กรมส่งเสริมฯ ประกาศยุทธศาสตร์ครึ่งปี 56 ดันสินค้าไทยสู่ตลาดโลก ตั้งเป้าขายออนไลน์แตะ 1,000 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Monday July 15, 2013 09:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--พีอาร์พีเดีย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ประกาศยุทธศาสตร์นำสินค้าไทยสู่ตลาดโลก ชูThaitrade.com เครื่องมือสำคัญสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศตั้งเป้าสิ้นปียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท พร้อมกางแผนขยายการให้บริการผ่านเครือข่ายฯ สถาบันการเงิน และพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอี โดยเฉพาะด้านการค้าขายสินค้าผ่านออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบและรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลกที่สูงขึ้น พฤติกรรมของนักธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ยึดความรวดเร็วของข้อมูลและการติดต่อสื่อสาร การใช้สมาร์ทดีไวซ์แบบ Virtual Office และวัฒนธรรมแบบใหม่ในการดำเนินธุรกิจแบบ Anytime, Anywhere, Any Device เนื่องจากภายในปี 2559 กลุ่ม Generation Y (ผู้ที่เกิดปี 2523-2538) จะครอบครองตลาดคนทำงานทั่วโลกกว่า 80% (ข้อมูลทางสถิติของ PricewaterhouseCoopers) ดังนั้นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงได้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบกลุ่มเอสเอ็มอี โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านการตลาดออนไลน์เพื่อขยายธุรกิจไทยสู่สากล ตลาดกลางพาณิชย์ดิจิตอล (E-Marketplace) Thaitrade.com ที่เป็นห้างสรรพสินค้าเสมือนที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ผู้ซื้อจากทั่วโลกสามารถเข้าชมและเลือกซื้อ ได้ตลอดเวลา สำหรับทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปี 2556 ทางกรมฯ ได้วางเป้าหมายการดำเนินงานที่จะเดินหน้าผลักดันความสำเร็จโดยการสร้างยอดขายจริงผ่าน Sale Force Team และบริการ Sourcing Service โดยจะเพิ่มช่องทางการติดต่อค้าขายผ่านสมาร์ทดีไวซ์ (Mobile Commerce) นอกจากนี้ยังเตรียมแผนขยายการให้บริการผ่านเครือข่ายฯ สถาบันการเงิน และพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอี โดยเฉพาะด้านการค้าขายสินค้าผ่านออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบและรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ปัจจุบันมียอดผู้ส่งออกที่เข้าร่วมกับ Thaitrade.com จำนวน 7,613 ราย โดยทางกรมฯ ได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์การค้าขาย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย และครบวงจร บน Thaitrade.com ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเจรจาซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการสนับสนุนข้อมูล ข่าวสาร บทวิเคราะห์การตลาดจากผู้เชี่ยวชาญ ความต้องการซื้อจากผู้ซื้อ (Buying Requests) อย่างต่อเนื่องผ่าน E-Newsletter และยังสร้างโอกาสทางการค้าและช่วยขยายธุรกิจไปตลาดโลกด้วยต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ยังได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถใช้สื่อออนไลน์ทำการค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในปี 2555 มีมูลค่าจากการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Thaitrade.com 50 ล้านบาท โดยในปีนี้การจับคู่เจรจาธุรกิจผ่าน Thaitrade.com Sourcing Service คิดเป็นมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ซึ่งโตกว่าปี 2555 ที่ผ่านมาถึง 1,800% ยอดขายผ่านทาง Thaitrade.com ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสินค้า อาทิ อาหาร ของกินเล่น ผลไม้สด เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ของขวัญของชำร่วย ของตกแต่งในเทศกาลต่างๆ เครื่องเขียน เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องประดับแฟชั่น เป็นต้น ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศมาใช้บริการมากที่สุดและต่อเนื่อง ได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ เวียดนาม รวมถึงยังมีกลุ่มประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อินเดีย ออสเตรเลีย ปากีสถาน บังกลาเทศ แคนาดา อิหร่าน ญี่ปุ่น ตุรกี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อส่งสินค้าไทยไปจำหน่าย “Thaitrade.com ตั้งเป้ายอดผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 1,500,000 รายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะมีจำนวนสมาชิกผู้ซื้อเพิ่มขึ้นอีก 15,000 ราย ปัจจุบันมีสมาชิกผู้ซื้อจำนวน 35,000 ราย ซึ่งรวมเป็น 50,000 รายในสิ้นปีนี้” นางศรีรัตน์ กล่าวสรุป สำหรับผู้ส่งออกไทยที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครได้หลายช่องทาง อาทิ การสมัครผ่านทาง www.thaitrade.com, register@thaitrade.com และเฟสบุ๊ค www.facebook.com/ThaitradeDotCom หรือ สมัครด้วยตนเองที่บูธ Thaitrade.com ภายในงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่กรมฯ จัดขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าร่วมโครงการใดๆ ทั้งสิ้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ DITP Call Center 1169 โทรสาร 02 547 5683-4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ