กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--พีอาร์พีเดีย
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานในกลุ่มสินค้าโปรเจ็คเตอร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ว่าเป็นไปตามเป้า ทั้งนี้ผลยังคงมาจากการที่สถาบันการศึกษาทั่วประเทศได้เพิ่มปริมาณการใช้งานโปรเจ็คเตอร์ในสื่อการเรียนการสอน และองค์กรธุรกิจเอกชนและหน่วยงานรัฐเดินหน้าลง ทุนระบบไอทีสำนักงานเป็นหลัก บวกกับเมื่อช่วงปลายไตรมาส 4 ของปีงบประมาณที่แล้ว (มกราคม — มีนาคม 2556) ทางบริษัทฯ ได้ออกสินค้าใหม่มากกว่า 30 รุ่น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ และเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาและรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกนี้
“ปัจจุบัน โปรเจ็คเตอร์ขนาดกลางที่มีความสว่างไม่ถึง 4,000 lumens มีสัดส่วนถึง 95% ของตลาดโปรเจ็คเตอร์ทั้งหมด ซึ่งเอปสันเป็นเจ้าตลาดในส่วนนี้ แต่สำหรับเครื่องที่มีความสว่างตั้งแต่ 4,000 lumens ขึ้นไป ถึงแม้จะมีขนาดตลาดโดยรวมเพียง 4% แต่คิดเป็นมูลค่าถึง 24% ของมูลค่าตลาดรวม และเอปสันยังอยู่ในระดับท็อป 3 โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจะขึ้นเป็นที่หนึ่งในตลาดนี้เช่นกันภายใน 2 ปี จึงได้ออกสินค้าใหม่ 2 ซีรี่ส์ ได้แก่ EB-4000 Series และ G6000 Series รวม 11 รุ่น เพื่อจับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ และอุตสาหกรรม M-I-C-E”
นายยรรยง กล่าวถึงโอกาสทางการตลาดสำหรับสินค้าใหม่ว่า บริษัทฯ ให้ความสนใจกับอุตสาหกรรม M-I-C-E ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจการจัดการประชุม (Meeting) การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive Travel) การประชุมนานาชาติ (Convention) และงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ (Exhibition) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการขยายไปสู่ส่วนภูมิภาคมากขึ้น ไม่ได้กระจุกตัวแต่ในกรุงเทพฯ เหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ การเปิด AEC ในปี 2558 ยังช่วยกระตุ้นในอุตสาหกรรมนี้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น และรัฐบาลก็มีความตั้งใจที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ กลางอุตสาหกรรม M-I-C-E ในภูมิภาคอาเซียนโดยคาดว่าจะทำรายได้ 1.3 แสนล้านบาทในปี 2559
“สินค้าใหม่ทั้ง 2 ซีรี่ส์มีความสว่างสูงและมีประสิทธิภาพและความหลากหลายในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ พร้อมทั้งคุณสมบัติพิเศษในการฉายภาพ เหมาะสำหรับองค์กรและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม M-I-C-E โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มออร์แกไนเซอร์ โรงแรม ศูนย์ประชุม อาคารแสดงสินค้า ทั้งยังเหมาะกับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานราชการที่มีห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ต้องการใช้เครื่องโปรเจ็คเตอร์ความสว่างสูง”
สินค้าในรุ่น EB-4000 Series โปรเจ็คเตอร์ความสว่างสูงระดับ 4,000 — 5,200 lumens มีค่า contrast ratio สูงถึง 5,000:1 เหมาะกับการนำเสนองานทุกประเภท มาพร้อมกับเทคโนโลยีสำหรับการฉายภาพยนตร์ FaroudjaDCDi ที่ให้ภาพเหมือนจริง มีความนุ่มนวล ประกอบด้วยเครื่องทั้งหมด 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 129,000 — 249,000 บาท ได้แก่EB-4650, EB-4550, EB-4750W, EB-4850WU และ EB-4950WU
“โดยเฉพาะเครื่องรุ่น EB-4850WU และ EB-4950WU จะมีความละเอียดสูงสุดระดับ WUXGA ที่มีความคมชัดสมจริง แม้จะฉายบนจอภาพขนาดใหญ่ สามารถรองรับการใช้งานที่ต้องการภาพระดับ Full HD หรือบลูเรย์ และด้วยการใช้เครื่องรุ่น EB-4000 Series สองเครื่องพร้อมกัน ก็จะสามารถแสดงภาพความสว่างสูงแบบสามมิติบน จอฉายภาพผ่านอุปกรณ์เสริมแบบสามมิติ นอกจากนี้ เครื่องทุกรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ผ่านโปรแกรม iProjection ซึ่งรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android” นายยรรยง กล่าว
สำหรับสินค้ารุ่น EB-G6000 Series ที่เปิดตัวในครั้งนี้ พร้อมกัน 6 รุ่น ได้แก่ EB-G6550WU, EB-G6250W, EB-G6050W, EB-G6150, EB-G6900WU และ EB-G6800 เป็นรุ่นที่มีระดับความสว่างตั้งแต่ 5,200 — 7,000 lumens ให้ภาพสีสันสดใส สมจริง แม้แต่การฉายภาพสามมิติ นอกจากนี้ด้วยการออกแบบเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้มากขึ้น ทำให้สามารถฉายภาพจากแหล่งกำเนิดได้หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการฉายแบบ edge blending สามารถฉายบนพื้นผิวโค้งและฉายเข้ามุมได้ รวมไปถึงการฉายภาพสามมิติ
ล่าสุด Futuresource Consulting บริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำของโลก ประกาศผลสำรวจยอดขายโปรเจ็คเตอร์จากตลาดทั่วโลก ยกให้เอปสันเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดเป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 26% มากกว่ายอดขายของแบรนด์คู่แข่ง 3 อันดับรองลงมารวมกัน ในขณะที่ตลาดประเทศไทย เอปสันมีส่วนแบ่งรวมอยู่ที่ 30%
“เช่นเดียวกับภาพรวมในตลาดโลก เอปสัน ประเทศไทยมีความตั้งใจที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดโปรเจ็คเตอร์ในไทยและในภูมิภาคนี้ต่อไป โดยยังเน้นจุดแข็งทางเทคโนโลยีทั้ง 3LCD และหลอดภาพ E-TORL สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า และเนื่องจากเอปสันเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว จึงไม่มีข้อจำกัดในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบัน เอปสันมีโปรเจ็คเตอร์คุณภาพสูง และมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย รองรับตลาดครบทุกเซ็กเมนท์ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งทีมProfessional Support Teams เพื่อคอยให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ๆ กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งยังมีทีมบริการก่อนและหลังการขาย เพื่อสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายเวลาขายสินค้ากับลูกค้าครับ” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อ:
Hot line 02-685-9899