สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 12, 2013 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,283 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,283 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.12 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,800 บาท กับ 18,900 บาท และกลับมาปิดที่ 18,800 บาท กับ 18,900 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,434 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,999 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.9% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 1.4% GFQ13 ปิด 19,010 บาท และ GFV13 ปิด 19,090 บาท GF10Q13 ปิด 19,010 บาท GF10V13 ปิด 19,080 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 32.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,279.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 79.1 เซนต์ ปิดที่ระดับ 19.956 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 939.07 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 104.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 169.26 จุด ปิดที่ 15,460.92 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ทำจุดสูงสุดในรอบสอบสัปดาห์ใกล้ระดับ 1,300 เหรียญ จากคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ แม้ตัวเลข Jobless Claims ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 16,000 ตำแหน่งสู่ระดับ 360,000 ตำแหน่ง จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทันที แต่ไม่นานราคาก็มีแรงเทขายให้ปรับตัวลดลงมาที่เก่า นายจิม โรเจอร์ส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Kitco ว่า นักลงทุนจะสามารถเห็นความผันผวนของราคาทองคำได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเขาไม่คิดว่าราคาทองคำตอนนี้ทำจุดต่ำสุดแล้วแม้ว่าราคาจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาหลังจากคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี นับจากจุดสูงสุดเมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 ราคาทองคำปรับตัวลดลงมา 33% และเพียงแค่ในช่วงไตรมาสที่สอง ราคาทองคำมีการปรับฐานถึง 23% อย่างไรก็ตาม นายจิม โรเจอร์สคิดว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงมาถึง 50% จากจุดสูงสุดปี 2011 และมีการซื้อขายระหว่าง 900 - 1,000 เหรียญต่อออนซ์ Kitco รายงานว่า แม้ปริมาณความต้องการทองคำยังคงอ่อนแอ แต่นักลงทุนและอุตสาหกรรมรายย่อยยังคงยอมจ่ายค่าพรีเมี่ยมเพื่อการซื้อทองคำในตอนนี้ จากข้อมูลที่อัตราสัญญาทองคำ 1 เดือนแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีเมื่อวันอังคารสู่ระดับ 0.3% CNBC รายงานความเห็นนักวิเคราะห์ว่า แม้ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 1,298 เหรียญได้ในวันพฤหัสบดี แต่สิ่งนี้ยังไม่มีความแน่นอน และอาจจะมีการเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลงอีก โดยการฟื้นตัวขึ้นมาเป็นโอกาสที่ดีในการขาย แต่ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์รอซื้อ ข้อมูลจาก Thomson Reuters' Lipper service ระบุวานนี้ว่า นักลงทุนถอนเงินออกจากกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์และโลหะมีค่า 998.8 ล้านเหรียญ ถอนเงินออกเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 92.6 ล้านดอลลาร์ การถือครองทองคำในกองทุน Gold ETF ของอินเดียลดลง 9.2% ในเดือนมิถุนายน ในขณะที่เทรดเดอร์ทองคำในอินเดียยังคงไม่เข้าซื้อทองคำใหม่ เนื่องจากราคาขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองสัปดาห์ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเมื่อวานนี้ว่า ในเดือนมิถุนายน สหรัฐมีงบประมาณเกินดุลที่ระดับ 1.17 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สหรัฐมียอดขาดดุลตลอดปีต่ำสุดในรอบ 5 ปี หากหักลบกับงบประมาณเกินดุลสหรัฐดังกล่าว จะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณปีนี้อยู่ที่ 5.10 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 44% จากปีที่แล้ว ทั้งฝ่ายบริหารจัดการของนายโอบามาและสำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสกำลังมีการคาดการณ์ถึงยอดขาดดุลสหรัฐต่ำกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 นางอลิซาเบธ ดุ๊ค ฝ่ายปกครองเฟด ประกาศลาออกเมื่อวานนี้ โดยจะมีผลในสิ้นเดือนสิงหาคม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า การเติบโตเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะชะลอตัว เนื่องจากจีนมีการลงทุนที่มากเกินไปในเศรษฐกิจของตนเอง และตอนนี้จีนต้องการปรับลดลง ตลาดหุ้นสหรัฐต่างปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงดัชนี S&P 500 ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,669.23 จุดจากคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ เช้านี้ดัชนี NIKKEI ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการทำจุดสูงสุดใหม่ของวอลสตรีท ประกอบกับความคิดเชิงบวกที่ญี่ปุ่นจะยังคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามเดิม โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการเลือกตั้งสภาล่างของญี่ปุ่น ตลาดหุ้นฮ่องกง Hang Seng ปรับตัวลดลงในเช้านี้ แต่คาดว่าน่าจะปรับตัวสูงขึ้นภายหลังตามการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 344K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 360K - Import Prices m/m เดิมอยู่ที่ระดับ -0.7% ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ - 0.2% ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ -PPI m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% คาดการณ์จะทรงตัวที่ระดับ 0.5% -Prelim UoM Consumer Sentiment เดิมอยู่ที่ระดับ 84.1 คาดการณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 85.3 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideway up ช้าๆ โดยที่ทดสอบระดับ 1300 เหรียญ ตามที่ได้วิเคราะห์เมื่อวานนี้ ในขณะที่กองทุน SPDR ยังถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 939.07 ตัน โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน Unemployment Claims ออกมามีผู้ขอสวัสดิการการว่างงานมากขึ้นเพิ่มขึ้น 16,000 ราย วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของ Technical Rebound ตามลักษณะ Reverse Head & Shoulder ทดสอบ 1,300 เหรียญ โดยยังมี Demand ซื้อทองคำอย่างหนาแน่นจากฝั่งเอเชีย และค่าพรีเมี่ยมยังคงสูงอยู่ วิเคราะห์ได้ว่าราคาทงคำเคลื่อน Sideway up โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,300 เหรียญ ถ้าทะลุจะไปที่ระดับ 1320 เหรียญ เป็นต้านถัดไป และมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 1275 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเน้นย้ำให้ลงทุนในทิศทางขาขึ้นลักษณะ Sideway และแนะนำให้ปิดสถานะ Short position โดยลงทุนในกรอบ 1275 — 1300 เหรียญ - นักลงทุนถือ Long Position แนะนำให้ขายทำกำไรเป็นช่วงๆ - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ทยอยปิด Short position หรือ Stop loss ออกไป Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,130 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,200 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ