง CKP ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากผู้ที่เข้าใจในธุรกิจ และผู้ที่มีความใกล้ชิดกับบริษัท จึงทำให้บริษัทจัดสรรให้ผู้มีอุปการะคุณในสัดส่วนที่ใหญ่ ส่วนที่เหลือนั้นจัดสรรให้กับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 13 บาท ซึ่งคิดเป็นราคาปิดต่อมูลค่าทางบัญชีที่ 1.28 เท่า เทียบกับราคาปิดต่อมูลค่าทางบัญชีของบริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจในลักษะณะเดียวกัน ที่ 1.73 เท่า คิดเป็นส่วนลด 26% ระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม ซึ่งเลื่อนจากกำหนดการเดิมมาแค่ 6 วัน และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
เกี่ยวกับซีเค พาวเวอร์
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น(Holding Company)ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ หรือเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ความสำคัญกับการลงทุนและพัฒนาโครงการที่มีความหลากหลายเพื่อบริหารความเสี่ยง ทั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนโดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประกอบด้วย บมจ.ช.การช่าง (CK) บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) และบมจ.น้ำประปาไทย (TTW)