กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--โจนส์ แลง ลาซาลล์
รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์เผยว่า ตลาดการลงทุนซื้ออาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจ (อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรม) ทั่วโลกยังคงคึกคักในปีนี้ ยอดการซื้อขายรวมสำหรับครึ่งแรกของปีมีมูลค่า 219,000 ล้านดอลลาร์ ปรับเพิ่มสูงขึ้น 11% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2555
รายงานฉบับดังกล่าวซึ่งครอบคลุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของกว่า 130 เมืองใน 60 ประเทศทั่วโลก ระบุว่า ในไตรมาสสองของปีนี้ ยอดการซื้อขายทั่วโลกมีมูลค่ารวม 114,000 ล้านดอลลาร์ สูงขึ้นจากไตรมาสหนึ่งกว่า 9% และนับเป็นไตรมาสที่ห้าติดต่อกันที่ยอดการซื้อขายมีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้นของนักลงทุนที่มีต่ออสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจ ในขณะที่ตลาดหุ้นและพันธบัตรมีความผันผวน
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการลงทุนซื้อขายคึกคัก โดยครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2555 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบไตรมาสสองของปีนี้กับไตรมาสหนึ่ง หรือเมื่อเทียบไตรมาสสองของปีนี้กับไตรมาสสองของปี 2555 พบว่ามูลค่าการซื้อขายค่อนข้างคงที่
ภูมิภาคยุโรป+ตะวันออกกลาง (EMEA) มีการลงทุนซื้อขายคึกคักเช่นกัน โดยครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2555 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบไตรมาสสองของปีนี้กับไตรมาสสองของปี 2555 พบว่ายอดการซื้อขายมีมูลค่าคงที่ นอกจากนี้ เมื่อเทียบไตรมาสสองของปีนี้กับไตรมาสหนึ่ง พบว่ายอดการซื้อขายมีมูลค่าลดลง 13% หลังจากที่การซื้อขายมีมูลค่าสูงในช่วงไตรมาสหนึ่ง
ภูมิภาคอเมริกา มูลค่าการลงทุนซื้อขายในไตรมาสสองของปีนี้พุ่งสูงถึง 52,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่ง และเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปี 2555 ยอดการลงทุนซื้อขายรวมของครึ่งปีนี้ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 90,000 ล้าน เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2555 ทั้งนี้ การลงทุนซื้อขายในเม็กซิโกและแคนาดามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมากในไตรมาสที่ผ่านมา ไล่ตามสหรัฐฯ ที่มียอดการลงทุนซื้อขายปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสสองของปีนี้มีมูลค่าขยายตัวเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2555
กลุ่มประเทศที่เป็นตลาดการลงทุนซื้อขายที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ยังคงมีการลงทุนซื้อขายขยายตัวในครึ่งแรกของปีนี้ โดยญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 50% ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 10% สหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 4% เยอรมันเพิ่มขึ้น 43% ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 50% เว้นเฉพาะจีนที่มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายลดลง 20% ในครึ่งแรกของปีนี้ แต่คาดว่า มูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากรายการซื้อขายต่างๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขณะนี้คาดว่าจะปิดการซื้อขายได้ภายในปีนี้
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โจนส์ แลง ลาซาลล์ตั้งประมาณการณ์ไว้ว่า การลงทุนซื้อขายจะมีมูลค่ารวมทั่วโลกอยู่ระหว่าง 4-5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากเฉพาะครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่าขยายตัวสูงขึ้นไปแล้ว 11% และโดยทั่วไป การลงทุนซื้อขายในช่วงครึ่งหลังของปีจะมีสภาพคึกคักกว่าช่วงครึ่งแรก
นายอาเธอร์ เดอ ฮาสต์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการลงทุนระหว่างประเทศของโจนส์ แลง ลาซาลล์กล่าวว่า “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน เราได้คาดการณ์ไว้ว่า มีแนวโน้มที่จะมีการลงทุนซื้อขายอาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกำลังกลายเป็นจริง มีนักลงทุนประเภทสถาบัน ทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ และนักลงทุนประเภทบุคคลซึ่งเป็นผู้ที่มีฐานะจากทั่วโลก ให้ความสนใจลงทุนซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนได้เริ่มกระจายการลงทุน ทั้งเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและกระจายความเสี่ยง โดยให้ความสนใจกับสินทรัพย์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้หรือทำเลชั้นรองที่มีศักยภาพ ซึ่งแนวโน้มนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง”
นายเดวิด กรีนมอร์แกน ผู้อำนวยการระหว่างประเทศ ฝ่ายวิจัยด้านตลาดทุนของโจนส์ แลง ลาซาลล์กล่าวว่า “ความผันผวนที่เราเห็นในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนซื้ออาคารที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ แม้การกู้เงินเพื่อซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ยังไม่ได้มีผลกระทบมากนักต่อปริมาณการลงทุนซื้อ โดยพบว่า ธุรกรรมการซื้อที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ผู้ซื้ออาศัยเงินกู้ไม่มากเมื่อคิดเป็นสัดส่วนของมูลค่าสินทรัพย์ คาดว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หากไม่มีปัจจัยอื่นใดที่ทำให้ต้นทุนเงินกู้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
วินัย ใจทน 02 624 6540
winai.jaiton@ap.jll.com
www.joneslanglasalle.co.th