กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,333 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,308 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.32 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,700 บาท กับ 19,800 บาท และกลับมาปิดที่ 19,700 บาท กับ 19,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,333 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,418 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2% GFQ13 ปิด 19,870 บาท และ GFV13 ปิด 19,940 บาท GF10Q13 ปิด 19,880 บาท GF10V13 ปิด 19,970 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 11.60 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,312.40 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 5.2 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 19.62 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 927.35 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 105.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 21.05 จุด ปิดที่ 15,499.54 จุด ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำเมื่อคืนปรับตัวลดลงก่อนการประกาศผลการประชุม FOMC จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นสวนทางคาดการณ์ ทั้งการจ้างงานภาคเอกชนออกมาเพิ่มขึ้น และจีดีพีไตรมาสสองสหรัฐออกมาขยายตัว 1.7%
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 30 เหรียญจากการแถลงผล FOMC ที่ระบุว่ายังคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปตราบนานเท่าที่เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง โดยเฟดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเท่าเดิม
World Gold Council ระบุว่า การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐเป็นปัจจัยเดียวที่จะส่งผลต่อตลาดทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทองคำมีบทบาทมากขึ้นในตลาดเกิดใหม่
รัฐบาลอินเดียเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าทองคำอยู่ที่ 430 เหรียญต่อทองคำ 10 กรัม จากระดับ 416 เหรียญ และซิลเวอร์อยู่ที่ 639 เหรียญต่อซิลเวอร์ 1 กิโลกรัม จากระดับ 638 เหรียญ จากราคาทองคำโลกที่ปรับสูงขึ้น
รัฐมนตรีคลังอินเดียคาดหวังให้ปริมาณการนำเข้าทองคำของอินเดียในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว ต่ำกว่าระดับ 845 ตันของปีที่ผ่านมา
ธนาคาร ANZ เปิดนิรภัยทองคำแห่งที่สองในเอเชียที่สิงคโปร์จากปริมาณความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถเก็บทองได้จำนวน 50 ตัน จากเดิมที่มีอยู่ที่ฮ่องกง เพิร์ซ และซูริค
รัฐบาลจีนกล่าวเมื่อวานนี้ว่า จะรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจให้คงที่ แม้ว่าจะมีสภาพเศรษฐกิจที่ซับซ้อนอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากนี้ธนาคารกลางจีนยังได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
เช้านี้มีการรายการตัวเลขภาคการผลิตของจีนออกมาขยายตัวดีขึ้นที่ระดับ 50.3 จากเดิม 50.1 และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 49.8 ซึ่งช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดว่าเศรษบฐจีนจะชะลอตัว
ในวันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ โดยอาจจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่มากนัก เนื่องจากหลังการแถลง FOMC นักลงทุนก็หันความสนใจไปที่การประกาศตัวเลข Non-farm payrolls และ Unemployment Rate สหรัฐในวันศุกร์แทน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และประกาศเดินหน้า QE ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดสูงขึ้น ขานรับข่าวเฟดเดินหน้า QE โดยนักลงทุนรอผลประกอบการในช่วงระยะเวลา 2 วัน โดยในวันนี้จะมีการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 จากโซนี่, ชาร์ป, และซูซูกิ มอเตอร์
ทางด้านตลาดฮั่งเส็งเปิดบวกเช่นกัน หลังจากตัวเลขภาคการผลิตของจีนเช้านี้ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาด
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้
-ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 188K ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 200K
-Advance GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.8% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 1.7%
-Advance GDP Price Index q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 0.7%
-Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.6 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.3
-Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -2.8M ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.4M
ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
-Unemployment Claims ตัวเลขเดิมออกมาอยู่ที่ระดับ 343 K ตัวเลขคาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 346K
-ISM Manufacturing PM ตัวเลขเดิมออกมาอยู่ที่ระดับ 50.9 ตัวเลขคาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.1
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงตลาด COMEX หลังจากที่ทรงตัวบริเวณ 1,330 เหรียญในตลาดเอเชีย ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานที่สำคัญออกมาดีคือ ADP Non-farm payrolls มาอยู่ที่ 200,000 ตำแหน่ง และ Advance GDP ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดอย่างมากมาอยู่ที่ระดับขยายตัว 1.7% สองตัวนี้กดดันทำให้มีแรงเทขายในตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง จนราคาลงไปบริเวณ 1,307 เหรียญโดยประมาณ การที่ราคาทองคำดีดกลับ มาจากการรายงานผลการประชุม FOMC ในช่วงกลางดึกประมาณตีหนึ่ง เมื่อเฟดยืนยันที่จะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคือ QE ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,330 เหรียญอีกครั้ง อันจะเห็นถึงการแกว่งตัวของราคาทองคำอย่างมาก เมื่อวานนี้SPDR ยังคงทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 927.35 ตัน ฉะนั้นโดยภาพรวมของราคาทองคำคงขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจว่าจะเป็นอย่างไร โดยที่เช้านี้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 31.27 บาท/ดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวแบบทิศทาง Sideways ในกรอบเช่นเดิม 1,310 — 1,340 เหรียญ โดยที่คงต้องติดตามผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ อันได้แก่ Unemployment Claims คาดว่าจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้น 3,000 ตำแหน่งมาอยู่ที่ระดับ 346,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ตัวเลขISM Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาดีขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ยังเป็นการลงทุนอยู่ในกรอบ ลงซื้อขึ้นขายเช่นเดิม
นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ขายปิดทำกำไรบริเวณ 1,330 เหรียญบวกลบ
นักลงทุนที่ถือ Short Position
รอจังหวะซื้อปิดทำกำไรบริเวณ 1,310 เหรียญบวกลบ
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,000 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,070 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง