สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 19, 2013 10:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,278 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,284 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.05 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,750 บาท กับ 18,850 บาท และกลับมาปิดที่ 18,750 บาท กับ 18,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,640 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,142 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.8% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 2% GFQ13 ปิด 18,960 บาท และ GFV13 ปิด 19,0300 บาท GF10Q13 ปิด 18,960 บาท GF10V13 ปิด 19,040 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,284.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 3.1 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 19.38 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 935.17 ตัน (ขายออก 0.9 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 78.02 จุด ปิดที่ 15,548.54 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ตลาดไม่ค่อยตอบสนองต่อการปราศรัยรอบที่สองของนายเบอร์นันเก้เท่าไรนัก แม้เขาจะแสดงความคิดเห็นต่อทองคำก็ตาม นายเบอร์นันเก้ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับทองคำเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า ทองคำอยู่ในทิศทางขาลงในปัจจุบันเนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าทองคำเสมือนประกันวินาศภัย (Disaster insurance) ซึ่งเมื่อมีอะไรจะเกิดขึ้นในทางเลวร้าย อย่างน้อยนักลงทุนก็มีทองคำบางส่วนใน portfolio ของตนเอง ประกอบกับตอนนี้ที่เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ย่ำแย่อย่างที่เคยเป็นเมื่อไม่กี่ปีก่อนก็กดดันราคาทองคำ และอัตราเงินเฟ้อที่อยูในระดับต่ำก็เป็นอีกปัจจัย แต่ไม่มีใครเข้าใจราคาทองคำอย่างแท้จริง รวมถึงเขาด้วย อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นันเก้มองว่า สาเหตุหนึ่งที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงก็เพราะผู้คนกังวลน้อยลงเกี่ยวกับผลที่ตามมา โดยเฉพาะผลลบ ดังนั้นพวกเขาผู้จับตาตลาดทองคำส่วนใหญ่เห็นด้วยกับคำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ที่ว่า ทองคำเสมือนประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดทองคำเข้าใจว่า ความหายนะสามารถเกิดขึ้นได้ และหลายครั้งเกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าอย่างที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาตร์โลก SPDR ขายออกเมื่อวานนี้ 0.9 ตันคงเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 935.17 ตัน มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศเพิ่มมุมมองเครดิตสหรัฐจากเดิมติดลบเป็นมุมมองมีเสถียรภาพ และยืนยันระดับ Aaa ของสหรัฐ โดยให้เหตุผลถึงการเติบโตของเศรษฐกิจที่มั่นคงแม้จะมีการตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 108 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2012 จากตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งเมื่อวานนี้ ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% และ 0.6% ตามลำดับ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวกวันนี้ติดต่อกันเป็นวันที่หก แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดลดลงเล็กน้อยวันนี้ โดยหลังจากที่ตลาดเงิน overnight cash rate ทำจุดสูงสุดส่งผลความกังวลถึงภาวะสินเชื่อตึงตัวในเดือนที่ผ่านมาอีกครั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 358K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงที่ระดับ 344K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 334K - Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 12.5 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงที่ระดับ 8.5 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 19.8 ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจให้ติดตาม ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway แม้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเมื่อวานออกมาค่อนข้างดี จาก Unemployment Claims ลดน้อยลง ซึ่งมีตัวเลข Philadelphia Manufacturing Index ก็ดีขึ้นด้วย แต่จะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งอยู่บริเวณ 1,280 เหรียญได้ ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดูจะสดใส โดยการตอบกระทู้ของนายเบอร์นันเก้ที่สิ้นสุดโดยภาพรวมก็ยังไม่ได้มีความชัดเจนในทิศทางใดๆ ของ QE ซึ่งคาดว่าจะค่อยๆ ลดขนาดลงในปลายปี แรงตอบรับที่กลับเข้ามาในทองคำก็เป็นทั้งบวกและลบ โดยมีแรงซื้อหนาแน่นบริเวณ 1,275 เหรียญ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — โดยภาพรวมคาดว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway ในวันนี้ในกรอบ 1,275 — 1,300 เหรียญ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,295 เหรียญอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นแนวต้านแรก ในเชิงเทคนิคยังมองว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะเป็น Sideway up กลับขึ้นมาบริเวณ 1,300 เหรียญได้ในระยะสั้นๆ โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,275 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — เป็นลักษณะซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลงมาแล้วขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นไป โดยรักษาสมดุลของพอร์ตให้ดี นักลงทุนถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position เก็งกำไรในกรอบ 1,275 — 1,300 เหรียญดังกล่าว เป็นลักษณะลงซื้อขึ้นขาย รักษาสมดุลพอร์ต Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,100 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,990 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,180 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ