มูลค่าการลงทุนซื้อขายอาคาร/โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิกครึ่งแรกปี 56 ขยายตัว 21% จากครึ่งแรกปี 55

ข่าวอสังหา Thursday July 18, 2013 16:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--โจนส์ แลง ลาซาลล์ มูลค่าการลงทุนซื้อขายอาคาร/โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิกครึ่งแรกปี 56 ขยายตัว 21% จากครึ่งแรกปี 55 มูลค่าการลงทุนซื้อขายในไทยขยับเพิ่ม 95% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้การลงทุนซื้อขายอาคาร/โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ (อาคารสำนักงานศูนย์การค้าและโรงแรม) ในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 59,700 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 21% โดยในไตรมาสสองของปีนี้มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายรวม 32,600 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นจากไตรมาสหนึ่ง 21% เช่นกันตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์โจนส์แลงลาซาลล์ มูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคมีปัจจัยหลักมาจากปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นอย่างคึกคักในตลาดใหญ่ๆซึ่งได้แก่ญี่ปุ่นออสเตรเลียและจีนในขณะที่ตลาดการลงทุนซื้อขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอื่นๆมีปริมาณแตกต่างกันไปโดยบางประเทศเช่นฮ่องกงมีปริมาณลดลงอันเป็นผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลที่ออกมาเพื่อลดความร้อนแรงในตลาดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อย่างไรก็ดีกิจกรรมการลงทุนในเอเชียแปซิฟิกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีภาพโดยรวมที่ดีและมีแนวโน้มจะดีต่อไปอีกในช่วงครึ่งปีหลัง ดร.มีแกนวอลเตอร์สผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหน่วยธุรกิจบริการด้านการลงทุนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของโจนส์แลงลาซาลล์กล่าวว่า“มีปัจจัยหลายๆประการที่มีอิทธิพลต่อตลาดการลงทุนซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์อาทินักลงทุนจากทั่วโลกยังคงสนใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ชั้นดีที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและมีความเสี่ยงต่ำแต่ขณะเดียวกันเริ่มมีแนวโน้มให้เห็นว่ามีนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่สนใจหาซื้อสินทรัพย์ที่มีราคาไม่สูงและมีโอกาสที่มูลค่าจะปรับสูงขึ้นได้ในระยะต่อไปนอกจากนี้นโยบายของภาครัฐฯยังคงมีผลต่อกระแสการลงทุนทั้งในเชิงบวกและลบขึ้นอยู่กับมาตรการของรัฐบาลของประเทศนั้นๆที่มีออกมาในขณะที่บางประเทศต้องการกระตุ้นตลาดรัฐบาลของบางประเทศ” นายสจ๊วตโครว์ผู้อำนวยการหน่วยธุรกิจบริการด้านการลงทุนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของโจนส์แลงลาซาลล์กล่าวว่า“นักลงทุนรายใหญ่จากสหรัฐฯแคนาดาและตะวันออกกลางเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชียแปซิฟิกในขณะที่นักลงทุนเอเชียไม่ว่าจะเป็นกองทุนหรือบุคคลที่มีฐานะยังคงสนใจลงทุนอย่างคึกคักทำให้เกิดความต้องการสูงสำหรับการลงทุนซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นและออสเตรเลียซึ่งยังมีรายการซื้อขายที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกจำนวนมากและทำให้เรายังคงเชื่อว่าการลงทุนซื้อขายในเอเชียแปซิฟิกสำหรับตลอดปีนี้จะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นราว 1.1 แสนล้านดอลลาร์ใกล้เคียงกับปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่มีการลงทุนซื้อขายมูลค่าสูงสุดคือ 1.2 แสนล้านดอลลาร์” ญี่ปุ่น ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับเพิ่มสูงขึ้นตามการปรับตัวดีขึ้นของดัชนีทางเศรษฐกิจมหภาคอันเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลส่งผลให้การลงทุนซื้อขายโครงการหรืออาคารในญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 20,800 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 50% โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ออสเตรเลีย นักลงทุนประเภทสถาบันทั้งของออสเตรเลียและจากต่างชาติรวมทั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญมีความต้องการลงทุนซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่ารวม 10,500 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว จีน กิจกรรมการลงทุนในจีนกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมากในไตรมาสสองหลังจากที่ชะลอตัวในไตรมาสหนึ่งโดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 6 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 65% จากไตรมาสหนึ่งส่วนมูลค่าการซื้อขายรวมสำหรับครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 9.6 พันล้านดอลลาร์เพิ่มสูงขึ้น 97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สิงคโปร์ มูลค่าการลงทุนซื้อขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจในครึ่งแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีที่แล้วโดยไตรมาสสองมีปริมาณการลงทุนซื้อขายรวมมูลค่า 2,300 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่งแม้นักลงทุนจะยังคงให้ความสนใจสูงสำหรับการลงทุนในตลาดสิงคโปร์แต่พบว่ายังมีความไม่สอดคล้องกันอยู่บ้างระหว่างราคาเสนอขายและราคาที่นักลงทุนรับได้อย่างไรก็ดีมีรายการลงทุนซื้อขายรายการใหญ่ๆที่อยู่ระหว่างการเจรจาขณะนี้ซึ่งคาดว่าจะทำให้มูลค่าการลงทุนซื้อขายในสิงคโปร์ยังคงขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปี ฮ่องกง มาตรการของรัฐบาลเพื่อลดความร้อนแรงในตลาดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะการเพิ่มค่าอากรขึ้นเป็นเท่าตัวสำหรับการทำธุรกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้เริ่มมีผลกระทบต่อปริมาณการซื้อขายโดยส่งผลให้มูลค่าการลงทุนซื้อขายในไตรมาสสองลดลง 53% จากไตรมาสหนึ่งและลดลง 49% เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปีที่แล้ว เกาหลีใต้ มีการลงทุนซื้อขายโครงการอสังหาริมทรัพย์รายการใหญ่ๆเกิดขึ้นไม่มากซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้อย่างไรก็ดีมูลค่าการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2555 แต่ลดต่ำลงถึง 48% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปี ไทย ในไทยซึ่งเป็นตลาดการลงทุนซื้อขายอาคาร/โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศที่เป็นตลาดการลงทุนใหญ่ๆ ที่กล่าวถึงก่อนหน้า การลงทุนซื้อขายในครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วโดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายโรงแรมสะท้อนให้เห็นถึงการมีโรงแรมเสนอขายในตลาดมากขึ้นและนักลงทุนให้ความสนใจซื้อสูงในตลาดโรงแรมหลักๆของไทยโดยเฉพาะภูเก็ตและกรุงเทพฯ อินโดนีเซีย อินโดนีเซียได้รับความสนใจสูงจากนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและมีแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งเอื้อต่อการลงทุนอย่างไรก็ดีพบว่าการเข้าไปในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอินโดนีเซียเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากต้องแข่งขันกับนักลงทุนของอินโดนีเซียเองในขณะที่อาคาร/โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีเสนอมีจำนวนน้อยดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นยังคงเป็นการซื้อโดยนักลงทุนอินโดนีเซีย ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ วินัยใจทน 02 624 6540 winai.jaiton@ap.jll.com www.joneslanglasalle.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ