กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
LH BANK เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2556 เติบโตสูงอย่างต่อเนื่องกำไรสุทธิ 503 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 52.8%สินทรัพย์รวม 135,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 46.7%ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับดีเพียง 1.6%พร้อมวางกลยุทธ์ในการเพิ่มบริการด้านต่างๆ และขยายเครือข่ายสาขา
นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แถลงถึงผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2556 ของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์ เชียล กรุ๊ป ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 503 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 52.8% เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ และพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้ค่าธรรมเนียม รวมถึงการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุนและรายได้จากเงินปันผลอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์เมื่อปี 2554 ขณะที่คุณภาพของสินเชื่อจัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) เพียง 1.6% ของสินเชื่อรวม ขณะเดียวกันธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ ธปท. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 132.4% ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านเงินสำรองของธนาคาร และเพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านสินทรัพย์เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ณ สิ้นไตรมาส 2/2556 มีสินทรัพย์รวม 135,000 ล้านบาท มีเงินให้สินเชื่อ 98,689 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 11.17% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 47.73% เป็นผลจากการผลักดันกลยุทธ์ของธนาคารในการมุ่งเน้นสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ และสินเชื่อเคหะที่มีหลักประกันที่ดีสะท้อนถึงคุณภาพสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งมีสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับที่ดีเพียง 1.6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 2.4%
อย่างไรก็ดี แม้สินเชื่อโดยรวมของธนาคารจะเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมาในอัตราที่สูงถึง 46.8% แต่ธนาคารยังคงคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ธนาคารตระหนักถึงการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ให้พอเหมาะกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านเงินฝากและเงินกู้ยืมอยู่ที่ 97,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 47.29% เป็นผลมาจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตรงต่อความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันสาขาของธนาคารมีทั้งสิ้น 76 สาขา เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 10 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 54 สาขา และสาขาในภูมิภาคอีก 22 สาขา
ด้านเงินกองทุนตามกฎหมายภายใต้หลักเกณฑ์ Basel III ณ สิ้นไตรมาส 2/2556 อยู่ที่ 15.0% ของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นส่วนของเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ 14.4% แสดงถึงฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ตลอดจนรองรับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง
นางศศิธร กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลังว่า ธนาคารยังคงมุ่งพัฒนาธุรกิจตามแผนการขยายตัวของสินเชื่อโดยเน้นคุณภาพและดำเนินการด้วยความระมัดระวัง รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ การวางกลยุทธ์ในการขยายช่องทางการบริการทั้งด้านเครือข่ายสาขาและบริการอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งการเพิ่มรายได้และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Bancassurance ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก บริการต่างๆ ที่ธนาคารได้พัฒนาและเปิดให้บริการแล้ว เช่น ATM, Internet Banking, Banking Mobile Service และธนาคารได้ขยายสาขาในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Micro Branch ซึ่งธนาคารได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) โดยจะขยายสาขาที่เป็น Micro Branch ในทุกจังหวัดที่ HomePro ตั้งอยู่ เพื่อให้ธนาคารมีจุดให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในสิ้นปี 2556 นี้ สาขาของธนาคารจะขยายถึง 106 สาขา ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีสาขามากที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก
ธนาคารยังได้พัฒนาช่องทางการให้บริการทางอิเล็คทรอนิกส์เพิ่มขึ้น คือ บริการ Internet Banking หรือ LH Bank Speedy ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น บริการ LH Bank Privilege ซึ่งเป็นบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองและเติมเต็มในทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม โดยเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากประจำตั้งแต่ 6 เดือน วงเงินฝากขั้นต่ำ 5 ล้านบาท ด้วยบริการเลขาส่วนตัวมืออาชีพที่ให้คำปรึกษา ช่วยดูแลและบริหารเงินในพอร์ตให้มีประสิทธิภาพและได้รับผลตอบแทนสูงผ่านช่องทาง LH Bank Financial Secretary พร้อมเอกสิทธิ์พิเศษต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ธนาคารยังเป็นตัวแทนขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่าง ๆ รวมทั้งของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของธนาคาร
ธนาคารมีแผนที่จะเพิ่มบริการอื่น ๆ ในปี 2556 เช่น บริการ Debit Card บริการ LH Bank Speedy on Mobile และนอกจากบริการที่กล่าวมาแล้ว ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่น่าสนใจ ได้แก่เงินฝากไม่ประจำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของธนาคาร ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.7% ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคล่องตัวสูง เพราะสามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมถึงผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำที่ตรงใจผู้ที่ต้องการออมเงินและให้ผลตอบแทนสูง ได้แก่เงินฝากประจำ 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% และเงินฝากประจำ 8 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.25%
นางศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการดำเนินการด้านต่าง ๆ แล้ว ธนาคารให้ความสำคัญกับบุคลากร ของธนาคารเป็นอย่างมาก โดยธนาคารได้พัฒนาและส่งเสริมให้บุคลากรของธนาคารได้เพิ่มองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้บริการอย่างมืออาชีพและผลักดันแผนกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน