กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--เอซุสเทค คอมพิวเตอร์
“เอซุส” มุ่งสานต่อนวัตกรรมเดสก์ท็อปพีซีสู่ผู้บริโภคยุคใหม่เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ออลอินวันพีซีและเดสก์ท็อปพีซีใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ความต้องการในทุกฟังก์ชั่นกับคอนเซ็ปต์ “Innovation of Lifestyle Living”
ครอบคลุมทุกโจทย์ความต้องการ ทั้งด้านไฮเปอร์เกมมิ่ง มัลติมีเดีย และเมนสตรีมทั่วไป พร้อมโชว์สุดยอดสินค้าไฮไลท์แห่งปี ASUS Transformer AiO P1801 ออลอินวันพีซีเครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดจอออกเป็นแท็บเบล็ตบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้
กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม (โอพี บีจี) บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “เอซุส” ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนามาเธอร์บอร์ดชั้นนำที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ประกาศเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือเดสก์ท็อปพีซี และออลอินวันพีซี (AiO) ใหม่ล่าสุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของทัพสินค้าในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 โดยในงาน “Innovation of Lifestyle Living” นี้เอซุสได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซี ใหม่รวมถึง 10 รุ่นด้วยกัน ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปพีซี 4 รุ่นที่มี ROG TYTAN G50AB และ ASUS M51AC เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ นอกจากนี้ยังมีออลอินวันพีซีถึง 6 รุ่นที่พร้อมลงสู้ตลาดไตรมาสนี้ นำทีมโดยสุดยอดนวัตกรรมดูอัลดีไวซ์ (Dual Device) อย่าง ASUS Transformer AiO P1801 ออลอินวันพีซีระบบ Windows 8 เครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดออกเป็นแท็บเบล็ตยักษ์ขนาด 18.4 นิ้วบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Jelly Bean 4.1 ได้ ตามมาด้วย ASUS ET2311 และ ASUS ET2702 และรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย โดยเอซุสได้สานต่อเจตนารมย์ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับผู้บริโภค ย้ำเดสก์ท็อปพีซียังคงเป็นอุปกรณ์ที่ให้สมรรถนะในการใช้งานและอรรถรสสูงสุดในการเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง คอนเท้นต์มัลติมีเดียต่างๆ ไปจนถึงการใช้งานในออฟฟิศและภายในครัวเรือนทั่วไป ซึ่งทางเอซุสได้วางกลยุทธ์ด้านการตลาดสำหรับครึ่งปีหลัง 2556 นี้ไว้ตามหลักการ “4P” ประกอบด้วย 1) Product หรือผลิตภัณฑ์ โดยเน้นความโดดเด่นเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของตัวสินค้าที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้งานได้อย่างดี 2) Price Premium หรือการมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยนำเสนอสเป็คเครื่องที่สูงกว่า บริการหลังการขายที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ 3) Partner มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและจำนวนของคู่ค้าให้มากขึ้น และ 4) Promotion ซึ่งเป็นการจับมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อจัดดปรโมชั่นพิเศษในโอกาสต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ทั้งนี้ เอซุสได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีให้ได้ถึง 3% ภายในสิ้นปี 2556
คุณปกรณ์ พฤทธิบูรณ์สกุล ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจอาวุโส กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในส่วนของภาพรวมสินค้ากลุ่มเดสก์ท็อปและออลอินวันพีซี เอซุสได้เปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีสำหรับคอนซูมเมอร์ เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเมื่อช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และก่อนหน้านั้น ในช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมา เราได้ปูทางตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปคอมเมอร์เชียลสำหรับองค์กร โดยได้เข้าร่วมประมูลและผลิตเดสก์ท็อปพีซีให้กับโครงการต่างๆ มากมายในส่วนของหน่วยงานราชการ โดยเราร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดหาอุปกรณ์พีซีตั้งโต๊ะให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การดูแลของสพฐ. โดยปัจจัยหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้กับเอซุสอย่างหนึ่ง คือหน่วยงานต่างๆ ได้หันมาเปลี่ยนกฎข้อบังคับใหม่ซึ่งกำหนดให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่จะนำมาใช้งานเป็นทรัพย์สินของทางราชการนั้น ต้องมีส่วนประกอบภายในที่มาจากแบรนด์เดียวกันทั้งหมด ทำให้เอซุสได้มีโอกาสเข้ามาผลิตเดสก์ท็อปพีซีในส่วนของตลาดคอมเมอร์เชียลนี้มากขึ้น และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์เอซุสในเบื้องต้นอยู่ที่ 1% และหลังจากที่เราได้เปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปสำหรับคอนซูมเมอร์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ควบคู่ไปกับการรุกตลาดออลอินวันพีซีหรือ AiO อย่างเป็นรูปธรรมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 นี้ เราก็ได้รับการตอบรับจากตลาดที่ดีเรื่อยมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของสินค้าคอมโพแน้นต์ต่างๆ จากเอซุสอยู่แล้ว อาทิ มาเธอร์บอร์ด กราฟฟิกส์การ์ด จอภาพ ไปจนถึงเคสที่มีความคงทนเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มเกมเมอร์ กลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะทาง กลุ่มลูกค้าร้านอินเตอร์เน็ต หรือร้านเกมต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเอซุสก็ยังตั้งเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งธุรกิจพีซีคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 3 % ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสัดส่วนของธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีของเอซุสระหว่างตลาดคอมเมอร์เชียลจะอยู่ที่ 80% ต่อตลาดคอนซูมเมอร์ที่ 20%”
“สำหรับงาน ‘ASUS Innovation of Lifestyle Living’ วันนี้เอซุสได้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีใหม่ล่าสุดในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 นี้ โดยเราได้ขนทัพสินค้าใหม่รวมถึง 11 รุ่นด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยเดสก์ท็อปพีซี 4 รุ่นที่มี ROG TYTAN G50AB และ ASUS M51AC เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ตามมาด้วย ASUS M51AC และ ASUS CM6731 ในส่วนของออลอินวันพีซี เราเปิดตัวกันในวันนี้ถึง 6 รุ่น นำทีมโดยสุดยอดนวัตกรรมดูอัลดีไวซ์ (Dual Device) หรือสองอุปกรณ์ในหนึ่งเดียวอย่าง ASUS Transformer AiO P1801 ออลอินวันพีซีระบบ Windows 8 เครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดออกเป็นแท็บเบล็ตยักษ์ขนาด 18.4 นิ้วบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Jelly Bean 4.1 ได้ ตามมาด้วย ASUS ET2311และ ASUS ET2702 ที่เปิดตัวไปอย่างฮือฮาในงาน Taipei Computex 2013 ที่ผ่านมา รวมถึง ASUS ET1612, ET2020 และรุ่น ET2220 โดยนอกจากไลน์อัพสินค้าเดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีใหม่แล้ว ทางเอซุสยังได้นำสุดยอดแห่งนวัตกรรมเกมมิ่งเดสก์ท็อปเพื่อการเล่นเกมที่เหนือชั้น กับ ROG TYTAN CG8890 ที่ถึงแม้จะเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังสามารถครองตำแหน่งเกมมิ่งพีซีที่มีประสิทธิภาพความแรงสูงที่สุดในตลาดจนถึงปัจจุบันมาโชว์ ณ จุดสาธิตผลิตภัณฑ์ในงานนี้ด้วย โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหลายในวันนี้ เอซุสได้สานต่อเจตนารมย์ของแบรนด์ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้าน ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับผู้บริโภค พร้อมตอกย้ำความสำคัญของเดสก์ท็อปพีซีในฐานะเป็นอุปกรณ์ที่ให้สมรรถนะการใช้งานและอรรถรสสูงสุดในการเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง ใช้งานคอนเท้นต์มัลติมีเดียต่างๆ ไปจนถึงการใช้งานในออฟฟิศและภายในครัวเรือนทั่วไป” คุณปกรณ์กล่าวถึงไลน์อัพสินค้าใหม่
“ในส่วนของกลยุทธ์ด้านการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราได้ดำเนินนโยบายภายใต้หลัก “4P” ซึ่งประกอบด้วย P ที่หนึ่งคือ 1) Product หรือผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเอซุสเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและฟีเจอร์ที่ดีที่สุดและแรงที่สุดที่มีอยู่ในตลาด ณ เวลาที่เปิดตัวสินค้านั้นๆ เราจึงมีความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือในตัวผลิตภัณฑ์และแบรนด์จากผู้บริโภค แต่สำหรับไลน์อัพสินค้าเดสก์ท็อปพีซีใหม่ของเราในปีนี้ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องของการตีความด้านไลฟ์สไตล์ที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ครอบคลุมทุกความต้องการได้มากขึ้น และเข้าใจถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างแท้จริงยิ่งขึ้น ทุกท่านจึงจะเห็นได้ว่าในวันนี้สินค้าเดสก์ท็อปและออลอินวันพีซีใหม่ล่าสุดของเอซุสล้วนแล้วแต่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้งาน สำหรับ P ที่สองก็คือ 2) Price Premium หรือ การสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเพื่อความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนนี้เอซุสก็ยังคงยืนหยัดอยู่ที่จุดยืนเดิมว่าแบรนด์ของเราจะไม่มีการแข่งขันด้านราคา แต่ในระดับราคาเดียวกันหรือสูงกว่าแบรนด์อื่นเล็กน้อย เราสามารถนำเสนอมูลค่าเพิ่มอันน่าพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ อาทิ สเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สูงกว่า การให้บริการหลังการขายและเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ซ่อมที่ดีกว่า ฯลฯ รวมถึงการตอกย้ำจุดเด่นในการทำธุรกิจของเอซุสที่เรามุ่งเน้นเรื่อยมาตั้งแต่ที่ได้เปิดตัวเดสก์ท็อปพีซีเข้าสู่ตลาดประเทศไทยตั้งแต่แรก นั่นคือเรื่องของ TCO หรือ Total Cost of Ownership พูดง่ายๆ ก็คือในเวลาที่เราซื้อสินค้าอะไรก็ตามมาอย่างหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของสิ่งนั้นไม่ใช่แค่ราคาสินค้าที่ตั้งอยู่หน้าร้าน แต่ยังรวมถึงการบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซ่อมแซมเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเอซุสมุ่งเน้นการสร้าง TCO ที่คุ้มค่าและให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าในการเป็นเจ้าของสินค้าของเรา และสำหรับหมวดสินค้าเดสก์ท็อปและออลอินวันพีซีนี้ เราได้มอบการรับประกันที่ดีที่สุดในท้องตลาดแบบออนไซต์เซอร์วิส หรือรับซ่อมส่วนประกอบทุกชิ้นถึงบ้านนานถึง 3 ปี โดยเป็นเงื่อนไขการรับประกันที่ดีที่สุดและเป็นการซ่อมให้ในทุกกรณีหากเป็นส่วนประกอบแรกเริ่มที่มาพร้อมกับเครื่องพีซีที่ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายของเอซุส โดยผู้บริโภคสามารถรับบริการซ่อมแบบออนไซต์เซอร์วิสนี้ได้อย่างสะดวกสบายผ่านเอซุส คอลเซ็นเตอร์ ที่หมายเลข 02-4011-717 ทั้งนี้ผู้ใช้สินค้าเอซุสจะสามารถเปรียบเทียบได้กับสินค้าแบรนด์อื่นๆ เลยว่าให้ความคุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งกว่าครับ” คุณปกรณ์กล่าวต่อไป
“และสำหรับกลยุทธ์ P ที่ 3 ของเอซุส ถือเป็นส่วนที่สำคัญและจะขาดเสียไม่ได้เลยก็คือ 3) Partner ของเรานั่นเอง โดยเรามีนโยบายที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายรวมถึงจำนวนของคู่ค้าซึ่งทั้งที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเราอยู่แล้ว รวมถึงรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยหลักๆ ในตอนนี้เอซุสมีพาร์ทเนอร์อยู่ประมาณ 4-5 บริษัทฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสำหรับหมวดสินค้าอื่นๆ ของเอซุสด้วยไม่เพียงแต่ในกลุ่มเดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีเท่านั้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้เราจะเริ่มปูทางสร้างพาร์ทเนอร์ใหม่เพิ่มจากที่มีอยู่ 4-5 ราย เป็น 15-20 รายเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ โดยไม่จำกัดอยู่แค่หัวเมืองตามต่างจังหวัด และทางเอซุสก็จะมีการสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยงบการตลาดสำหรับกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีที่ไม่น้อยกว่าปี 2555 ที่ผ่านที่มีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสื่อสารและเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มตัว ผ่านช่องทางในรูปแบบต่างๆ ทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ รวมไปถึงการทำการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) หรือการร่วมจัดงานอีเว้นต์ต่างๆ นอกจากนี้เรายังเน้นการสร้างกระแสการรับรู้จากผู้บริโภคทั่วไปจากการทำประชาสัมพันธ์ตรงจุดขายหน้าร้านเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค โดยเปิดโอกาสให้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีของเอซุสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริงครับ และในส่วนของกลยุทธ์ P สุดท้ายของเราก็คือ 4) Promotion ซึ่งทางเอซุสจะมีการจับมือกับคู่ค้าและพันธมิตรต่างๆ ในการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อมอบส่วนลดและสิทิประโยชน์ต่างๆ แก่ลูกค้าของเราตามโอกาสต่างๆ โดยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ เอซุสมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคของเราได้ รวมถึงช่วยผลักดันให้เกิดยอดขายและความสำเร็จด้านเป้าหมายทางการตลาดของเราต่อไป”
สำหรับการเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ เอซุสได้นำเสนอนวัตกรรมออลอินวันพีซีและเดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพสูงที่เป็นรุ่นไฮเอ็นด์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย นำทีมโดย “ASUS Transformer AiO P1801” ออลอินวันพีซีเครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดจอขนาด 18.4 นิ้ว ออกมาใช้งานเป็นแท็บเบล็ตได้อย่างอิสระในสไตล์ “ดูอัล ดีไวซ์” (Dual Device) ที่รวบรวมฟังก์ชั่นการทำงานของ 2 อุปกรณ์ไว้ในหนึ่งเดียว โดยออลอินวันพีซี ASUS Transformer AiO P1801 มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ใหม่ล่าสุด พร้อมโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นที่สามจาก Intel? Core? ที่แรงเต็มประสิทธิภาพ และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.1 (Jelly Bean) ในส่วนของแท็บเบล็ต พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Quad-core เทคโนโลยีจาก NVIDIA? Tegra? 3 ซึ่งถอดออกมาใช้งานจากพีซีสเตชั่นได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งหรือเซ็ทระบบเพิ่มเติมใดๆ สร้างความสะดวกสบายในการแชร์หน้าจอขนาดใหญ่ตามความต้องการต่างๆ นอกเหนือจากไฮไลท์ดังกล่าวแล้ว เอซุสยังเปิดตัวเกมมิ่งพีซีรุ่น ซึ่งเป็นเกมมิ่งพีซีรุ่นไฮเอ็นด์สำหรับเกมเมอร์นิวเจนเนอร์เรชั่นที่ต้องการความมันส์ในการเล่นเกมในอีกขั้น โดย ROG TYTAN G50AB มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel? Core? i7 Processor เจนเนอเรชั่นที่ 4 ใหม่ล่าสุด พร้อมใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดดเด่นด้านด้วยปุ่ม Turbo Gear เพียงปุ่มเดียวที่ทำให้การโอเวอร์คล็อกง่ายขึ้น และสามารถประมวลภาพได้อย่างคมชัดมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยกราฟฟิกส์การ์ด NVIDIA? GeForce? GTX 680 และอ็อพชั่น NVIDIA? 3D Vision Surround เพื่อให้การเล่นเกมสามมิติได้อย่างสุดมันส์ สามารถต่อพ่วงเข้ากับจอมอนิเตอร์ได้พร้อมกันแบบหลายจอเพื่อเพิ่มความมันส์และมุมมองที่กว้างกว่า นอกจากนี้ยังใช้ระบบเสียงกระหึ่มทรงพลังจาก ASUS SonicMaster ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเอซุส และระบบทำความเย็นเหนือชั้นที่ผสานการระบายความร้อนด้วยของเหลวด้วยเทคโนโลยี Liquid Cooled CPU พร้อมช่องระบายอากาศ 5 ช่องทาง ภายใต้รูปทรงสวยงามแบบโพลีกอนอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมมิ่งเดสก์ท็อปจากตระกูล ROG มาพร้อมไฟบอกสภานะ DEFCON Indicator สีฟ้าในโหมดการใช้งานทั่วไป และสีแดงในโหมดการโอเวอร์คล็อกที่สูงสุดถึง 4.5 GHz
“ทางบริษัทฯ หวังว่าในปี 2556 นี้ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวัน เรามีเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งในส่วนของพีซีคอมเมอร์เชียลและพีซีคอนซูมเมอร์อยู่ที่ประมาณ 3 % ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายรวมของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มบรรลุถึง 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นอีก 10% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในสิ้นปี 2556 นี้” คุณปกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
เตรียมพบกับไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีใหม่ล่าสุดจากเอซุสวันนี้ ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.co.th หรือพูดคุยผ่านทาง www.facebook.com/ASUS.DIY
เดสก์ท็อปพีซีจากเอซุส — โดดเด่นด้วยความพึงพอใจและความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภค
ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของเอซุสเป็นเครื่องสะท้อนถึงธรรมเนียมแห่งการสร้างสรรค์คุณภาพและนวัตกรรมที่ดีที่สุด รวมถึงให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน จากผลการสำรวจในปี 2012 ที่จัดทำโดยนิตยสาร PCWorld USA ในด้านความพึงพอใจ ความน่าเชื่อถือ และการบริการ ผู้ใช้พีซีต่างลงความเห็นให้ผลิตภัณฑ์ของเอซุสเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในหมวดเดสก์ท็อปพีซี โดยระบุความเห็นว่าเป็นแบรนด์ที่ให้ความพึงพอใจอย่างสูงในด้านความคุ้มค่า อายุการใช้งาน ความสะดวกง่ายดายในการใช้ และความน่าเชื่อถือของคุณภาพ โดยการสำรวจครั้งนี้ยังได้สรุปว่าเดสก์ท็อปพีซีจากเอซุสยังเป็นตัวเลือกที่ผู้ใช้งานมีแนวโน้มที่จะแนะนำให้คนรู้จักหรือผู้อื่นใช้ด้วย
ดูข้อมูลเกี่ยวกับการสำรวจได้ที่: www.pcworld.com/article/2020964
เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส ผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสามสุดยอดผู้นำจำหน่ายโน้ตบุ๊กระดับโลก ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำในยุคดิจิตอลใหม่ เอซุสออกแบบและผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของครัวเรือน สำนักงาน และบุคคลทั่วไปในยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัวด้วยสายผลิตภัณฑ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมาเธอร์บอร์ด กราฟิกการ์ด ออฟติคอลไดรฟ์จอภาพ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป อีบ๊อกซ์ ออลอินวันพีซี โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก แท็บเล็ต เซิร์ฟเวอร์ โซลูชั่นมัลติมีเดียและโซลูชั่นไร้สาย อุปกรณ์เครือข่ายและโทรศัพท์มือถือ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและคุณภาพ ทำให้เอซุสคว้ารางวัลถึง 3,886 รางวัลในปี 2011 และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ด้วย Eee PCTM เอซุสมีพนักงานทั่วโลกกว่า 11,000 คน พร้อมทีมวิจัยและพัฒนาระดับโลกอันประกอบด้วยวิศวกรจำนวน 3,800 คน และเอซุสมี ผลประกอบการในปี 2012 ถึงกว่า 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เกี่ยวกับ ASUS ROG
Republic of Gamers (ROG) โดยเอซุส ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2549 เพื่อตอบสนองความต้องการของคอเกมและผู้ใช้งานระดับฮาร์ดคอร์ที่มองหาความพิเศษที่เหนือไปกว่าสิ่งที่ฮาร์ดแวร์ทั่วไปทำได้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ROG ได้เติบโตเป็นแบรนด์อันเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพชั้นสูง รวมถึงการเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญทั้งในงานแข่งขันเกมส์ต่างๆ และงานอีเว้นต์เกี่ยวกับการโอเวอร์คล็อกในทั่วโลก รวมถึงงานใหญ่อย่าง QuakeCon, BlizzCon และ Dreamhack ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์ของ ROG ได้ทำลายสถิติการโอเวอร์คล็อกมากมายจนได้รับรางวัลและการประกาศเกียรติคุณต่างๆ รวมถึง 1,200 รายการ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ ROG ไม่ว่าจะเป็นมาเธอร์บอร์ด การ์ดจอ โน้ตบุ๊ค เดสก์ท็อป เมาส์และออดิโอโซลูชั่น ล้วนแต่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้หลักการความเป็น “ตัวเลือกของแชมเปี้ยน” (The Choice of Champions) ด้วยการดีไซน์ที่มุ่งเน้นให้เกมเมอร์และผู้ใช้งานเกิดความได้เปรียบเหนือคู่ต่อสู้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ROG ได้ที่เว็บไซต์ http://rog.asus.com