กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--GT Wealth Management
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงมาเคลื่อไหวต่ำกว่าระดับUS$1,280 ต่อออนซ์ อีกครั้ง(Gold spot) หลังจากช่วงเช้ายังคงได้รับผลบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากคำแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ที่ยังคงสนับสนุนมาตรการ QE ต่อไป อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ หลังจากสถานการณ์ในอียิปต์เริ่มผ่อนคลายลงมาแล้ว สำหรับคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างดัชนี PPI ซึ่งเป็นอีกตัวชีดวัดเงินเฟ้อและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และสัปดาห์หน้า วันจันทร์ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนโดยเฉพาะตวัเลข GDP ที่หลายฝ่ายคาดว่าอาจลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ ในช่วงบ่ายราคาทองคำในประเทศได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯที่เริ่มอ่อนค่าลงมาใกล้ระดับ 31.1 THB/US$ อีกครั้ง กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 939.07 ตัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 18,960 บาท ปริมาณการซื้อขาย 771 สัญญา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 18,970 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,347 สัญญา
แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า หลังจากนาย เบน เบอร์นันเก้ ออกมาย้ำความจำเป็นของมาตรการQE ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดกลับมามั่นใจอีกครั้งว่ามาตรการ QE จะยังมีต่อไปในอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากอัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับสูงและเงินเฟ้อยังอยู่ภายใต้การควบคุมของ FED ทั้งนี้เราเชื่อว่าที่ผ่านมาสิ่งที่ FED ทำเป็นเพียงการหยั่งเชิง Reaction ของตลาดเท่านั้นว่าจะมีอย่างไรหาก FED ชะลอ QE ลง ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เห็นชัดเจนแล้วว่าทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่เศรษฐกิจสหรัฐฯเองยังไม่พร้อมเนื่องจากเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับผู้บริโภคและกดดันตลาดบ้านที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นราคาทองในช่วงนี้จะยังได้รับแรงหนุนต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยเราให้กรอบแนวต้านทางเทคนิคที่ US$1,300-1,350 ต่อออนซ์ และเป็นการฟื้นตัวของราคาในช่วงขาลงเท่านั้น โดยเรายังต้องจับตาตัวเลขการจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐฯต่อไปเพื่อหาสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดการจ้างงานสหรัฐฯ
GT Wealth Management
www.gtwm.co.th
TEL : 02-673-9911