กรมสรรพากร ชวนคนรุ่นใหม่ “คิดดี ทำดี” ใส่ใจเรื่อง “ภาษี” จัด RD Society Club ครั้งที่ 3 “ภาษีสร้างสุข สนุกแบบพอเพียง”

ข่าวทั่วไป Monday August 5, 2013 10:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--โกลบอลอินเตอร์คอมมิวเนเคชั่น กรมสรรพากร เปิดโครงการ RD Society Club 2013 ชมรมคนรุ่นใหม่ใส่ใจภาษี ครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด “ภาษีสร้างสุข...สนุกแบบพอเพียง” ชวนเยาวชนและหนุ่มสาววัยทำงาน เข้าค่ายอบรมเพิ่มพูนทักษะความรู้ด้านภาษี หวังสร้าง RD TAX Ambassador เพื่อเป็นสื่อกลางส่งต่อความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องของภาษีสู่สังคมไทย ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า เพราะเยาวชนและคนรุ่นใหม่จะเติบโตขึ้นไปเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน กรมสรรพากร จึงได้จัดทำ โครงการ RD Society Club 2013 ชมรมคนรุ่นใหม่ใส่ใจภาษี ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 เพื่อคัดเลือกเยาวชนและคนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงาน มาเข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเรื่องภาษีอากรที่ถูกต้อง “ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของภาษีแล้ว ยังช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบภาษีอากร รวมทั้งยังใช้โอกาสนี้ในการสอดแทรกแนวคิดเรื่องของการดำเนินชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกฝังให้ทัศนคติและจิตสำนึกที่ดีในการทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกรมสรรพากร ในการนำความรู้ต่างๆ ที่ได้รับ ส่งต่อไปยังบุคคลรอบข้าง เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในเรื่องภาษีที่ถูกต้องแก่สังคมไทยต่อไป” อธิบดีกรมสรรพากรระบุ โดยโครงการดังกล่าวจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ในเรื่องของ “ภาษีอากร” พร้อมเปิดเวทีเสวนาเพื่อกระตุ้นพลังความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานและการใช้ชีวิต ในหัวข้อ “พลังคนรุ่นใหม่ คิดดี ทำดี” โดยผู้เชี่ยวชาญจากหลายวงการ อาทิ คริสโตเฟอร์ ไรท์, ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน, คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์(นิ้วกลม) และ คุณแอนดี้ เขมพิมุก นอกจากนี้ยังพาลงพื้นที่สัมผัสวิถีชุมชนในมิติแบบพอเพียง และร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ที่จะนำมาซึ่งความรู้จักในเรื่องของการให้ การแบ่งปัน และเกิดจิตสำนึกในการดำรงตนที่ดีบนพื้นฐานของหลักเศรษฐกิจพอเพียง นางสาวประภาพัชร ชุณหวรากรณ์ หรือ “บับเบิ้ล” อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นตัวแทน RD TAX Ambassador รุ่นที่ 2 ที่ได้กลับมาร่วมให้ความรู้กับน้องๆ ในรุ่นปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า โครงการนี้เป็นอีกมิติหนึ่งของความรู้ด้านภาษี เพราะบางคนอาจจะมองว่าทำอย่างไรก็ได้ให้เลี่ยงหรือเสียภาษีให้น้อยที่สุด แต่พอมาเข้าร่วมกิจกรรมก็ทำให้ทัศนคติเปลี่ยนไป เพราะจริงๆ แล้วสิ่งที่เราเสียไปนั้น ไม่ได้เรียกว่าเสียภาษี แต่เป็นการให้ภาษี เพราะว่าสิ่งที่เราจะได้รับตอบแทนกลับมาก็คือเรื่องของสาธารณูปโภค หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แล้วยังได้รับความรู้ในเรื่องของการวางแผนภาษีที่มีความสำคัญมาก เพราะว่าคนในวัยทำงานส่วนใหญ่ยังไม่ทราบในเรื่องนี้ รวมไปถึงเรื่องการลดหย่อนภาษีในแบบต่างๆ “เมื่อได้เข้าร่วมโครงการ ทำให้เรามีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของภาษี ว่าทำงานในรูปแบบไหนที่ต้องเสียภาษีอย่างไรบ้างให้ถูกต้อง และช่องทางการเสียภาษีรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้การเข้าระบบที่ถูกต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้รู้รายรับของตัวเอง และเป็นการวางแผนชีวิตในเบื้องต้นด้วย อย่างคนที่ทำงานปีแรกๆ อาจจะไม่ต้องเสียภาษีเลยแถมยังได้คืนภาษีด้วย เพราะว่าทุกครั้งที่บริษัทจ่ายเงินเดือน ก็จะต้องหักภาษีเพื่อส่งให้กับกรมสรรพากรอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เรายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี จะทำให้เราได้เงินส่วนนี้กลับคืนมา นอกจากนี้การดูและคุณพ่อคุณแม่ การทำประกันชีวิต หรือการซื้อกองทุนต่างๆ ก็เป็นการวางแผนภาษีที่ช่วยลดหย่อนภาษีให้กับเราได้ ที่สำคัญยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเราเองได้อีกด้วย” น้องบับเบิ้ลกล่าว นางสาวปวรนันท์ จิตต์วิบูลย์โสภณ หรือ “ต่าย” อายุ 25 ปี พนักงานบริษัท และ นางสาวชนากานต์ จิตต์วิบูลย์โสภณ หรือ “ตูน” อายุ 21 ปี นักศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสองพี่น้องที่ชักชวนกลุ่มเพื่อนๆ มาเข้าร่วมกิจกรรม เล่าถึงประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้ว่า เป็นการปลูกจิตสำนึกให้เรามีความเข้าใจเรื่องของการเสียภาษี และรู้จักการวางแผนภาษีอย่างถูกต้อง เพราะภาษีที่เราเสียไป ไม่ได้เป็นการเสียเปล่า แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องเสียภาษี เพราะเงินในส่วนนี้จะถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ “การเข้าร่วมโครงการนี้นอกจากจะทำให้เราได้รู้จักในเรื่องของภาษีต่างๆ อย่างถูกต้องแล้ว ที่สำคัญยังมีความรู้ในเรื่องของการวางแผนภาษี และยังทำให้ได้รับความรู้ในด้านอื่นๆ ด้วย เพราะมีตัวแทนคนรุ่นใหม่อย่างพี่นิ้วกลม หรือพี่แอนดี้ มาร่วมมาแลกเปลี่ยนมุมมอง ความรู้ ความคิด และการปรับตัวในการทำงานที่เป็นประโยชน์มาก” น้องต่ายกล่าว “ถึงแม้จะยังเรียนไม่จบ แต่เรื่องของภาษีต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อน ยิ่งรู้เร็วเราก็จะยิ่งได้อะไรที่มากขึ้น และมีเวลาเตรียมตัวในด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น วิธีบริหารจัดการการเสียภาษี การลดหย่อนภาษี การคืนภาษี เพราะว่าต่อไปเมื่อจบไปทำงานจะต้องได้ใช้อย่างแน่นอน” น้องตูนกล่าวเสริม นายบรรพต กาญกมล หรือ “มิค” นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2 วัย 20 ปีเล่าให้ฟังว่าได้ชักชวนเพื่อนๆ จากเครือข่ายเด็กและเยาวชนในจังหวัดนครปฐมที่เคยได้ร่วมกันทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 มาร่วมกิจกรรมของกรมสรรพากรในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเรื่องภาษีนั้นเป็นความรับผิดชอบและเป็นหน้าที่ของทุกคน เหมือนกับการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งเงินภาษีเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหน เราจะได้คืนผ่านโรงเรียน โรงพยาบาล ถนน สะพานลอย ทุกๆ อย่าจึงเกิดขึ้นจากเงินภาษีของเรา “ดังนั้นเมื่อเราต้องการให้เกิดสวัสดิการของรัฐที่มีคุณภาพ เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราคือการเสียภาษีให้ถูกต้อง เพียงแต่ว่าเราอาจจะมองว่าเรื่องภาษีเป็นเรื่องไกลตัวห่างตัว แต่ถ้าหากเราทำความเข้าใจดีๆ ก็จะเห็นว่าภาษีเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นหน้าที่ และเป็นความรับผิดชอบของตัวเราต่อส่วนรวม ประกอบกับความชอบในการทำงานเพื่อสาธารณะ ตรงนี้เราก็สามารถนำเอาความรู้ด้านภาษีไปประยุกต์ใช้กับกิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำต่อไปได้หลังจากจบโครงการ” น้องมิคกล่าว ซึ่งนับจากนี้ไป กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ใส่ใจภาษี หรือ RD TAX Ambassador จะทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนของกรมสรรพากร ด้วยการเป็นสื่อกลางนำความรู้ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องของภาษีที่ได้รับจากกิจกรรมในครั้งนี้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ให้สังคมไทยมีความเจริญรุดหน้า บนพื้นฐานของความตระหนักในหน้าที่ของการเป็น “ผู้เสียภาษี” ของคนไทยทุกคน.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ