กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--เอสซีจี
เอสซีจี ยกขบวนนวัตกรรมและเทคโนโลยีจัดแสดงยิ่งใหญ่ ในงาน “SCG 100th Anniversary Innovative Exposition โลกนวัตกรรม โลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน” นำเสนอความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการตลอด 100 ปี มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนมาตลอดหนึ่งศตวรรษ ตามแนวคิด “Drawing the Future” ในโอกาสครบรอบเอสซีจี 100 ปี จึงนำแนวคิดดังกล่าวมาถ่ายทอดผ่านงาน “SCG 100thAnniversary Innovative Exposition โลกนวัตกรรม โลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน” เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของเอสซีจี ที่ไม่หยุดคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า โดยคำนึงถึงการสร้างความสมดุลระหว่างผู้คนในสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่กันและอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในอนาคต สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเอสซีจีที่ในปี พ.ศ.2558 เอสซีจีจะเป็นผู้นำทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน มุ่งสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา เอสซีจีทุ่มเทด้านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง และส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added - HVA) รวมทั้งรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างเครือข่ายงานวิจัยและทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบัน เอสซีจีมีบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนา รวมทั้งผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านทั้งหมด 1,034 คน มีนักวิจัยระดับปริญญาเอก 71 คน จากการมุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาสินค้าและบริการ HVA อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายสินค้าและบริการ HVA ของเอสซีจีมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4 ของรายได้จากการขายรวมในปี 2547 เป็นร้อยละ 34 ของรายได้จากการขายรวมในปี 2555 ที่ผ่านมา โดยเอสซีจีตั้งเป้าหมายให้มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ HVA เป็นร้อยละ 50 ของรายได้จากการขายรวมทั้งหมดในปี 2558 และตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2561 เอสซีจีจะมีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาประมาณ 1,600 คน โดยมีนักวิจัยระดับปริญญาเอกกว่า 170 คน ใช้งบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 5,600 ล้านบาท
“เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ เอสซีจีจึงมุ่งเน้นพัฒนาด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สินค้าอุตสาหกรรมจะไม่ใช่แค่สินค้าพื้นฐาน (Commodity) ที่มีอยู่ทั่วไปอีกต่อไป แต่จะเป็นสินค้าที่มีคุณสมบัติสูงขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ของลูกค้า การวิจัยและพัฒนาจึงเป็นสิ่งที่เอสซีจีให้ความสำคัญ ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยทั้งในและต่างประเทศ” นายกานต์ กล่าว
SCG 100th Anniversary Innovative Exposition นำเสนอความเป็นมาตลอด 100 ปีของเอสซีจี ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทยเสมอมา รวมถึงผลงานนวัตกรรมที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงเทรนด์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ SCG HERITAGE เรื่องราวตลอดหนึ่งศตวรรษจากจุดเริ่มต้นสู่ความเป็นผู้นำนวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน SCG INNOVATIVE STORE นวัตกรรมการซื้อขายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งโลกอนาคต SCG INNOVATION FOR LIFE นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง THE CITY OF TOMORROW เทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม และ DRAWING THE FUTURE PAVILION ก้าวสู่โลกอนาคตที่น่าตื่นตาตื่นใจกับมัลติมีเดียผสมผสาน Live Performance ครั้งแรกในเมืองไทย
ตัวอย่างนวัตกรรมสินค้าและบริการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน อาทิ
นวัตกรรมบ้านแห่งอนาคตเพื่อความยั่งยืนจากเอสซีจี ซิเมนต์ - ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่ช่วยลดการใช้พลังงานในบ้าน ให้ความสบายด้วยระบบป้องกันและระบายความร้อนออกจากตัวอาคาร ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเป็นแหล่งจ่ายกระแสไฟให้กับบ้านในเวลาปกติ และมีระบบไฟฟ้าสำรองที่ผลิตจาก Fuel Cell ในกรณีที่กระแสไฟฟ้าหลักดับ ระบบประหยัดและบำบัดน้ำเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน เพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในวันนี้และอนาคต นวัตกรรมบ้านแห่งอนาคตยังตอบสนองทุกความต้องการเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างอิสระ ปลอดภัย และพึ่งพาตัวเองได้มากที่สุด
นวัตกรรมพลาสติกจากเอสซีจี เคมิคอลส์ คิดค้นขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ได้แก่ นวัตกรรมพลาสติกเพื่อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิต เช่น พลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์ ช่วยเก็บรักษาคุณภาพสินค้าให้คงความสดสะอาดได้ยาวนานและปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ขวด BIO PET ที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบที่มาจากพืช 30% นวัตกรรมพลาสติกสำหรับวงการแพทย์ ที่สะอาดและปลอดเชื้อ ช่วยลดและทดแทนการนำเข้าเม็ดพลาสติกจากต่างประเทศ นวัตกรรมพลาสติกในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อการประหยัดพลังงาน ด้วยคุณสมบัติพิเศษ คือ น้ำหนักเบา เมื่อนำมาผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ จึงทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น อีกทั้งทนต่อความร้อนสูง ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต แข็งแรง มีความปลอดภัยสูง และใช้งานได้ยาวนาน และนวัตกรรมเม็ดพลาสติก PE สำหรับท่อทนแรงดันสูงมาตรฐานสากล ซึ่งใช้ในระบบขนส่งน้ำ ก๊าซ และแร่ สามารถใช้งานได้ 100 ปี รีไซเคิลได้ 100% ทนต่อการสั่นไหวและการทรุดตัวของพื้นดิน จึงพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ และในอนาคต เอสซีจี เคมิคอลส์มีแนวคิดที่จะพัฒนานวัตกรรมเม็ดพลาสติก PE สำหรับท่อแรงดันสูงให้สามารถดักจับและยับยั้งเชื้อโรคในน้ำ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีน้ำที่สะอาดมากยิ่งขึ้น
นวัตกรรมเยื่อกระดาษและบรรจุภัณฑ์จากเอสซีจี เปเปอร์ ที่สามารถใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ทั้งเยื่อ Dissolving วัตถุดิบในอุตสาหรรมสิ่งทอ ทำให้ผู้บริโภคสวมเสื้อผ้าที่เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมกระดาษสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและสามารถย่อยสลายได้ภายใน 90 วัน นวัตกรรมกระดาษที่มีการซึมผ่านตัวกลางในกระบวนการฆ่าเชื้อได้ดีและสามารถป้องกันจุลินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่นำมาทำเฟอร์นิเจอร์ และแผ่นกรองปรับอากาศ นอกจากนี้
ยังนำเสนอให้เห็นถึงเทรนด์ระดับโลกเกี่ยวกับ “Forest Based : The Heart of Economy” ที่ต้นไม้จะเป็นทรัพยากรยั่งยืน (Sustainable Resource) เอสซีจี เปเปอร์ จึงมุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาสายพันธุ์ยูคาลิปตัสด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ
ร่วมสัมผัสสุดยอดนวัตกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ในงาน “SCG 100th Anniversary Innovative Exposition โลกนวัตกรรม โลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน” ได้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม - 1 กันยายน 2556 ณ SCG Experience (เลียบทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา) วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี เวลา 11.00 - 19.00 น. และวันศุกร์ - เสาร์ เวลา 11.00 -21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2586-2222 หรือ www.scgexpo.com