กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--โอเพ่นมายด์
กระทรวงการคลัง เดินหน้าเปิดให้บริการ “โครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” ทั่วประเทศ บูรณาการความรู้ด้านภาษีอากรแบบออนไลน์ ผสานความร่วมมือเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านภาษีอากรจาก กรมสรรพากร กรมศุลกากร และ กรมสรรพสามิตแบบ One Stop Service บริการให้ความรู้และคำปรึกษาด้านภาษีแก่ SMEs เพื่อเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไทยสู่ AEC โดยมี นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกฎหมายด้านภาษีของไทยยังมีความสลับซับซ้อน ข้อมูลทางด้านภาษียังจัดไม่เป็นระบบ การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทำได้ยาก ส่งผลให้การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของภาคเอกชนอย่างถูกต้องเป็นไปได้โดยยาก ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องสูญเสียทั้งเวลาและงบประมาณในการค้นคว้าหาข้อมูล การเดินทางไปติดต่อสำนักงานภาษี การกรอกเอกสาร และการจ้างที่ปรึกษา ซึ่งต้นทุนเหล่านี้ได้กลายเป็นภาระที่ส่งผลให้ศักยภาพด้านการแข่งขันของภาคเอกชนลดลง
“คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง เป็นนวัตกรรมใหม่ของกระทรวงการคลังในการพัฒนารูปแบบการให้บริการด้านภาษีในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวก รวดเร็ว และ การให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการให้บริการกับผู้ประกอบรายใหม่ ผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs และ ประชาชนทั่วไป โดยกรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ได้บูรณาการผสานความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการคลินิกภาษีร่วมกัน โดยรวบรวมองค์ความรู้ด้านภาษีอากรจาก 3 กรมภาษี มาจัดเก็บอยู่ในระบบไอทีและเผยแพร่ทาง Web site, Mobile Application และ Social Media เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการด้านความรู้ภาษีอากร โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยลดภาระการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของภาคเอกชนให้ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อภาคเอกชนมีต้นทุนลดต่ำลง ก็จะมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น”
นายอารีย์พงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าโครงการคลินิกภาษีได้รวบรวมองค์ความรู้จาก 3 กรมจัดเก็บภาษี มาไว้ ณ จุดเดียว ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับภาคเอกชนในเข้าถึงองค์ความรู้เรื่องภาษีผ่านทางช่องทางต่างๆ ทันสมัย ที่สำคัญยังช่วยลดโอกาสของความผิดพลาดในการทำระบบภาษีของธุรกิจ ที่อาจจะต้องเสียค่าปรับจำนวนมาก นอกจากนี้ยังจะมีการอัพเดทข้อมูลด้านภาษีใหม่ๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ส่งตรงถึงผู้ประกอบการผ่านเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก
“ข้อมูลภาษีธุรกิจที่ถูกรวบรวมไว้ในเวบไซต์คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง ที่ในปัจจุบันมีจำนวน เพียง 55 ธุรกิจ ถือว่าเป็นแค่การเริ่มต้นในระยะแรก ในอนาคตจะขยายเพิ่มมากขึ้นไปในทุกธุรกิจ รวมไปถึงการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางและฐานความรู้ทางด้านภาษีประเภทต่างๆ ทั้งของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รวบรวมข้อมูลด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพภาคเอกชนไทยในการแข่งขันบนเวทีของ AEC ซึ่งกระทรวงการคลังมุ่งหวังว่าเมื่อผู้ประกอบการเข้าใจในระบบภาษีอย่างแท้จริง จะเห็นประโยชน์ของการเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ไม่ว่าจะเป็นการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม สิทธิพิเศษด้านภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เพราะหากต้องกังวลกับการหลบเลี่ยงภาษี ก็คงไม่สามารถที่จะขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่”
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการคณะกรรมการกำกับ ติดตามและประเมินผลโครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลังว่า เป็นโครงการสร้างนวัตกรรมการให้บริการด้านภาษีรูปแบบใหม่ ของ 3 กรมภาษี ซึ่งมุ่งเน้นให้บริการแบบบูรณาการ ณ จุดเดียว ที่สามารถตอบสนองผู้ประกอบการและประชาชนให้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น
“โครงการคลินิกภาษี มีขอบเขตการดำเนินงานโดยมุ่งเน้นการให้บริการ 2 ด้านคือการให้ความรู้ และการให้คำปรึกษา โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้บูรณาการ 3 กรมภาษีเป็นรายธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความรู้ และทรัพยากรที่จำกัดในการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบภาษี นอกจากจะเข้าไปหาความรู้เรื่องของภาษีธุรกิจในเวบไซต์คลินิกภาษีได้ด้วยตนเองแล้ว ยังมีหมอภาษี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องภาษีธุรกิจประจำอยู่ ณ จุดให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ จำนวน 268 จุดทั่วประเทศของทั้ง 3 หน่วยงาน ซึ่งจากการเปิดให้บริการในส่วนของเวบไซต์ อย่างไม่เป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา พบว่ามีจำนวนผู้เข้าชมเวบไซต์คลิกนิภาษีกระทรวงการคลังถึง 36,229 ราย และมี Page Visit จำนวน 117,000 Page Visit แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก ซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ มีการประชาสัมพันธ์ออกไปอย่างกว้างขวาง จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก”
ปัจจุบัน “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจไว้อย่างละเอียดจำนวน 55 ธุรกิจ และอยู่ในระหว่างการเพิ่มเติมข้อมูลกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับธุรกิจต่างๆ ได้ที่ เวบไซต์คลินิกภาษี http://taxclinic.mof.go.th
รวมทั้งยังเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านภาษีให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นผ่าน Mobile Application สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ต ทั้งในระบบ i-OS และ Android สามารถเข้าไปดาวน์โหลด Application Tax Clinic ได้จาก App Store และ Google Play รวมถึงการเชื่อมโยงกับ Social Network เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ และยังได้มีการพัฒนาระบบการให้บริการที่เรียกว่า E-appointment หรือ ระบบนัดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอนัดรับคำปรึกษาเรื่องภาษีจากผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 3 กรมภาษีได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะมี “หมอภาษี” ประจำอยู่ ณ จุดให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ จำนวน 268 จุดทั่วประเทศของทั้ง 3 หน่วยงาน และยังมี Call Center 1689 อีก 10 คู่สาย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการประชาชน ในการติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง