กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ
ชวนทุกวัยเปิดโลกการอ่านผ่านหนังสือด้วยแนวคิด “สร้างสรรค์จินตนาการ ปูพื้นฐานจากครอบครัว” พร้อมทุกความสนุกเพื่อกระตุ้นจินตนาการ หวังทุกครอบครัวเห็นความสำคัญของหนังสือเชื่อมั่น การอ่านจะเป็นพื้นฐานสำคัญช่วยพัฒนาทรัพยกรมนุษย์ ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ตอกย้ำความมุ่งมั่นขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการอ่านให้เกิดขึ้นในครอบครัวด้วยงาน “เทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 17- วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.00 น.- 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์จินตนาการ ปูพื้นฐานจากครอบครัว” เชิญชวนสมาชิกทุกคนในครอบครัวมาร่วมสร้างนิสัยรักการอ่าน มุ่งสู่ความรู้อย่างสนุกในทุกด้าน และเปิดโลกความคิดอันไร้ขอบเขตผ่านตัวหนังสือร่วมกันพร้อมเต็มอิ่มกับหนังสือคุณภาพจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ 168 แห่ง รวม 384 บูท บนพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร!!!
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและประธานในพิธีเปิดงาน ได้กล่าวถึงความสำคัญของการอ่านว่าความรู้ที่ควบคู่กับจินตนาการ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสังคมให้พัฒนาไปได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง และเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพก็คือ “การอ่าน”
“การอ่านนอกจากจะก่อเกิดความรู้แล้ว ยังสร้างสรรค์จินตนาการ นำไปสู่การคิด การวิเคราะห์ การไตร่ตรอง สร้างวิจารณญาณ รวมถึงบ่มเพาะคุณธรรมและจริยธรรมให้งอกงามจะสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นได้นั้น ต้องได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เยาว์วัย และผู้ที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดก็คือครอบครัว พยายามส่งเสริมให้ที่บ้านมีมุมหนังสือ สร้างบรรยากาศสบายๆในการร่วมทำกิจกรรมการอ่านกับลูกตั้งแต่ยังเด็กๆ อย่ารอให้เขาโตมาจนเข้าโรงเรียนหรืออ่านหนังสือออก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยการศึกษาของเด็กไทยอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554 หรือเมื่อประมาณเกือบสองปีมาแล้ว ผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระราชทานแนวทางว่าควรทำอย่างไรเพื่อช่วยปิดช่องว่างทางการศึกษา ระหว่างโรงเรียนที่ห่างไกลความเจริญ และโรงเรียนที่อยู่ในในพื้นที่ชุมชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวความคิด และพระราชทานทุนทรัพย์ให้คณะองคมนตรีได้ทำงาน ซึ่งทำงานกันมาสองปีกว่าแล้ว นั่นคือโครงการกองทุนการศึกษา โดยเราได้ทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน มีหลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม เป็นงานอาสาสมัคร ทำกันด้วยใจ โดยไม่ได้คิดว่าจะต้องมีสิ่งตอบแทนใดๆกลับมา เพราะการศึกษาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
แต่ยังมีเยาวชนอีกมาที่ขาดโอกาส โครงการกองทุนการศึกษาจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆได้มีโอกาสร่วมกันในการอ่านหนังสือและช่วยเติมเต็มช่องว่างการศึกษา เราจะต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้ทุกโรงเรียนมีห้องสมุดที่เหมือนกัน เด็กและเยาวชนมีโอกาสทางการอ่านที่เท่ากัน
การอ่านและการศึกษาจะจะทำให้ผู้คนมีการไตร่ตรอง พิจารณาเรื่องต่างๆด้วยความรอบคอบ ช่วยสร้างเยาวชนที่คิดดี พูดดี ทำดีให้มีจำนวนมากขึ้น”
ด้าน นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่าเทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2 นี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเป้าหมายสำคัญในการทำงานของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คือการมุ่งสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งวัฒนธรรมการอ่านนั้นจะสามารถสร้างขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั้น จะต้องเริ่มขึ้นจากหน่วยย่อยที่สุดของสังคมอย่าง“ครอบครัว” ซึ่งแม้จะเป็นหน่วยเล็กที่สุดของสังคมทว่ากลับมีความหมายและสำคัญที่สุด จึงหวังสร้างความตระหนักให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองได้เห็นความสำคัญของการอ่านหนังสือ
“งานเทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะงานหนึ่ง เป็นการเปิดพื้นที่พิเศษขึ้นมา เด็กๆใช้เวลากับครอบครัวในแต่ละวันมากที่สุดเช่นกัน การสร้างนิสัยรักการอ่านอย่างยั่งยืนจึงต้องเริ่มแต่เล็กและเริ่มที่บ้าน โดยการอ่านหนังสือกับลูก เล่าเรื่องในหนังสือให้ลูกฟังวันละนิดวันละหน่อย นอกจากจะเป็นการสานสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวแล้ว เด็กๆจะได้ทั้ง ความรัก ความอบอุ่นและความฉลาดในทุกๆด้านด้วย
ในงานครั้งนี้เรารวบรวมทุกความสนุก ทุกความรู้ให้ทุกคนในครอบครัว ทุกเพศ ทุกวัย ได้มาเลือกสรรตามความชอบจากทุกสำนักพิมพ์ด้วยราคาที่พิเศษสุดๆ”
นายจรัญยังเผยถึงกิจกรรมไฮไลท์เด็ดๆเพื่อทุกเพศทุกวัยอีกด้วยว่า ได้เตรียมไว้อย่างมากมาย อาทิ นิทรรศการผ่าสมองไอน์สไตน์ เปิดโลกจินตนาการด้วยการอ่าน , โครงการ ประกวดเล่านิทานสารคดีหัวข้อ “”ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน เราพร้อมแล้ว” สำหรับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท ซึ่งจะเป็นการเล่าพร้อมกับการแสดงประกอบ ,“นิทานในสวนกระดาษ”, “อ่านแต่เล็ก เด็กฉลาด สมรรถนะดี” ที่ชวนพ่อแม่ลูกมาอ่านหนังสือในโครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart และสนุกกับกิจกรรมเสริมจินตนาการอย่าง พับกระดาษรูปสัตว์ ,หุ่นนิทานนิ้วมือ ,ปั้นตัวละครจากหนังสือ,เพ้นท์กระเป๋าผ้าลดโลกร้อน ,กิจกรรมบันไดงูอาเซียน ทั่วบริเวณงานเพื่อให้น้องๆหนูๆได้เรียนรู้เรื่องอาเซียนผ่านการละเล่นสนุกๆพร้อมของรางวัล
“ที่สำคัญทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังคงทำกิจกรรม PUBAT Charity ปันกันอ่าน แบ่งกันให้ อย่างต่อเนื่อง เพราะการให้โอกาสทางการอ่านแก่ผู้ที่ขาดโอกาสเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากกิจกรรมต่อเนื่องอย่าง “โครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง” ซึ่งเราจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 โดยมอบบัตรกำนัลให้แก่เด็กด้อยโอกาสจากองค์กรต่างๆจำนวน 400 คน มูลค่าคนละ 400 บาท เพื่อนำไปเลือกซื้อหนังสือที่สนใจภายในงาน รวมถึง “โครงการจัดหาหนังสือและสื่อการศึกษาเข้าห้องสมุดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” เพื่อขยายโอกาสและส่งเสริมการเข้าถึงหนังสือและการอ่านให้กับเด็กและชุมชนที่อยู่ห่างไกล ที่ในปีนี้ได้มอบเงินอุดหนุนรวม 10 โรงเรียน รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท เพื่อจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดด้วยแล้วนั้น ปีนี้เรายังมีโครงการจัดหาหนังสือเข้าห้องสมุดโรงเรียน ในโครงการกองทุนการศึกษา 23 โรงเรียน โดยมอบเงินให้แก่โรงเรียนในถิ่นทุรกันดารเพื่อนำไปจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด โรงเรียนละ 30,000 บาท รวมทั้งสิ้น 690,000 บาทอีกด้วย เราหวังว่าสิ่งที่ทำไปจะช่วยสร้างและขยายโอกาสทางการอ่านให้แก่เด็กไทยในท้องถิ่นที่ห่างไกลความเจริญได้เข้าถึงหนังสือที่เหมาะสมกับพวกเขามากขึ้น
อีกโครงการสำคัญคือทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯได้จับมือกับครอบครัวข่าว 3 สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทำหนังสือเรื่อง “อ่านเป็นข่าว” โดยเชิญผู้ประกาศข่าวและนักข่าวชื่อดัง 13 ท่าน อาทิ คุณกรุณา บัวคำศรี,คุณเพชรี พรหมช่วย,คุณกะละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ,คุณแชมป์-พีรพล เอื้ออารียกุล,คุณมีสุข แจ้งมีสุข,คุณกิตติ สิงหาปัด ฯลฯ มาร่วมเขียนหนังสือ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เด็กได้เห็นว่าความสำเร็จในชีวิตนั้น ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากพื้นฐานของการอ่าน โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้มูลนิธิครอบครัวข่าวสามเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สาธารณกุศลต่อไปครับ " นายจรัญกล่าว
ด้านอาย-กมลเนตร เรืองศรี นางเอกดาวรุ่ง นักอ่าน และคอลัมน์นิสต์นิตยสารอะเดย์เผยว่า สำหรับเธอแล้วการอ่านมีความสำคัญมากในการสร้างกระบวนการคิดของแต่ละคน และสำหรับงานนี้นั้นตนมองว่าเป็นงานหนังสือสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่แค่เด็กๆเท่านั้น จึงอยากจะให้ทุกคนมาร่วมค้นหาหนังสือที่ตัวเองชอบกันในราคาที่พิเศษกว่าปกติ และร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆด้วย
“ตอนนี้อายเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสืออะเดย์ก็เริ่มจากการที่เริ่มอ่านก่อน ถ้าสมมุติเราไม่เริ่มอ่านเราก็ไม่มีทางที่จะเริ่มเขียนได้เพราะถ้าคนอ่านกับคนที่ไม่อ่านกระบวนในการพูดการคิดมันแตกต่างกัน
ในงานนี้อายอยากจะลองทำกิจกรรมที่คั่นหนังสือค่ะ เพราะอายชอบพับมุมหนังสือซึ่งไม่ดีเลย หนังสือจะพัง ก็เลยว่าจะมาลองทำที่คั่นให้เพื่อนๆในกลุ่มด้วยค่ะ อายอยากชวนให้ทุกคนมานะคะ มาเพิ่มความรู้ ความสนุกทั้งให้ตัวเองและคนอื่นๆที่เรารักด้วยค่ะ”
งานเทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2 มีขึ้นตั้งแต่วันนี้- วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pubat.or.th
แล้วอย่างลืมมาร่วมเปิดโลกจินตนาการจากการอ่าน