กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--PRDD
สภาวะตลาดวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,284.38—1,308.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 19,240 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 470 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,710 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.32 น.ของวันที่ 02/08/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 5 สิงหาคม 2556
ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลง เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นโดยได้แรงหนุนจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงานว่า ดัชนีการผลิตในเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้นมากกว่าคาดการณ์และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงภาคการผลิตของสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษก่อนธนาคารกลางอื่นๆ เมื่อพิจารณาจากการสนับสนุนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางยุโรป ส่งผลให้สกุลเงินยูโรและราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ทั้งนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เงินปอนด์ซึ่งมีทิศทางการเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเช่นกัน หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% และคงเป้าหมายการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ ปัจจัยดังกล่าวซึ่งได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำ และฉุดราคาทองคำดิ่งลงหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ระดับ1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวายแอลจีประเมินว่าหากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกราคาทองคำตลาดโลกยังมีแนวโน้มอ่อนตัวทดสอบแนวรับในโซน 1,278-1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนในประเทศ แนะนำติดตาตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นยังคงช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศไว้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,278 (18,980บาท) 1,270 (18,890บาท) 1,259 (18,690บาท)
แนวต้าน 1,305 (19,380บาท) 1,314 (19,510บาท) 1,321 (19,620บาท)
GOLD FUTURES (GFQ13)
แนวรับ 1,278 (19,120บาท) 1,270 (19,010บาท) 1,259 (18,840บาท)
แนวต้าน 1,305 (19,530บาท) 1,314 (19,660บาท) 1,321 (19,770บาท)
SILVER FUTURES (SVQ13)
แนวรับ 19.00 (603 บาท) 18.65 (592 บาท) 18.20 (578 บาท)
แนวต้าน 19.75 (627 บาท) 20.10 (638บาท) 20.40 (647 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com