กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้’พร้อมระดมทุนรอบใหม่ 694 ล้าน ดันมูลค่าโครงการแตะ 1,396 ล้านบาทเสนอขายผู้ถือหน่วยเดิมและประชาชนทั่วไปชูจุดเด่นลงทุน 3 โครงการแสวงหารายได้จากทรัพย์สินในสุดยอดทำเลใจกลางเมือง
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้ (TNPF) เตรียมเพิ่มทุนครั้งแรก หลังเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2554เผยมูลค่าระดมทุนรอบใหม่อยู่ที่ 694 ล้านบาท จัดสรรให้กับผู้ถือหน่วยเดิม 75.43 ล้านหน่วย ในอัตรา 1 หน่วยลงทุนเดิมต่อ 1.06245 หน่วยลงทุนใหม่ ราคา 9.20 บาท โดยปิดสมุดทะเบียน สำหรับสิทธิในการจองซื้อในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา และเปิดจองระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ส่วนที่เหลือ จะ เสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัดและประชาชนทั่วไปในราคา 9.20 บาท ระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคม เผย หลัง การเพิ่มทุนขนาดของกองทุนเพิ่มเป็น 1,396 ล้านบาท ระบุนำเงินไปลงทุนใน 3 โครงการ ได้แก่ ซื้อกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ (Freehold) ของอาคารตรีทิพย์2 ประกอบไปด้วย (1) โครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ (Glow studio) (2) โครงการวิลล่า มาร์เก็ต (3) ตรีนิตี้ มอลล์ 1 (บี) และลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) อายุ 30 ปี ในโครงการตรีนิตี้ มอลล์ 3 ย้ำจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง ที่มีกำลังซื้อหนาแน่น ขณะที่สัดส่วนรายได้สมดุล ระหว่างธุรกิจโรงแรม-เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่พึ่งพิงฤดูกาลและซูเปอร์มาร์เก็ตและช็อปปิ้ง มอลล์ ที่สร้างผลตอบแทน ได้ต่อเนื่อง ย้ำสัดส่วนลงทุน Freehold สูงกว่า 80% ตอกย้ำความน่าสนใจให้เข้าลงทุน ด้วยการร่วมเป็นเจ้าของโครงการบนทำเลที่ราคาที่ดิน มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตรีนิตี้ หรือ TNPF เปิดเผยว่า กองทุน TNPF จะทำการเพิ่มทุนเป็นครั้งแรก หลังจากกองทุนได้เสนอขายหน่วยลงทุนแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (IPO) เมื่อปี 2554 ก่อนจะเข้าจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้มีมูลค่า 694 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับขนาดเดิมของกองทุนซึ่งอยู่ที่ 702 ล้านบาท จะทำให้ขนาดของกองทุนหลังการเพิ่มทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1,396 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน กลต. ให้แก้ไขชื่อเป็น “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้” เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนและการลงทุน
ทั้งนี้ กองทุน TNPF จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนในสินทรัพย์หลัก 3 ประเภท ประกอบด้วย การลงทุนซื้อกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ (Freehold) โครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ได้แก่ อาคารโกลว์ สตูดิโอ (Glow Studio) และ ซูเปอร์มาร์เก็ต ได้แก่ โครงการวิลล่า มาร์เก็ต และ ตรีนิตี้ มอลล์ 1 (บี) และลงทุนในสิทธิการเช่าพื้นที่ (Leasehold) อายุ 30 ปี ในโครงการตรีนิตี้ มอลล์ 3
สำหรับอาคารโกลว์ สตูดิโอ (Glow Studio) เป็นอาคารที่พักอาศัยหรือเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ สำหรับการทำธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัว หรือการพักผ่อนแบบครอบครัวในทำเลสีลม-สาทร ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมด้วย แหล่งจับจ่ายใช้สอยและระบบขนส่งมวลชน ทั้งระบบรถไฟลอยฟ้า (บีทีเอส) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (เอ็มอาร์ที) ขณะที่ วิลล่า มาร์เก็ต (ในส่วนพื้นที่พาณิชยกรรม) เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกว่า 600 ตารางเมตร ที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับทุกกลุ่มลูกค้า โดยมียอดขายไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทต่อวัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโต เช่นเดียวกันกับส่วน Shopping Mall ที่กองทุน TNPF จะเข้าไปลงทุน ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่พาณิชยกรรมใน โครงการตรีนิตี้ มอลล์ 1 (บี) ซึ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีกปรับอากาศที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 69 ร้านค้า อาทิ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ รวมถึงของแต่งบ้าน เป็นต้น และพื้นที่พาณิชยกรรมในโครงตรีนิตี้ มอลล์ 3 ซึ่งประกอบด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแบรนด์เนม และสินค้าจิวเวลรี่
นายธีรพันธุ์กล่าวด้วยว่า ภายหลังจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ สัดส่วนการถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (Freehold) จะอยู่ที่ 82% ขณะที่สิทธิการเช่า (Leasehold) จะอยู่ที่ 18% ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของกองทุน TNPF เนื่องจากทรัพย์สินที่กองทุนเข้าลงทุนตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางธุรกิจย่านสีลม-สาทร ซึ่งเป็นทำเลที่มีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น การลงทุนที่เน้นการถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะส่งผลดีต่อการเติบโตของกองทุนในระยะยาว นอกจากนี้ กองทุนยังรับประกันรายได้เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี (ในส่วนทรัพย์สินที่ลงทุนจากการเพิ่มทุน) โดยบริษัท ตรีนิตี้ แอสเซท จำกัด จัดให้มีหลักประกันแก่กองทุนรวมโดยการวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์เต็มจำนวนดังกล่าว ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น หากกองทุนมีผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
“กองทุนรวม TNPF มีผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่องตั้งแต่จัดตั้งกองทุน โดยผลตอบแทนในระยะเวลา 1 ปี่ผ่านมาเทียบกับราคา ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2556 จะอยู่ที่ประมาณ 8.16% ซึ่งการเติบโตของกองทุน มีปัจจัยสนับสนุนจากจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจในซอยละลายทรัพย์ ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ฯ และมีความหนาแน่นของประชากรอยู่ในระดับที่สูง ขณะที่การคมนาคมสะดวก สามารถเดินทางเข้าออกได้จากทั้งเส้นทางสีลม สาทรและนราธิวาสราชนครินทร์ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ที่ห่างออกไปเพียง 100 เมตร” นายธีรพันธุ์กล่าว
ทั้งนี้ กองทุน TNPF จะเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุน โดยเสนอขายจำนวน 75.43 ล้านหน่วย ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมในอัตรา 1 หน่วยลงทุนเดิมต่อ 1.06245 หน่วยลงทุนใหม่ ในราคา 9.20 บาท โดยปิดสมุดทะเบียน สำหรับสิทธิในการจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของผู้ถือหน่วยเดิมในวันที่ 26 ก.ค.56 และกำหนดจองซื้อระหว่าง วันที่ 13-15 สิงหาคม พร้อมจัดสรรหน่วยลงทุนที่เหลือให้กับบุคคลในวงจำกัดและประชาชนทั่วไป ในราคาหน่วยละ 9.20 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย ในระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคมนี้
ทางด้านนางสาวอรนารถ เชิดบุญชาติ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทตรีนิตี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทตรีนิตี้ ได้ทำการบริหาร ช็อปปิ้งมอลล์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการตรีนิตี้ จนมีชื่อเสียงและกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญในย่านสีลม โดยจุดเด่นของโครงการ นอกจากจะมีความสะดวกสบายจนเรียกว่า ละลายทรัพย์ติดแอร์แล้ว ยังเน้นจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมที่แตกต่าง จากสินค้าในซอยละลายทรัพย์ โดยมีที่จอดรถบริการลูกค้าอย่างสะดวกสบาย รวมยังมี villa market ซึ่งเป็น Super Market ที่ได้รับความนิยมมีผู้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยอย่างคึกคัก
ในส่วนของ Trinity Mall 1 มี occupancy rate เฉลี่ยในเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2556 สูงถึง 100% และ Trinity Mall 3 สูงถึงเกือบ 100% ส่วนของ Glow Trinity Silom ซึ่งเป็นทรัพย์สินเดิมที่อยู่ในกองทุนนั้น ก็ได้ทีมบริหารโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์มืออาชีพจากบริษัท อินวิชั่น ฮอสพิทาลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรม GLOW มาเป็นผู้บริหารทำให้มีอัตราการเข้าพัก ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม สูงถึงกว่า 91% จึงมั่นใจได้ว่ากองทุนนี้ เป็นกองทุนที่น่าจับตามองและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน
ขณะที่นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุน TNPF เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า การเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุน ของกองทุนในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปแบบของกองทุนมีการกระจาย ความเสี่ยงจากแหล่งที่มาของรายได้ ทั้งในรูปแบบของเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ซูเปอร์มาร์เก็ตและช็อปปิ้งมอลล์ โครงการตรีนิตี้ ในสัดส่วนที่สมดุล ซึ่งถือเป็นการถ่วงดุลที่ดี เพราะธุรกิจโรงแรมขึ้นกับฤดูท่องเที่ยว ในขณะที่พื้นที่ ช็อปปิ้งไม่มีผลกระทบจากฤดูกาลและยังมีรายได้ที่ต่อเนื่องจากการเช่า ยิ่งไปกว่านั้น sponsor ของกองทุนซึ่งคือ บริษัท ตรีนิตี้ แอสเซทยังมี การประกันรายได้ ค่าเช่า ในช่วง 4 ปีแรก (ในส่วนทรัพย์สินที่ลงทุนจากการเพิ่มทุน) ที่กองทุนเข้าลงทุนอีกด้วย ยังไม่นับถึงมูลค่าที่ดินที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ณ ปัจจุบันราคาประเมินที่ดินบริเวณถนนสีลมของกรมธนารักษ์สูงถึงตารางวาละ 850,000 บาท ขณะที่ การลงทุนในทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นสามารถเฉลี่ยค่าใช้จ่าย การบริหารทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้สนใจจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้ (TNPF) สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด โทร. 02-352-4050 และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) โทร. 02-638-5500
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน การที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้อนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมนี้ มิได้เป็นการแสดงว่าสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้รับรองถึงความครบถ้วน ถูกต้องของข้อมูลเสนอขาย และมิได้ประกันราคาหรือผลตอบแทนของกองทุนรวม การรับประกันรายได้ค่าเช่าคงที่ให้แก่กองทุนรวมขึ้นอยู่กับความสามารถในการปฏิบัติตามสัญญาของผู้รับประกัน ผู้ลงทุนจึงควรศึกษารายละเอียดของการรับประกันรายได้ค่าเช่าคงที่ ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของผู้รับประกันก่อนตัดสินใจลงทุน
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนามกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตรีนิตี้)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า)
โทร 02-612-2081 ต่อ 129
e-mail : orn_tabo@hotmail.com