บลจ. ฟินันซ่า เสนอตราสารหนี้ 3 เดือน อัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.85% ต่อปี รับขาลงเศรษฐกิจไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 30, 2013 10:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--บลจ. ฟินันซ่า นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด (บลจ. ฟินันซ่า) ประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่า 4.2% ต่อปี เตรียมเสนอกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน อัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.85% ต่อปี “หลักการลงทุนสำคัญคือ การปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนให้สอดคล้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งบลจ. ฟินันซ่า ได้ให้ความรู้กับลูกค้าในประเด็นนี้มาตลอด ขณะนี้ ในระยะสั้นเราคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จะชะลอลงมากจากการส่งออกที่อ่อนแอ โดยเฉพาะการส่งออกไปจีน และการอ่อนตัวของการบริโภคและการลงทุนในประเทศไทย จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 56 ขยายตัวไม่ถึง 4.2% ต่อปี ดังนั้น บลจ. ฟินันซ่า จึงเริ่มเสนอสินทรัพย์ที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนดีและมีความเสี่ยงปานกลางแก่ลูกค้า โดยเน้นไปที่กองทุนตราสารหนี้ที่ให้โอกาสรับอัตราผลตอบแทนที่ดีภายใต้ระดับความน่าเชื่อถือในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป เสนอให้แก่ลูกค้า” “ทั้งนี้ บลจ. ฟินันซ่า จึงออกกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือนเป็นทางเลือกแก่ลูกค้า คือ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3 เดือน 3 (FAM FIPR3M3) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.85% ต่อปี โดยเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 30 ก.ค.56 - 6 ส.ค.56 โดยสินทรัพย์ในกองทุนบางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศและในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป” สำหรับการลงทุน 3 เดือน เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากกองก่อนหน้านี้ FAM FIPR3M3 เป็นกองทุน specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC(Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ธนาคาร CBQ (Qatar), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ ขึ้นไปตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ซึ่งหากนักลงทุนสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-352-4050 อัตราผลตอบแทนสามารถดูได้จากเอกสารแนบ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ