กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
VGI โชว์ผลงานไตรมาส 1 ปี 2556/57 (เม.ย.-มิ.ย.) โกยรายได้ 861 ล้านบาท เติบโตเพิ่ม 32% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 308 ล้านบาท เติบโต 92% เผยรับอานิสงค์รถไฟฟ้าเพิ่มตู้โดยสารและขยายเส้นทางเดินรถดันจำนวนผู้โดยสารบีทีเอสเติบโต ขณะที่โมเดิร์นเทรดลุยเปิดสาขาต่อเนื่อง ชี้ “สื่อรูปแบบใหม่” ฝ่ากระแส โตสวนทางภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ขยายตัวเพียงแค่ 1% จากปีที่แล้ว เหตุสื่อมีจุดแข็งเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพตอบโจทย์เจ้าของสินค้าได้มากกว่า ยอมรับครึ่งปีหลังกังวลความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลกและการเมืองในประเทศบ้าง แต่ยังคงยืนยันเป้าหมายเดิมเติบโต 30% ปีนี้
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) - VGI ผู้นำธุรกิจให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาที่สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตในยุคสมัยใหม่ (Lifestyle Media) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2556/57 (เม.ย. — มิ.ย.) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 208 ล้านบาท หรือ 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 654 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 308 ล้านบาทหรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.93 บาทต่อหุ้น พร้อมแจ้งว่า วันนี้ (30 ก.ค. 2556) คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เปลี่ยนแปลงราคาพาร์จากเดิม 1 บาท เหลือ 0.10 บาท (สิบสตางค์) ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนหุ้นเพิ่มจากเดิม 330 ล้านหุ้น เป็น 3,300 ล้านหุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นที่ซื้อขายในกระดาน โดยบริษัทจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในเดือนกันยายนเพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติในเรื่องนี้
ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าโฆษณาจากทุกธุรกิจ ทั้งสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส สื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด และสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน โดยเฉพาะรายได้จากสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสในไตรมาสนี้มีรายได้ถึง 415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็นอัตราเติบโตที่ 35% ทั้งนี้สื่อโฆษณาในบีทีเอสเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทฯ โดยการเติบโตของรายได้จากสื่อในบีทีเอสในไตรมาสนี้เติบโตจากการเพิ่มตู้โดยสารของรถไฟฟ้าบีทีเอส 35 ตู้ในรถไฟฟ้า 35 ขบวนที่เคยมี 3 ตู้ต่อขบวนเพิ่มเป็น 4 ตู้ต่อขบวน อีกทั้งยังมีรายได้เพิ่มจากการติดตั้งสื่อโฆษณาเพิ่มเติมในสถานีที่เดิมเคยมีผู้โดยสารน้อย (non-prime station) แต่ในปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น ส่วนรายได้จากสื่อในโมเดิร์นเทรด สื่อในอาคารสำนักงานและสื่ออื่นๆ เติบโตขึ้นจากการขายพื้นที่โฆษณาภายใต้การบริหารจัดการได้เพิ่มมากขึ้น
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2556/57 (เม.ย. ถึง มิ.ย.) การใช้เม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมในภาพรวมอาจจะไม่คึกคักเท่าใดนัก ตามรายงานของนีลเส็นที่ระบุว่า เม็ดเงินโฆษณาในเดือนพฤษภาคมลดลง 2% ก่อนจะเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ยอดรวมของเม็ดเงินโฆษณาในช่วง 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 55,601 ล้านบาท ขยายตัวเพียง 1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่สื่อโฆษณาภายใต้การบริหารจัดการของ VGI ไม่ได้เติบโตตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมโฆษณาในภาพรวม สาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่สื่อไลฟ์สไตล์มีเดียทั้งในบีทีเอส และโมเดิร์น เทรดมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ตั้งอยู่ในที่ๆ พบเห็นได้ง่ายในการใช้ชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่ที่ใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังใช้รูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่และน่าสนใจจึงทำให้สื่อมีพลังดึงดูดความสนใจของผู้ชมมากกว่าสื่อประเภทอื่นๆ จนทำให้ลูกค้าหันมาใช้สื่อประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น
“ความนิยมของสื่อไลฟ์สไตล์ มีเดีย เช่น สื่อในระบบขนส่งมวลชน และ In-store Media ยังมีการเติบโต จากการตอบรับของลูกค้าที่ได้ลองใช้บริการแล้วเห็นผลอย่างชัดเจนในด้านการสร้างแบรนด์และสร้างยอดขาย เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ซึ่งนอกจากความนิยมของลูกค้าที่เอื้อต่อการเติบโตของ VGI แล้ว การเพิ่มพื้นที่ให้บริการของเจ้าของพื้นที่ทั้ง บีทีเอส และโมเดิร์นเทรด ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างการเติบโตของ VGI เช่นกัน เช่น การทยอยเพิ่มตู้โดยสารของขบวนรถไฟฟ้าและการขยายเส้นทางเดินรถของบีทีเอส หรือ การขยายตัวของโมเดิร์นเทรดที่เดินหน้าขยายการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ที่สำคัญคือ VGI ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะมองหาพื้นที่ให้บริการสื่อโฆษณาเพิ่มเติมรวมถึงสื่อใหม่ๆ โดยล่าสุด VGI ได้ลงนามสัญญาบริหารสื่อในอาคารเพิ่มอีก 11 อาคาร ทำให้บริษัทมีอาคารภายใต้การบริหารจัดการ ณ ปัจจุบันรวมเป็น 62 อาคาร อีกทั้งสื่อบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสยังมีการปรับเปลี่ยนสื่อภาพนิ่งให้เป็นสื่อดิจิตอลเพื่อให้มีพื้นที่สื่อโฆษณาเพียงพอรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของ VGI ทั้งสิ้น” นายมารุตกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ยังคงยืนยันเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 30% อย่างไรก็ดีธุรกิจสื่อโฆษณาเป็นธุรกิจที่มักจะเติบโตสอดคล้องไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้ลงเหลือร้อยละ 4.2 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.1 อาจมีผลกระทบต่อการเติบโตของงบประมาณโฆษณาของอุตสาหกรรมโดยรวมได้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันยอมรับว่าเห็นสัญญาณการชะลอตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทฯ ระมัดระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในเรื่องนี้และติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อเตรียมตัวให้แผนงานของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบดังกล่าวน้อยที่สุด
ปัจจุบัน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการเครือข่ายสื่อโฆษณานอกบ้านรายใหญ่ของประเทศไทย มีเครือข่ายป้ายโฆษณาภาพนิ่งขนาดใหญ่ในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ทั่วประเทศรวมกันกว่า 10,000 ป้าย มีพื้นที่โฆษณาในโซนชั้นวางสรรพสินค้าในเครือข่ายห้างค้าปลีกขนาดใหญ่กว่า 11,000 ตารางเมตร มีเครือข่ายสื่อดิจิตอลบนชานชาลาและในรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งจอดิจิตอลในสาขาของเทสโก้ บิ๊กซี วัตสัน และในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ทั่วกรุงเทพ รวมประมาณ 4,600 จอภาพ มีพื้นที่ร้านค้าบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งหมด 23 สถานี และยังมีเครือข่ายวิทยุในสาขาของโมเดิร์นเทรดรวมกันเกือบ 1,700 แห่งทั่วประเทศ