กรุงเทพ--18 มี.ค.--ไมโครซอฟท์
ไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการซอฟต์แวร์ กลายเป็นบริษัทที่น่าจับตามองที่สุดบริษัทหนึ่งในขณะนี้ เมื่อฟอร์จูนโพลล์ ระบุคะแนนนิยมไมโครซอฟท์พุ่งพรวดเป็นอันดับสองในรายชื่อสิบบริษัทที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในอเมริกา จากเดิมที่อยู่อันดับห้า นอกจากนี้ ผลการสำรวจของ Goldman Sachs & Computer Intelligence ยังระบุว่าผู้ใช้คอมฯเมืองลุงแซมมีแนวโน้มหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์มากขึ้น
นิตยสารฟอร์จูนฉบับประจำวันที่ 2 มีนาคม ระบุว่า ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ได้รับการจัดอันดับจากฟอร์จูนโพลล์ ให้เป็นบริษัทอันดับสองรองจากเยนเนอรัลอีเล็คทริก ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในอเมริกาประจำปี 1997 โดยจัดส่งแบบสอบถามและใบลงคะแนนไปยังผู้อ่านที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารนอกวงการอุตสาหกรรมไอที รวมทั้งนักวิเคราะห์ทางการเงินทั่วอเมริกา จำนวนทั้งสิ้น 12,600 ราย เพื่อเลือกบริษัทที่เห็นว่าควรได้รับการยกย่องมากที่สุด โดยไม่จำกัดประเภทของอุตสาหกรรม และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี นับแต่เริ่มมีการจัดอันดับของนิตยสารดังกล่าว ที่ไม่ได้แยกประเภทของอุตสาหกรรมเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา
บริษัทที่ได้รับการจัดให้อยู่ใน 10 อันดับบริษัทที่ควรได้รับการยกย่องมากที่สุดในอเมริกา เป็นอันดับหนึ่ง คือ บริษัทเยนเนอรัล อิเล็คทริก อันดับสอง ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น อันดับสาม บริษัทโคคา-โคลา อันดับสี่ อินเทล คอร์ป อันดับห้า บริษัทฮิวเล็ตต์ แพ็คการ์ด อันดับหก เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์ส อันดับเจ็ด เบิร์กไชร์ ฮัธอะเวย์ อิงค์ อันดับแปด วอลท์ ดิสนีย์ อันดับเก้า บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และอันดับสิบ บริษัทเมิร์ค ในจำนวนนี้มีบริษัทที่มีอายุเกินร้อยปีอยู่ 3 บริษัท ได้แก่ เยนเนอรัล อิเล็คทริค โคคา-โคล่า และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บริษัทที่ยังอยู่ภายใต้การบริหารของผู้ก่อตั้ง 2 บริษัท ได้แก่ ไมโครซอฟท์ และเซาท์เวส ส่วนบริษัทยอดเยี่ยมด้านการลงทุนของสหรัฐฯ 3 บริษัท ได้แก่ เยนเนอรัล อิเล็คทริค โคคา-โคลา และไมโครซอฟท์ ผลการสำรวจดังกล่าวยังได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าขณะที่หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกาหลายบริษัทต่างตกจากอันดับเดิม แต่ไมโครซอฟท์กลับสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและไต่จากอันดับที่ 5 เมื่อปีที่แล้วมาเป็นอันดับที่ 2 ในปีนี้ โดยได้คะแนนด้านความรู้ความสามารถของบุคคลากร และด้านสถานะทางเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างที่ไม่เคยมีบริษัทใดทำได้มาก่อน
นอกจากนี้ ผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีภายในองค์กรของ Goldman Sachs & Computer Intelligence ซึ่งได้ส่งแบบสอบถามไปยังผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำในอเมริกา 150 รายจากบัญชีรายชื่อ 700 บริษัทของนิตยสารฟอร์จูน ยังระบุว่า องกรค์ต่าง ๆ มีแนวโน้มจะเพิ่มงบประมาณเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์คอมพิวเตอร์ในปี 2000 โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเน้นหนักทางด้านซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชั่น วินโดว์ส เอ็นที เซิร์ฟเวอร์ โปรแกรมที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์เกี่ยวกับการบริหารข้อมูลเครือข่าย ส่วนผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้คือ ไมโครซอฟท์ และมีแนวโน้มที่บริษัทส่วนใหญ่จะเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์มากขึ้น ผู้บริหารถึงร้อยละ 67 จะเพิ่มงบประมาณเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า ในจำนวนนี้มีถึงร้อยละ 36 ที่ระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ SQL Server ของไมโครซอฟท์
สำหรับความเห็นในฐานะผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ผู้บริหารร้อยละ 45 ระบุว่า พอใจกับการทำงานของเครื่องมือพัฒนา (development tools) ของไมโครซอฟท์มากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 26 พอใจผลิตภัณฑ์ของซัน นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเบราเซอร์ โดยผู้ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 51 ระบุว่ามีนโยบายจะเปลี่ยนไปใช้ Internet Explorer ในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า เมื่อเทียบกับเน็ตสเคป ที่มีผู้เลือกจำนวนร้อยละ 35 (การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการก่อนที่เน็ตสเคปจะตัดสินใจแจกเบราเซอร์ฟรีเช่นเดียวกับไมโครซอฟท์) และกระแสความนิยมใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์เอ็นทีเข้ามาแทนที่เครื่องเดสก์ทอปจะเอื้อประโยชน์ต่อวินโดวส์เอ็นทีของไมโครซอฟท์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามระบบ Unix ก็ยังคงมีบทบาทในตลาดเช่นเดิม
"ไมโครซอฟท์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกและไว้วางใจจากผู้บริหารระดับสูงทั่วทั้งอเมริกา หัวใจของความสำเร็จของไมโครซอฟท์ ก็คือ การที่บริษัทฯมุ่งมั่นและทุ่มเททั้งด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งเทคโนโลยีและทรัพยากรบุคคล เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค รวมทั้ง การคิดค้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทั้งภายในสำนักงาน โรงเรียน และที่บ้าน นอกจากนี้ยังเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า การลงทุนด้านเทคโนโลยีในระยะยาว การประสานความร่วมมือกับบริษัทที่เกี่ยวข้องนับพัน ๆ แห่งในอเมริกา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงและสะดวกสบายที่สุด" นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
ไมโครซอฟท์ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2518 และเป็นผู้นำการพัฒนาและการตลาดของซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer-PC) ทางบริษัทฯ มีซอฟต์แวร์หลายประเภทให้เลือกใช้สำหรับที่ทำงานและที่บ้าน ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์ทุกตัวพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกในการใช้งานและประโยชน์สูงสุดจากเครื่องพีซี ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เป็นผู้พัฒนาและขายสินค้าไมโครซอฟต์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย และมีบริการหลังการขายให้แก่ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้อง ผู้สนใจสามารถข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ไมโครซอฟท์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) โทร. 632-0860-3--จบ--