กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มครองแชมป์ผู้นำตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2556
พร้อมรั้งตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดสตอเรจ 11 ไตรมาสติดต่อกัน
ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ครองตำแหน่งผู้นำตลาดเซิร์ฟเวอร์ในไทยอีกครั้ง โดยมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในแง่ของรายได้เซิร์ฟเวอร์โดยรวมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 จากผลวิจัยของไอดีซี บริษัทชั้นนำด้านที่ปรึกษาและการวิจัยตลาดไอที*
ในประเทศไทย ไอบีเอ็มครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 41.6% ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 15.5 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 นอกจากนี้ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ยังรั้งตำแหน่งผู้นำ 11 ไตรมาสติดต่อกันในตลาดเอ็กซ์เทอร์นอลดิสก์สตอเรจ ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 27.7% สูงกว่าคู่แข่งที่ตำแหน่งใกล้เคียงที่สุด 12.7 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556
โจ ชาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “แนวคิด Smarter Computing ของไอบีเอ็มเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจโดยรวมในไทย การตอบรับแนวคิด Smarter Computing กันอย่างกว้างขวางสะท้อนให้เห็นว่าองค์กรธุรกิจในไทยมีความพร้อมยิ่งขึ้นที่จะสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ จากข้อมูลที่มีอยู่อย่างมหาศาลหรือบิ๊กดาต้า โซเชียลมีเดีย อุปกรณ์โมบายล์ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมการใช้ประโยชน์จากกระแสข้อมูลที่สำคัญ ไอบีเอ็มอยู่เคียงข้างลูกค้าในการเตรียมพร้อมรองรับความต้องการในอนาคต (ready now for what’s next) ด้วยการนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่พร้อมรองรับระบบคลาวด์ บิ๊กดาต้า และความปลอดภัย โดยทั้งหมดนี้คือจุดแข็งของไอบีเอ็ม”
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 ไอบีเอ็มครองอันดับ 1 ในตลาดเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจในประเทศไทยสำหรับเซ็กเมนต์ต่างๆ ดังต่อไปนี้:
- เซิร์ฟเวอร์ระดับไฮเอนด์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ (เซิร์ฟเวอร์ราคาตั้งแต่ 250,000 เหรียญสหรัฐขึ้นไป) ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 66.3% (สูงกว่าอันดับสอง 47.4 เปอร์เซ็นต์)
- เซิร์ฟเวอร์ RISC และ EPIC ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 70.7% (สูงกว่าอันดับสอง 52.2 เปอร์เซ็นต์)
- ยูนิกซ์เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ใช่ x86 ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 77.8% (สูงกว่าอันดับสอง 63.6 เปอร์เซ็นต์)
- ดิสก์สตอเรจภายนอกระดับกลาง ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 41.6% (สูงกว่าอันดับสอง 22.8 เปอร์เซ็นต์)
“เราคาดว่าจะสามารถรักษาแนวทางการเติบโตนี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเราได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ๆ เช่น Power Systems, PureSystems และ Storage Systems ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าในการปรับใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า รวมถึงบริการคลาว์ดที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยทักษะความชำนาญเพียงเล็กน้อย ทคโนโลยีของเราจึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และความคล่องตัวในการดำเนินงานให้องค์กรธุรกิจทุกขนาดเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน” โจ ชาน กล่าวเพิ่มเติม