สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 24, 2013 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,358 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,333 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,450 บาท กับ 19,550 บาท และกลับมาปิดที่ 19,400 บาท กับ 19,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 826 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,722 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.7% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 0.2% GFQ13 ปิด 19,580 บาท และ GFV13 ปิด 19,640 บาท GF10Q13 ปิด 19,560 บาท GF10V13 ปิด 19,650 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,334.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 25.5 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 20.25 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 929.76 ตัน (ขายออก 1.5 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 29 เซ็นต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 107.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 22.19 จุด ปิดที่ 15,567.74 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงวานนี้เป็นครั้งแรกหลังจากปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันสี่วัน ซึ่งเป็นการปรับฐานทางเทคนิคในทิศทางขาลงจากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันจันทร์ ข่าวที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำเมื่อวานนี้ก็คือ รายงานที่รัฐบาลอินเดียจะเพิ่มมาตรการจำกัดการนำเข้าทองคำเพิ่มเติม เพื่อลดยอดขาดดุล นายเดนนิส การ์ทแมน ให้สัมภาษณ์กับ Kitco โดยโต้แย้งถึงปัจจัยต่างๆ มากมายจะเป็นสัญญาณขาขึ้นของทองคำ ซึ่งเฟดไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลดขนาดของงบดุลบัญชีในช่วงนี้ไปจนอีก 2 ปี CME Group เปิดเผยว่า ปริมาณ Open Interest ในสัญญา Gold Options เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,808,693 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 11,014 คู่สัญญา จากระดับเมื่อวันศุกร์ที่ 1,797,679 คู่สัญญา คอมเมิร์ซแบงก์ ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่า การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำในสัปดาห์นี้เป็นการกลับตัวแบบยั่งยืน เนื่องจากกองทุน ETF ยังคงมีการขายออก และอินเดียยังประกาศมาตรการจำกัดนำเข้าทองคำใหม่อีก SPDR ขายออกอีก 1.5 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 929.76 ตัน ผลสำรวจจาก Bloomberg ระบุว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด จะทำการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรในเดือนกันยายนให้เหลือ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน ประกอบกับมุมมองที่จีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช้านี้มีการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของจีนออกมาต่ำกว่าที่คาดที่ระดับ 47.7 จากคาดการณ์ 48.6 และน้อยกว่าเดิมที่ 48.2 เช้านี้ตลาดหุ้นนิกเกอิและฮั่งเส็งเปิดตลาดปรับตัวลดลง หลังจากการประกาศภาคการผลิตของจีนออกมาแย่ลง ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ - Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.9 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 52.5 - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 476K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 482K - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -6.9M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงที่ระดับ -2.5M ภาพรวมราคาทอง ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อวานเป็นลักษณะของการหยุดพักตัวสะสมพลัง โดย SPDR ยังขายต่อเนื่องอีก 1.5 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำอยู่ที่ 929.76 ตัน ตัวเลขเศรษฐกิจในวันนี้มี Flash Manufacturing PMI และ New Home Sales ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำเป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น หลังจากที่ทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,300 เหรียญ และ 1,330 เหรียญ โดยยืนอยู่ได้ทั้งวันท่ามกลางการซื้อขายที่หนาแน่นเมื่อวานนี้ ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,345 เหรียญ แนวต้านสำคัญถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,350 เหรียญ และมีแนวรับขยับขึ้นมาที่ระดับ 1,330 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำในระยะสั้นคงจะไปทดสอบแนวต้านด้านบน แต่คาดว่าน่าจะมีแรงเทขายทำกำไร แนะนำให้เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นและขายบริเวณแนวต้าน กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — แนะนำให้ปิดสถานะ Short Position และเปิดสถานะ Long Position โดยการบริหารพอร์ตให้เหมาะสม ซึ่งได้ย้ำมากว่าสัปดาห์แล้ว โดยคาดว่าวันนี้จะวิ่งอยู่ในกรอบ 1,330 — 1,350 เหรียญ นักลงทุนที่ถือ Long Position ขายทำกำไรเป็นช่วงๆ นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ปิดสถานะ และทำ Stop Loss เปิดสถานะ Long Position แทน Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,670 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,870 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,740 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,940 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ