NIAID เปิดรับสมัคร ผู้ดำเนินงานหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิก สำหรับเครือข่ายเอชไอวี/เอดส์ที่ปรับปรุงใหม่

ข่าวทั่วไป Tuesday March 8, 2005 08:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) ได้ประกาศเชิญชวนผู้สนใจ จากสถาบันวิจัยทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อเข้ามาเป็นหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิก (Clinical Trials Units -CTUs) สำหรับเครือข่ายการวิจัยทดลองทางคลินิกด้านโรคเอดส์ของสถาบันฯ NIAID ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ (NIH) ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดว่าเป็นผู้ให้การทุนสนับสนุนงานวิจัยทางคลินิกในด้านการป้องกันโรคเอดส์ การวิจัยและพัฒนาวัคซีนและการรักษา ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หนังสือเชิญชวนการสมัครครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่สองของการประกาศขอรับสมัคร (Request for Applications - RFAs) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความมีประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือและการผสมผสานเข้าด้วยกัน ของงานเครือข่ายการวิจัยทดลองทางคลินิกด้านโรคเอดส์ของ NIAID รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่ายในการดำเนินงานการวิจัยทางคลินิกที่สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรจำกัด
หนังสือ RFA ฉบับแรกนั้น เป็นเรื่อง “การสร้างความเป็นผู้นำในเครือข่ายการวิจัยทดลองทางคลินิกด้านโรคเอดส์” ซึ่งได้ประกาศออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 เครือข่ายที่เกิดจาก RFA ครั้งนั้น จะมุ่งเรื่องการพัฒนาและการประเมินผลงานการรักษา, กลยุทธการป้องกันและวัคซีน พร้อมกับการเน้นรูปแบบการดำเนินการที่สามารถจัดทำได้ในพื้นที่ที่มีทรัพยากรจำกัด สำหรับหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิก (CTUs) ที่ให้ทุนตาม RFA ครั้งนี้ จะต้องดำเนินงานวิจัยตามกรอบงานวิจัยของเครือข่าย ในหนึ่งหัวข้อการวิจัยหรือมากกว่าก็ได้ จากหัวข้อการวิจัยหลักที่ให้น้ำหนักความสำคัญไว้จำนวนหกหัวข้อเรื่องดังต่อไปนี้:
พัฒนาวัคซีนเอดส์
การแปลผลการวิจัยไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาโรคเอดส์
การจัดการทางคลินิกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับโรคเอดส์ และโรคติดเชื้อร่วมอื่น รวมทั้งอาการที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี
การพัฒนาสารป้องกันการติดเชื้อ (Microbicides) เพื่อป้องกันการรับเชื้อ และ/หรือ การถ่ายทอดเชื้อเอชไอวี
การป้องกันการติดเชื้อจากมารดาสู่ลูก
การพัฒนาวิธีการอื่นๆ เพื่อป้องกันโรคเอดส์
“หน่วยวิจัยทดลองทางคลินิกเหล่านี้จะช่วยประสานงานและดำเนินการวิจัยโรคเอดส์ในรุ่นต่อไป ทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก” นายแพทย์แอนโทนี่ เอส เฟาว์ซี่ ผู้อำนวยการ NIAID กล่าว “เป้าหมายของเราคือการพัฒนาโครงสร้างความเป็นผู้นำและการวิจัยที่เป็นไปได้ที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความยืดหยุ่น ความร่วมมือ และการประสานงานในด้านการวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนเอดส์ การป้องกันและการรักษา”
เงินทุนสนับสนุนสำหรับโครงการการสร้างความเป็นผู้นำเครือข่ายและหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิกในปีแรกนี้มีมูลค่าถึง 300 ล้านดอลลาร์ และอาจมีการดำเนินการต่อเนื่องไปประมาณเจ็ดปี การประกาศผลการอนุมัติให้ทุนในโครงการการสร้างความเป็นผู้นำคาดว่า อย่างเร็วที่สุดน่าจะราวเดือนมีนาคม 2549 ส่วนการประกาศผลการอนุมัติให้ทุนในโครงการหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิก คาดว่าน่าจะมีขึ้นราวกลางถึงปลายปี 2549
หน่วยวิจัยทดลองทางคลินิกแต่ละหน่วย จะดำเนินการภายใต้การนำของนักวิจัยหลัก โดยมีองค์ประกอบคืองานบริหารจัดการ และมีหน่วยวิจัยซึ่งอาจมีเพียงหนึ่งแห่งหรือมากกว่าก็ได้ NIAID สนับสนุนอย่างยิ่งให้มีการจัดตั้ง CTUs ที่สามารถเข้าถึงประชากรที่มีความเสี่ยงสูงหรือถูกคุกคามจากการระบาดเชื้อเอชไอวี ทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตรี เยาวชน และชนผิวสี
นายแพทย์เฟาว์ซี่ ให้ความเห็นว่า “เครือข่ายการวิจัยทดลองทางคลินิกด้านโรคเอดส์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ จะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นมีภาระผูกพันธ์ร่วมกันของสถาบันต่าง ๆ มีระดับความร่วมมือต่อกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมทั้งการมีส่วนร่วม ตลอดจนความสนับสนุนจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ ในสหรัฐอเมริกาและจากทั่วโลก”
การปรับปรุงโครงสร้างการวิจัยทางคลินิกดังที่ปรากฏใน RFAs ทั้งสองครั้งนี้ เกิดมาจากการได้ปรึกษาหารือหลายต่อหลายครั้งกับนักวิจัย แพทย์ พยาบาล ผู้นำชุมชน ผู้สนับสนุน ตลอดจนผู้ติดเชื้อเอชไอวี และกลุ่มเสี่ยง
ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัคร
องค์กรหรือสถาบันในสังกัดภาครัฐหรือเอกชนใด ๆ เป็นองค์กรที่แสวงผลกำไรหรือไม่ก็ตาม สามารถส่งใบสมัครเป็นหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิกตามหนังสือเชิญชวนนี้ได้ องค์กรที่สนใจอาจเป็นองค์กรระดับในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ และอาจรวมไปถึงมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงพยาบาล สถานพยาบาลเอกชนและกลุ่มทางการแพทย์ หน่วยงานของรัฐ และการปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ และองค์กรเอกชนที่มีคุณสมบัติ
NIAID จะจัดการประชุมก่อนการเปิดรับสมัครสี่ครั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดในการ ส่งใบสมัครเพื่อเป็นหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิก การประชุมมีขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ วันแรกของการประชุมเป็นการประชุมปฏิบัติการเกี่ยวกับวิธีการเขียนโครงการ เพื่อสร้างความเข้าใจถึงขั้นตอนการเขียนใบสมัครขอทุนของ NIH และให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเขียนใบสมัครขอทุน การประชุมวันที่สอง จะให้รายละเอียดในเรื่องข้อกำหนดที่จำเป็นในการสมัคร ขั้นตอนการสมัครและกระบวนการตรวจสอบ การประชุมจะจัดขึ้นในเมืองต่างๆ ดังต่อไปนี้:
บีเธสดา รัฐแมรี่แลนด์ (วันที่ 7-8 มีนาคม)
ไมอามี่ รัฐฟลอริด้า (วันที่ 17-18 มีนาคม)
โจฮานเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ (วันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 1 เมษายน)
กรุงเทพฯ ประเทศไทย (วันที่ 20-21 เมษายน)
เอกสารเกี่ยวกับ RFA ในโครงการหน่วยวิจัยทดลองทางคลินิกสำหรับเครือข่ายการวิจัยทางคลินิกด้านโรคเอดส์ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จัดประชุม การจัดการประชุมและรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดประชุมก่อนการเปิดรับสมัครนี้ สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.niaid.nih.gov/daids/rfa/network06
แม้ว่า ได้มีการจัดทำเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการประกาศรับสมัครครั้งนี้จำนวนหนึ่งเป็นภาษาอื่น ๆ ด้วยก็ตาม แต่เอกสารที่มีการจัดเตรียมไว้และมีเนื้อหาสมบูรณ์ในเรื่อง RFA และเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จะมีเฉพาะในภาษาอังกฤษเท่านั้น
NIAID เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ (National Institutes of Health) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชน (Department of Health and Human Services) ของประเทศสหรัฐอเมริกา NIAID สนับสนุนการวิจัยพื้นฐานและการวิจัยประยุกต์ เพื่อการป้องกัน วินิจฉัยโรค และการรักษาโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น เอชไอวี/เอดส์ และการติดเชื้อที่เกิดจากเพศสัมพันธ์อื่นๆ, เชื้อไข้หวัดใหญ่อินฟลูเอนซ่า (Influenza), วัณโรค มาเลเรีย และการเจ็บป่วยที่เกิดจากชีวภาพที่นำมาใช้ในการก่อการร้าย นอกจากนี้ NIAID ยังสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะภายใน และการเจ็บป่วยที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันโรค รวมทั้งความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โรคหืดและโรคภูมิแพ้ต่างๆ
การแถลงข่าว ใบอธิบาย และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ NIAID สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ของ NIAID ที่ http://www.niaid.nih.gov--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ