กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ หรือ QTC ประกาศเดินหน้าประมูลงาน กฟภ - กฟน อีกกว่า 2,000 ล้านบาท มั่นใจคว้างานใหม่เข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่างานประมูลทั้งหมด เชื่อครึ่งปีหลังงานจะมีงานเข้ามาเสริมทัพไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ด้าน ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ “ พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ” วางกลยุทธ์ เจาะตลาดต่างประเทศ อาทิ ตะวันออกกลาง , ทวีปแอฟริกา , กลุ่มอาเซียน เพิ่ม พร้อมพัฒนาเครื่องจักร เพิ่มกำลังการผลิต หวังต่อยอดการขยายตลาดในอนาคต
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และงานเอกชน คิดเป็นมูลค่ารวม กว่า 3,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯคาดว่าจะสามารถคว้างานประมูลดังกล่าว ได้ 10 -15% ของมูลค่ารวมที่เข้าประมูลทั้งหมด อีกทั้งมีงานเอกชนเข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากบริษัทฯชนะการประมูลดังกล่าว ก็จะส่งผลให้มูลค่างานในมือ(Backlog)ครึ่งปีหลัง เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ที่มีอยู่ 255 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯจะมีมูลค่างานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ อาทิ แถบตะวันออกกลาง , ทวีปแอฟริกา หรือแม้แต่ประเทศในกลุ่มอาเซียน มากขึ้น เนื่องจากมองว่าตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าว ยังคงมีอัตราการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับ แผนการเพิ่มกำลังการผลิต โดยการเพิ่มเครื่องจักรในจุดที่เป็น bottleneck ในกระบวนการผลิต รวมถึงเปลี่ยนเครื่องจักรให้เป็น Automation มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความสูญเสียในกระบวนการผลิตด้วย Lean Technic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น โดยบริษัทฯมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่น้อยกว่า 50% ภายในปี 2560 ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การขยายศักยภาพในข้างต้น จะส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถในการรองรับงานใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากตลาดส่งออกกว่า 20%
“ โดยส่วนตัวเชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการวางกลยุทธ์ในเชิงขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทั้งจากกลุ่มลูกค้ารายเดิม และ ลูกค้าใหม่ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า ฯลฯ รวมถึงการร่วมพันธมิตร เพื่อผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่าย หม้อแปลงชนิด Dry type cast resin กับบริษัทชไนเดอร์ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจากกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทฯขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และ มียอดขาย เพิ่มขึ้น” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานในปีนี้ นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยจะเห็นได้อัตราการยายตัวของตลาดในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวกว่า 5.5 — 6.5% จึงส่งผลให้ บริษัทฯมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และสามารถต่อยอดฐานลูกค้ารายเดิม ไว้ได้ ทำให้ยอดคำสั่งซื้อมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม