กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมุ่งปูแนวทางการพัฒนากองทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ล่าสุดจัดโครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 2 ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพฯ
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เปิดเผยถึงสถิติตัวเลขล่าสุดว่าปัจจุบันมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพใน
ประเทศทั้งสิ้นจำนวน 433 กองทุน โดยเป็นกองทุนเดี่ยว (Single fund) จำนวน 165 กองทุนและเป็นกองทุนร่วม (Pooled fund) จำนวน268 กองทุน มีลูกจ้างรวมกันเป็นจำนวน 2,466,000 ราย นายจ้างรวม 12,800 ราย มีสินทรัพย์รวมกัน 727,948 ล้านบาท กองทุนฯ จึงนับว่าเป็นแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
ล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นให้สมาชิกกองทุน คณะกรรมการกองทุน และนายจ้าง ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และสิทธิประโยชน์ของตนเอง ตลอดจนส่งเสริมบทบาทของทุกฝ่ายผ่านกระบวนการให้ความรู้ต่างๆ และเพื่อเป็นการเผยแพร่รูปแบบการบริหารจัดการ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่นให้กองทุนดังกล่าวอื่นๆให้นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติ สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงได้มีการกำหนดจัด
“โครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 2” ขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จจากการประกวดเป็นอย่างดี
โดยโครงการประกวดมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความนิยมด้าน ธรรมาภิบาลให้มีขึ้นในการบริหาร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตลอดจนสร้างมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนในการควบคุมและตรวจสอบการจัดการกองทุน
โดยบริษัทจัดการลงทุนเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้แก่สมาชิก
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สมาชิกกองทุน คณะกรรมการกองทุน และนายจ้างตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และ
สิทธิประโยชน์ของตนต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทของทุกฝ่ายผ่านกระบวนการให้ความรู้ด้านต่างๆ และเพื่อเป็น
การเผยแพร่รูปแบบการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่นเพื่อเป็นแนวทางให้กองทุนดังกล่าวอื่นๆ นำไปเป็นแนวปฏิบัติต่อไปด้วย
คุณสิงหะ นิกรพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานการจัดประกวดกองทุนดีเด่น ได้กล่าวว่าในการประกวด
ครั้งนี้ว่า ประเภทของกองทุนในการประกวดแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีขนาดกองทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาท
2.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีขนาดกองทุนระหว่าง 1,000-5,000 ล้านบาท 3.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีขนาดกองทุนต่ำกว่า 1,000
ล้านบาท และ 4.บริษัทจัดการกองทุนที่จัดการกองทุนร่วม หรือ pooled fund ดีเด่น โดยกองทุนที่ผ่านการคัดเลือกรางวัลชนะเลิศจะ
ได้รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลชมเชยได้รับโล่จากกระทรวงการคลัง
รศ.ดร.พันทิศา ภาวบุตร และผศ.ดร.อัญชดา เจริญรุกข์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิ ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์และวิธีการตัดสินว่า สมาคมฯ พิจารณาการให้คะแนนจากหลักเกณฑ์ อันได้แก่ ประเภทการประกวดที่ 1-3 พิจารณาจากโครงสร้างการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของนายจ้างและคณะกรรมการกองทุน ความสามารถในการเป็นที่พึ่งในวัยเหลังเกษียณ และบทบาทของกองทุนต่อพัฒนาการและศักยภาพของสมาชิกกองทุนและสมาคมฯ ประเภทการประกวดที่ 4 พิจารณาจากโครงสร้างการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยง ความสามารถในการเป็นที่พึ่งในวัยเหลังเกษียณ และบทบาทของกองทุนต่อพัฒนาการและศักยภาพของสมาชิกกองทุนและสมาคมฯ
ทั้งนี้ การคัดเลือกแบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบคัดเลือก จะพิจารณาจากข้อมูลในใบสมัคร กองทุนจำนวนหนึ่งจะได้รับคัดเลือกผ่านเข้าสู่การพิจารณาในรอบต่อไป สำหรับรอบตัดสิน จะสัมภาษณ์เฉพาะกองทุนที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อคัดเลือกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และบริษัทจัดการกองทุนประเภทกองทุนร่วม (Pooled Fund ) ดีเด่นกองทุนที่สนใจสามารถสมัครเข้าประกวดได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2556 และจะทำการมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 นี้ ณ โรงแรมดุสิตธานี
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
ฝ่ายจัดการสำนักงาน
สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โทรศัพท์ 02 294 7430-2