กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ฉลองครบรอบ 20 ปี ด้วยการจับมือ กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย และดาราสาวขวัญใจประชาชน แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์ จัดโครงการ “20 ปี บิ๊กซี จับมือทำดีเพื่อชุมชน” ดำเนินโครงการเพื่อชุมชนแบบ “Bottom-up CSR” เฟ้นหาสุดยอดโครงการเพื่อชุมชน จากข้อเสนอโครงการกว่า 130 โครงการที่สาขาบิ๊กซีทั่วประเทศร่วมกับชุมชนคิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริงและยั่งยืน พร้อมเผยแผนสร้างงานให้คนไทยเพิ่มอีกกว่า 7,000 ตำแหน่งในปี 2557
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา บิ๊กซีภูมิใจและซาบซึ้งอย่างยิ่งที่ผู้บริโภคทั่วประเทศให้ความไว้วางใจ สนับสนุนบิ๊กซีจนเราเติบโต พัฒนา และมีร้านค้าทุกรูปแบบกว่า 450 สาขาทั่วประเทศ เราจะมุ่งมั่นก้าวไปสู่การเป็นห้างค้าปลีกอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอความคุ้มค่าผ่านสินค้าคุณภาพ การบริการที่เป็นเลิศ ความสะดวกครบครัน และที่สำคัญที่สุด คือการร่วมพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืนและสม่ำเสมอ”
“ในปีแห่งการครบรอบ 20 ปีบิ๊กซี และเพื่อขอบคุณผู้บริโภคทั่วประเทศที่โหวตให้บิ๊กซีได้รับ 2 รางวัลแห่งความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 คือรางวัล “ห้างค้าปลีกยอดนิยมอันดับ 1” (Most Favorite Hypermarket Award) และรางวัล “ห้างค้าปลีกที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นและไว้ใจ” (Trusted Brand Award) บิ๊กซี จะร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และคุณแพนเค้ก — เขมนิจ จามิกรณ์ ดำเนินโครงการ “20 ปี บิ๊กซี จับมือทำดีเพื่อชุมชน” ซึ่งเป็นแนวคิดแบบ “Bottom-Up CSR” ที่จะตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริงและยั่งยืน ด้วยการให้สาขาบิ๊กซีทั่วประเทศ ลงพื้นที่หารือกับหน่วยงานและชุมชนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันออกแบบข้อเสนอโครงการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ชุมชนของตน ที่คิดโดยชุมชน ทำโดยชุมชน จากนั้น คณะกรรมการ อันประกอบด้วย กรมการปกครอง บิ๊กซี แพนเค้ก และประชาชนผู้สนใจทั่วประเทศ จะร่วมกันให้คะแนนข้อเสนอโครงการที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 10 โครงการ เพื่อเฟ้นหา 5 โครงการที่ได้คะแนนรวมสูงสุด เพื่อบิ๊กซีจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับสาขาและสมาชิกในท้องถิ่นดำเนินโครงการในปีนี้ และสำหรับในปีต่อๆ ไป บิ๊กซีจะดำเนินโครงการ “จับมือทำดีเพื่อชุมชน” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนโครงการที่เหมาะสมอื่นๆ และสร้างสรรค์การพัฒนาที่มาจากความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง ให้กับชุมชนทั่วประเทศ”
“ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม — 15 สิงหาคม 2556 บิ๊กซี กรมการปกครอง และแพนเค้ก จึงขอเชิญประชาชนผู้สนใจทั่วประเทศ ร่วมโหวตให้ข้อเสนอโครงการที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่ทุกท่านชื่นชอบ ทางเฟซบุ๊ค “สร้างวันใหม่กับบิ๊กซี” (www.facebook.com/bigcsupercenter) จากนั้น บิ๊กซีจะนำคะแนนโหวตไปรวมกับคะแนนของคณะกรรมการฯ และจะประกาศผลและเริ่มดำเนินโครงการทันที”
นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ ผู้แทนกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า “กรมการปกครองมีภารกิจหลักในการดูแลความเป็นอยู่และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของพี่น้องในทุกจังหวัด กรมฯ จึงชื่นชมองค์กรภาคธุรกิจอย่างบิ๊กซี ที่ได้ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน ในการการสร้างสรรค์โครงการพัฒนาชุมชนที่มาจากความต้องการที่แท้จริงของชุมชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน”
“กรมการปกครอง รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ 10 โครงการที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย จะส่งผลดีต่อชุมชนอย่างครอบคลุม ทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การสร้างสำนึกรักชุมชน การอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยว ได้แก่ โครงการสร้างศูนย์การเรียนรู้เอนกประสงค์ตามศาสตร์พระราชาที่ชุมพร โครงการสร้างธนาคารปูม้าที่เกาะพะงัน โครงการสร้างพื้นที่อนุรักษ์นกยูงไทยที่ลำพูน โครงการห้องเรียนเสริมพัฒนาการให้เด็กผู้พิการที่นครสวรรค์ โครงการสร้างแทงค์น้ำสะอาดเพื่อน้องที่เชียงใหม่ โครงการสร้างจุดพักผ่านแดนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มุกดาหาร โครงการปรับปรุงสวนสุขภาพที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี โครงการสร้างศาลารอเรือเร็วรังสิต-ปทุมธานี โครงการสร้างห้องทำอาหารให้เด็กอ่อนคลองเตย พระราม 4 และโครงการปรับปรุงที่พักรถโดยสารที่สุขสวัสดิ์ ซึ่งกรมการปกครองมั่นใจว่า โครงการเหล่านี้จะจุดประกายและเป็นต้นแบบให้กับทุกภาคส่วน ในการร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนในทุกพื้นที่ต่อไป”
แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์ กล่าวในฐานะทูตของโครงการ “20 ปี บิ๊กซี จับมือทำดีเพื่อชุมชน” ว่า “แพนตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ โดยเฉพาะกับการได้เรียนรู้ถึงความต้องการและปัญหาของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเปิดโลกทัศน์และทำให้แพนเข้าใจพี่น้องไทยทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอีกมาก หลายโครงการที่เสนอเข้ามา เป็นโครงการที่เราคิดไม่ถึงและประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อชุมชนอย่างมาก ทั้งต่อคน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม แพนขอเชิญทุกคนที่สนใจเข้ามาร่วมกันศึกษาโครงการและโหวตให้กับโครงการที่ชื่นชอบ เพื่อช่วยกันสนับสนุนสิ่งดีๆ ที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับชุมชนของเรา และแพนจะรอวันที่จะได้ลงพื้นที่ทำโครงการทั้ง 5 โครงการ ร่วมกับบิ๊กซี กรมการปกครอง พี่น้องในชุมชน และผู้โชคดีจากการโหวตทั้ง 20 คน ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนี้ค่ะ”
ทั้งนี้ ผู้ที่ร่วมโหวต จะได้ลุ้นเป็น 1 ใน 50 ผู้โชคดีได้ลงพื้นที่กับแพนเค้กเพื่อทำ 5 โครงการที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นจริง นอกจากนั้น ยังได้ลุ้นรับบัตรกำนัลบิ๊กซีมูลค่า 200 บาท จำนวน 200 รางวัล อีกด้วย
ในปี 2556 บิ๊กซีจะเปิดบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพิ่มอีก 6 สาขา บิ๊กซี มาร์เก็ต 13 สาขา มินิบิ๊กซี 150 สาขา และร้านขายยาเพรียว 50 สาขา คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 9% จากนั้น ในปี 2557 จะเปิดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง และภายในปี 2559 บิ๊กซีมีแผนจะขยายสาขาบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า บิ๊กซี มาร์เก็ต และบิ๊กซี จัมโบ้ ให้ครบ 300 สาขา และมินิบิ๊กซี 950 สาขา ทั้งนี้ ในปี 2557 ธุรกิจของบิ๊กซีจะสร้างงานให้คนไทยได้อีกถึง 7,000 ตำแหน่ง เพิ่มจากอัตราที่มีอยู่ขณะนี้กว่า 27,000 ตำแหน่ง
“การขยายธุรกิจของบิ๊กซีจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการสร้างงานและรายได้ในท้องถิ่น บิ๊กซีเป็นห้างค้าปลีกรายแรกที่ริเริ่มแนวคิดการคืนภาษีสู่ท้องถิ่น โดย 20 ปีที่ผ่านมา ได้คืนภาษีสู่ท้องถิ่นแล้วกว่า 41,000 ล้านบาท และสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท ด้วยการสนับสนุนให้พนักงานทำงานในภูมิลำเนาของตนเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวและชุมชน นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและโอกาสในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่ด้านการศึกษา เช่น การใช้งบประมาณกว่า 250 ล้านบาท สร้างอาคารเรียน 37 หลังให้แก่โรงเรียนที่ห่างไกล และมอบทุนการศึกษา 28,000 ทุน ให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไปจนถึงด้านการพัฒนาชุมชน เช่น การเป็นห้างค้าปลีกห้างแรกและห้างเดียวที่สร้างอาชีพที่มั่นคงและถาวรให้กับคนพิการครบและเกินจากที่กฎหมายกำหนด จนได้รับรางวัล “องค์กรดีเด่นด้านการสร้างงานให้แก่ผู้พิการ” ด้านการสนับสนุนเกษตรกรไทย เช่น การรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรไทยกว่า 70,000 ตัน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม และการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มกว่า 500 ตัน เพื่อนำไปทำหลังคาเขียวสำหรับสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยธรรมชาติทั่วประเทศ และด้านสุขภาพ เช่นการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สภากาชาดไทย และมูลนิธิต่างๆ จัดซุ้มตรวจสุขภาพพื้นฐานเป็นประจำ เป็นต้น” นายกุฎาธาร กล่าว
“บิ๊กซีจะรักษาความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของลูกค้าทั่วประเทศด้วยการเป็นผู้นำด้านราคาถูก การบริการ และการตอบแทนสู่สังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคและชุมชนในทุกๆ วัน และเพื่อฉลองครบ 20 ปี บิ๊กซีได้เริ่มนโยบาย “ยิ้มได้ทุกการช้อปที่บิ๊กซี” เพื่อรับประกันความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค ทั้งความสดใหม่ของอาหารสดและเปลี่ยนได้หากไม่สดพอ การชำระเงินที่รวดเร็วทันใจ ป้ายราคาสินค้าที่ถูกต้อง และการรับคืนและเปลี่ยนสินค้าได้ทันทีหากไม่พึงพอใจด้วย” นายกุฎาธาร สรุป