กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แจ้งรายงานการเงินประจำไตรมาสที่สองและครึ่งปีแรกที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์สืบเนื่องจากการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลยุทธ์ทางธุรกิจกับพันธมิตรสายการบินและการดำเนินงานของภาคการขนส่งสินค้าระดับโลก
สายการบินเอทิฮัดมีรายได้จากผู้โดยสารสูงขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่สองของปี 2556 คิดเป็นจำนวนเงิน 921 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2555: 855 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่งผลให้รายได้จากผู้โดยสารของครึ่งปีแรกสูงถึง 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2555: 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) สูงขึ้นกว่า 13 เปอร์เซ็นต์
รายได้จากการทำการบินร่วมและการถือครองหุ้นกับสายการบินพันธมิตรคิดเป็นจำนวนเงิน 184 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่สองของปี โดยมากกว่ารายได้จำนวน 147 ล้านเหรียญสหรัฐที่ทำไว้ในเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 25 เปอร์เซ็นต์ รายได้จากการทำธุรกิจร่วมกับสายการบินพันธมิตรประกอบด้วย 20 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้จากผู้โดยสายทั้งในส่วนของไตรมาสที่สองและของครึ่งปีแรกประจำปี 2556
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า ผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองและครึ่งปีแรกของสายการบินฯ ประสบความสำเร็จด้วยดี ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงจะยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองต่างๆ ประกอบกับค่าบัตรโดยสารเครื่องบินที่ถัวเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยในไตรมาสนี้เนื่องจากการบีบอัดของการเจริญเติบโตในสายธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นและส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคา
“ถึงแม้ว่าสภาวะการการค้าระดับโลกจะขับเคี่ยวเป็นอย่างมาก แต่เราก็ยังทำสถิติการเจริญเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักได้ทั้งในไตรมาสที่สองและครึ่งปีแรกของปี 2556” มร. โฮแกน กล่าว
“นี่เป็นผลมาจากความนิยมต่อการเดินทางสู่กรุงอาบูดาบีที่มีอย่างต่อเนื่อง การเจิญเติบโตทางยุทธศาสตร์ร่วมกับสายการบินพันธมิตร และการดำเนินงานของภาคการขนส่งที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมเป็นไปได้ด้วยดี
มร. โฮแกน กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จอันโดดเด่นในไตรมาสที่สองนั้นเป็นความมุ่งมั่นที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างกลุ่มพันธมิตรทางการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายการบินแอร์เบอร์ลินในประเทศเยอรมนี ซึ่งกลายเป็นสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินร่วมรายใหญ่ที่สุดของสายการบินเอทิฮัด อันสะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมโยงแบบบูรณาการทางเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองสายการบิน
สายการบินเอทิฮัด ได้เพิ่มจำนวนสายการบินพันธมิตรที่ให้บริการเที่ยวบินร่วมในระหว่างไตรมาสที่สอง โดยเพิ่มสายการบินแจทแอร์วย์ ซึ่งเป็นสายการบินสัญชาติเซอร์เบีย และประกาศความร่วมมือกับสายการบินพันธมิตรรายใหม่ ได้แก่ สายการบินแอร์แคนาดา สายการบินเซาธ์แอฟริกัน แอร์เวย์ และสายการบินเบลาเวีย แห่งเบลารุสเซีย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเริ่มให้บริการในไตรมาสที่สาม และทำให้สายการบินเอทิฮัดมีสายการบินพันธมิตรที่ให้บริการเที่ยวบินร่วมทั้งหมด 45 สายการบิน และมีเครือข่ายการบินทั่วโลกในอีกกว่า 350 จุดหมายปลายทาง ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครือข่ายการบินที่มีความครอบคลุมมากที่สุดของสายการบินจากภูมิภาคตะวันออกกลาง
สำหรับไตรมาสที่สอง มาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสารของสายการบินเอทิฮัด (ASKs) แสดงให้เห็นถึงความจุที่นั่งซึ่งเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 17.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2555: 15.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมาตราวัดรายได้จากผู้โดยสาร (RPKs) ยังชี้ให้เห็นว่าผู้โดยสารเลือกบินกับสายการบินเอทิฮัดเพิ่มมากขึ้นถึง 13 เปอร์เซ็นต์ โดยคิดเป็นมูลค่า 13.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสเดียวกันนี้อีกด้วย (ปี 2555: 11.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
การเติบโตขึ้นของรายได้ดังกล่าวนี้มาจากการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ลำใหม่จำนวนสองลำ โดยลำหนึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารสามระดับชั้น รองรับผู้โดยสารได้ทั้งสิ้น 328 คน และอีกหนึ่งลำเป็นเครื่องบินโดยสารสองระดับชั้น ให้บริการทั้งหมด 380 ที่นั่ง ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินซึ่งรวมไปถึงเส้นทางการให้บริการใหม่สู่กรุงอัมสเตอร์ดัม กรุงเซาเปาโล และเมืองเบลเกรด
ผลประกอบการที่น่าพึงพอใจประจำไตรมาสที่สองนี้ยังเกิดจากการให้บริการเที่ยวบินประจำวันสู่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
ภาคการขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัดยังคงประสบความสำเร็จสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นกว่า 112,963 ตัน ในไตรมาสที่สอง ประจำปี 2556 (ปี 2555: 89,470 ตัน) และในครึ่งปีแรกมีการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 215,124 ตัน (ปี 2555: 174,622 ตัน)
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ที่พุ่งสูงขึ้นถึง 26 เปอร์เซ็นต์ ประจำไตรมาสที่สอง และ 23 เปอร์เซ็นต์ ของครึ่งปีแรก ประจำปี 2556
การเติบโตของภาคการขนส่งสินค้าเกิดจากการส่งมอบเครื่องบินสำหรับขนส่งสินค้าจำนวนสามลำในไตรมาสที่สอง ประกอบด้วย เครื่องบินแอร์บัส A330-200F เครื่องบินโบอิ้ง 777-200F และเครื่องบินโบอิ้ง 747F-8F ลำแรกประจำสายการบินเอทิฮัด ซึ่งเช่าจากสายการบินแอตลาสแอร์ ทำให้มีฝูงบินเพื่อการขนส่งสินค้าทั้งหมดเก้าลำด้วยกัน ความสำเร็จที่มากขึ้นในการขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัดเป็นผลมาจากการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารมากขึ้น และเพิ่มพื้นที่ความจุในส่วนของการขนส่งสินค้าให้มากขึ้น
ในระหว่างไตรมาสที่ 2 สายการบินเอทิฮัดได้ประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่า ทางสายการบินจะครอบครองกรรมสิทธิ์ 24 เปอร์เซ็นต์ในสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ของอินเดีย เพื่อขยายความร่วมมือของพันธมิตรทางการบินและเครือข่ายธุรกิจการบินให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สายการบินเอทิฮัดได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันกับรัฐบาลของประเทศเซอร์เบียเพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลงทุนกับสายการบินแจทแอร์เวย์ พร้อมนี้ สายการบินเอทิฮัดยืนยันถึงการอนุมัติจากรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้นในสายการบินเวอร์จิ้นออสเตรเลียจาก 10 เปอร์เซ็นต์เป็น 19.9 เปอร์เซ็นต์
เช่นเดียวกันกับการถือครองหุ้นในสายการบินเวอร์จิ้นออสเตรเลีย สายการบินเอทิฮัด ได้ถือส่วนแบ่ง 29 เปอร์เซ็นต์ในสายการบินแอร์เบอร์ลิน 40 เปอร์เซ็นต์ในสายการบินแอร์เซเชลส์ และ 3 เปอร์เซ็นต์ในสายการบินแอร์ลิงกัส
สายการบินเอทิฮัดมีผลการดำเนินการในไตรมาสที่สองโดยสรุปดังนี้:
เปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงอาบู ดาบีและกรุงอัมสเตอดัม จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ประเทศเนเธอร์แลนด์เปิดให้บริการเที่ยวบินรประจำวันะหว่างกรุงอาบู ดาบี และเมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบียเปิดให้บริการ 3 เที่ยวบินแรกที่เดินทางระหว่างกรุงอาบู ดาบี ไปยังกรุงเซา เปาโล ประเทศบราซิล เปิดให้บริการเที่ยวบินร่วมกับสายการบินแจทแอร์เวย์ และประกาศข้อตกลงร่วมกับสายการบินแอร์แคนาดา สายการบินเซาธ์แอฟริกา แอร์เวย์ และสายการบินเบลาเวีย ซึ่งจะเริ่มให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ขยายเที่ยวบินที่ให้บริการร่วมกับสายการบินอื่นๆ เช่น สายการบินเคแอลเอ็ม สายการบินแอร์ฟรานซ์ สายการบินแอร์ลิงกัส และสายการบินอาลิตาเลียเริ่มเจรจาข้อตกลงกับรัฐบาลของประเทศเซอร์เบียเพื่อถือครองหุ้นในสายการบินแจทแอร์เวย์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติยืนยันการอนุมัติจากรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้นในสายการบินเวอร์จิ้นออสเตรเลียจาก 10 เปอร์เซ็นต์เป็น 19.9 เปอร์เซ็นต์เพิ่มจำนวนเครื่องบินขนส่งผู้โดยสารลำใหม่จำนวน 2 ลำ และ เครื่องบินขนส่งสินค้าลำใหม่อีก 3 ลำสายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัลชนะเลิศสามรายการจากการประกาศผลรางวัลสกายแทรกซ์ ประจำปี 2556 ได้แก่ รางวัลชั้นโดยสารชั้นหนึ่งยอดเยี่ยม รางวัลที่นั่งโดยสารสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งยอดเยี่ยม และ รางวัลห้องอาหารสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งยอดเยี่ยม
ตารางเปรียบเทียบผลประกอบการไตรมาสที่สอง ประจำปี 2556 และไตรมาสที่สอง ประจำปี 2555
ดัชนีชี้วัด ไตรมาสที่ 2 ปี 2556 ไตรมาสที่ 2 ปี 2555 การแปรผัน
รายได้จากผู้โดยสาร 921ล้านเหรียญสหรัฐ 855ล้านเหรียญสหรัฐ + 8เปอร์เซ็นต์
รายได้จากภาคขนส่ง 216ล้านเหรียญสหรัฐ 180ล้านเหรียญสหรัฐ +20เปอร์เซ็นต์
รายได้ทั้งหมด 1,327ล้านเหรียญสหรัฐ 1,245ล้านเหรียญสหรัฐ +7เปอร์เซ็นต์
มาตราวัดรายได้จากผู้โดยสาร 13.3พันล้านเหรียญสหรัฐ 11.8พันล้านเหรียญสหรัฐ +13เปอร์เซ็นต์
มาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสาร 17.2พันล้านเหรียญสหรัฐ 15.2พันล้านเหรียญสหรัฐ +13เปอร์เซ็นต์
การสำรองที่นั่ง 77.3เปอร์เซ็นต์ 77.6เปอร์เซ็นต์ - 0.3เปอร์เซ็นต์
น้ำหนักในการขนส่ง 112,963ตัน 89,470ตัน +26เปอร์เซ็นต์
ฝูงบิน 78ลำ 67ลำ +11
ตารางเปรียบเทียบผลประกอบการครึ่งปีแรก ประจำปี 2556 และครึ่งปีแรก ประจำปี 2555
ดัชนีชี้วัด ครึ่งปีแรก ปี 2556 ครึ่งปีแรก ปี 2555 การแปรผัน
รายได้จากผู้โดยสาร 1.8พันล้านเหรียญสหรัฐ 1.6พันล้านเหรียญสหรัฐ +13เปอร์เซ็นต์
รายได้จากภาคขนส่ง 411ล้านเหรียญสหรัฐ 346ล้านเหรียญสหรัฐ +19เปอร์เซ็นต์
รายได้ทั้งหมด 2.5พันล้านเหรียญสหรัฐ 2.2พันล้านเหรียญสหรัฐ +14เปอร์เซ็นต์
มาตราวัดรายได้จากผู้โดยสาร 26.1พันล้านเหรียญสหรัฐ 22.7พันล้านเหรียญสหรัฐ +15เปอร์เซ็นต์
มาตราวัดจำนวนที่นั่งโดยสาร 33.1พันล้านเหรียญสหรัฐ 29.5พันล้านเหรียญสหรัฐ +12เปอร์เซ็นต์
การสำรองที่นั่ง 78.9เปอร์เซ็นต์ 76.9เปอร์เซ็นต์ +2เปอร์เซ็นต์
น้ำหนักในการขนส่ง 215,124ตัน 174,622ตัน +23เปอร์เซ็นต์