กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เกษตรฯ ยันโซนนิ่งไม่ร้าง ตั้งเป้าปรับอ้อยนำร่องในพื้นที่ไม่เหมาะปลูกข้าวเป้าหมาย 4.1 ล้านไร่ สั่งพื้นที่เร่งสำรวจความต้องการเกษตรกรด้านมาตรการช่วยเหลือเพื่อปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกให้ตรงกับสภาพพื้นที่
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสประชุมทางไกลร่วมกับหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายโซนนิ่งว่า ขณะนี้การดำเนินการเรื่องโซนนิ่งถือได้ว่าเริ่มมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้วโดยเฉพาะการสำรวจพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวที่มีอยู่ประมาณ 27.4 ล้านไร่ เพื่อนำมาพิจารณาชนิดพืชที่มีความต้องการของตลาดแน่นอน โดยพืชชนิดแรกที่กระทรวงเกษตรฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ามีทิศทางที่เป็นไปได้และมีความต้องการของตลาดเป็นตัวนำ คือ อ้อย ที่มีข้อมูลว่าโรงงานน้ำตาลทั้งประเทศมีความต้องการถึง 200 ล้านตัน ขณะที่มีผลผลิตป้อนเข้าสู่โรงงานเพียง 100 ล้านตัน จึงยังมีความต้องการพื้นที่ปลูกอ้อยถึง 10 ล้านไร่ ซึ่งเบื้องต้นจากการคัดแยกพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าว และพิจารณาถึงพื้นที่โรงงานน้ำตาลที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตร พบว่ามีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกอ้อยประมาณ 4.1 ล้านไร่
ดังนั้น สิ่งที่จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดจะต้องดำเนินการคือ การสำรวจข้อมูลความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่จริง โดยให้เกษตรกรทำแบบสอบถามที่จะมีรายละเอียดความต้องการที่จะให้รัฐเข้าไปสนับสนุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงพืชที่ต้องการจะปรับเปลี่ยนหากเกษตรกรต้องการเข้าร่วมโครงการ รวมถึงกรณีที่ไม่ต้องการเข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อให้รัฐได้ข้อมูลที่แน่ชัดก่อนกำหนดเป็นมาตรการจูงใจโดยใช้ข้อมูลความต้องการจริงในพื้นที่มาเป็นข้อมูลพื้นฐานต่อไป ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดจะรายงานผลการสำรวจมายังกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีซึ่งจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 5 สิงหาคมนี้
สำหรับการประชุมทางไกลเพื่อขับเคลื่อนนโยบายโซนนิ่งของทุกจังหวัดในครั้งนี้ถือเป็นการเร่งรัดและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำที่จะเห็นผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและการเกษตรของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งหลายๆ จังหวัดได้เริ่มขับเคลื่อนแผนโซนนิ่งโดยพิจารณาพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูกของตนเองแล้ว เช่น การปรับพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมมาปลูกอ้อยในจังหวัดกำแพงเพชร บุรีรัมย์ หรือการเพิ่มพื้นที่ปลูกมันทดแทนพื้นที่ปลูกข้าวในจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น