กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--ปตท.
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่าการประชุมคณะกรรมการ ปตท. วาระพิเศษในวันนี้ (5 สิงหาคม2556) คณะกรรมการได้ติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหากรณีท่อรับน้ำมันดิบรั่วในทะเล ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี โดยได้รับทราบว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงและดีขึ้นตามลำดับ ต่อจากนี้ไป กลุ่ม ปตท. จะต้องมีมาตรการพิเศษที่ดีกว่าที่เคยปฏิบัติมา ให้ครอบคลุมด้านงานปฏิบัติการ (Operation) การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการเยียวยาประชาชนเกาะเสม็ด ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ ปตท. และ พีทีทีจีซี ร่วมกันกำหนดมาตรการให้เห็นในเชิงประจักษ์ว่าจะสามารถพัฒนาให้เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่สะอาดที่สุดในอนาคต
ทั้งนี้ ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก โดย พีทีทีจีซี จะต้องถอดความรู้จากบทเรียนในครั้งนี้ ประกอบกับความคิดเห็นต่างๆ จากคณะกรรมการทุกท่าน มาจัดทำเป็นนโยบายของกลุ่ม ปตท. ที่มีมาตรฐานสูงกว่าเดิม และให้ทุกบริษัทรับไปปฏิบัติอย่างเข้มงวด เพื่อช่วยรักษาสมดุลระหว่างการดูแลรับผิดชอบความมั่นคงทางพลังงาน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไทยให้สมบูรณ์ตลอดไป
“ผมใคร่ขอขอบคุณหน่วยงานราชการ กองทัพเรือ หน่วยงานภาคเอกชน และอาสาสมัครทุกท่าน ที่ได้ร่วมมือกันดำเนินการแก้ไขปัญหาจนบรรลุผลไปได้ในระดับหนึ่ง และขอยืนยันว่าจะกำกับดูแล และติดตามการดำเนินงานกลุ่ม ปตท. ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม มีการจัดการพัฒนาอย่างยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้หลักปฏิบัติ DJSI (Dow Jones Sustainability Index) ที่ ปตท. เป็นสมาชิกอยู่ เพื่อให้สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวพร้าวกลับคืนสู่สภาวะสมบูรณ์ดังเดิมโดยเร็วที่สุด” นายปานปรีย์ กล่าวสรุป