กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--สหวิริยาสตีลอินดัสตรี
“สหวิริยากรุงเทพไตรกีฬา ครั้งที่ 5” หารายได้สมทบทุน ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อนและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี คึกคัก ฅนเหล็กไทย-เทศแห่เข้าร่วม 540 คน Mr. Simon Agoston และ Ms. Kate Rutherford คว้าถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มูลนิธิราชประชาฯ — เอสเอสไอย้ำยกระดับการแข่งขันและการท่องเที่ยวให้กรุงเทพเป็นที่รู้จักทั่วโลก
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2556 ณ บริเวณสวนหลวงพระราม 8 พลเรือเอกนายแพทย์ หม่อมเจ้าปุสาน สวัสดิวัฒน์ ให้เกียรติเป็นองค์ประธานเปิดงาน “สหวิริยากรุงเทพไตรกีฬาครั้งที่ 5” หรือ “Sahaviriya Bangkok Triathlon 2013” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถ้วยเกียรติยศ “Friendship Cup” จากสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย นำรายได้สมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อนและให้ทุนการศึกษากับเด็กที่บิดามารดาเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ (เอชไอวี) ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ “เอสเอสไอ” สำนักงานกรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งประเทศไทยและหน่วยงานของรัฐและเอกชน
ภายในงานแข่งขันมีผู้เข้าร่วมคับคั่งถึง 540 คน เป็นนักกีฬาทั้งไทยและต่างชาติจากประเทศต่างๆ เช่น ประเทศออสเตรีย อังกฤษและสวีเดน โดยการแข่งขันไตรกีฬาในครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ประเภทได้แก่การแข่งขันไตรกีฬาระยะมาตรฐาน (ว่ายน้ำ 1.85 กิโลเมตร-ปั่นจักรยาน 55 กิโลเมตร และวิ่ง 10 กิโลเมตร) การแข่งขันไตรกีฬาระยะสั้น (ว่ายน้ำ 850 เมตร-ปั่นจักรยาน 27 กิโลเมตร และวิ่ง 5 กิโลเมตร) และการแข่งขันทวิกีฬา (วิ่ง 5 กิโลเมตร-ปั่นจักรยาน 27 กิโลเมตร และวิ่ง 5 กิโลเมตร) นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก Mr. Mark Kent เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมบุตรสาวเข้าร่วมแข่งขันทวิกีฬา สร้างสีสันให้กับงาน โดยเวลาในการแข่งขันโดยประมาณ 6.00 น.- 10.30 น. นอกจากนี้ภาพประทับใจของการแข่งขันในครั้งนี้ยังถูกถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านร่วมลุ้นการแข่งขันอย่างใกล้ชิดเช่นทุกปี
สำหรับผลการแข่งขันผู้ชนะเลิศการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว และหญิงเดี่ยว ที่ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ Mr. Simon Agoston และ Ms. Kate Rutherford ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 24 นาที 15 วินาที และ 2 ชั่วโมง 35 นาที 38 วินาที ตามลำดับ ส่วนผู้ที่ได้รับถ้วยรางวัลมิตรภาพ (Friendship cup) ได้แก่ นายสรานนท์ จันทราช ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 23 นาที 9 วินาที สำหรับผู้ที่ได้รับถ้วยรางวัล SAHAVIRIYA CUP ได้แก่ เอเจทีม ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 28 นาที 27 วินาทีในการแข่งขันไตรกีฬาระยะมาตรฐาน ส่วนทีมสหวิริยาได้แก่ นายวิโรจน์ สุขสมัย นายรังสรร พุทธวงศ์ และ และนายประโพธ จูประชากรณ์ทำเวลา 1 ชั่วโมง 56 นาที 30 วินาที เข้ามาเป็นทีมที่ 1 จากการแข่งขันไตรกีฬาประเภททีมระยะสั้น
นางศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ ประธานกรรมการจัดงานสหวิริยากรุงเทพไตรกีฬาครั้งที่ 5 กล่าวว่า “ปีนี้มีผู้ให้การสนับสนุนอย่างคับคั่งเช่นเดียวกับปีก่อนๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดีใจมาก มูลนิธิราชประชาสมาสัย ฯ รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (เอสเอสไอ) กรุงเทพมหานคร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมของมูลนิธิฯด้วยดีมาโดยตลอด”
นายนาวา จันทนสุรคน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี หรือ เอสเอสไอ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า “ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเอสเอสไอ คือ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาส โดยเน้นการพัฒนาตามแนวทางแห่งความยั่งยืน ผู้ได้รับความช่วยเหลือต้องสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองในระยะยาว เอสเอสไอจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุน สหวิริยากรุงเทพไตรกีฬา อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้จากการแข่งขันส่วนหนึ่งจะนำมาสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อนและสมทบทุนการศึกษาเด็กกำพร้าที่มีบิดามารดาเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ (เอชไอวี) จึงเป็นการสอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทเป็นอย่างยิ่ง”
“นอกจากนี้มูลนิธิราชประชาสมาสัย ฯ และเอสเอสไอยังเห็นพ้องต้องกันในการมุ่งมั่นส่งเสริมและยกระดับการแข่งขันไตรกีฬาให้เป็นที่รู้จักเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมการแข่งขันซึ่งจะได้เรียนรู้จากความมุมานะ ความเพียรพยายามและความตั้งใจในการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขัน ยิ่งไปกว่านั้นภาพความสวยงามของกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นภาพแม่น้ำเจ้าพระยาหรือสะพานพระราม 8 และทัศนียภาพของเมืองหลวงของประเทศไทยซึ่งเป็นฉากหลังในการแข่งขันไตรกีฬา ทั้งการว่ายน้ำ ปั่นจักรยานและการวิ่ง ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์อันดีของกรุงเทพมหานครให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย” นายนาวากล่าว