กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--สสว.
สสว. เปิดหลักสูตร นักบริหารSMEsระดับสูง ติวเข้มผู้บริหารระดับสูง SMEs ให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศัยกภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างกลยุทธ์ธุรกิจอย่างมีชั้นเชิง เข้าถึงโอกาสทางธุรกิจ สร้างเครือข่ายสู่ตลาดใหม่ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค
หลักสูตรนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารธุรกิจแห่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการภายใต้โครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs ซึ่งนายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญและมาเป็นประธานเปิดตัวโครงการ
ดร. อรรชกา สีบุญเรือง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงาน เปิดตัวโครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs ว่า SMEs เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กระทรวงอุตสาหกรรม จัดหลักสูตรอบรมนักบริหาร SMEsระดับสูงขึ้น เพื่อให้ความรู้ทางทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งแก่ผู้ประกอบการ SMEsนั้น ตนเชื่อมั่นว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมการอบรม โดยจะช่วยเติมเต็มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และเกิดเครือข่ายความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนที่ได้เข้ามาร่วมรุ่นฝึกอบรม ทั้งนี้เพื่อสร้างความพร้อมในการเข้าสู่สนามการค้าเสรีที่เป็นระดับนานาชาติ สามารถแข่งขันได้กับตลาดทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลโดย การนำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะ AEC ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ทั่วทั้ง 10 ประเทศ ในเดือนธันวาคม 2558 และเพื่อเตรียมความพร้อมจึงได้จัดทำงบประมาณขึ้นมาจำนวน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งระบบ ทั้งทางบก อากาศ และทางน้ำ อาทิ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ถนนมอเตอร์เวย์ ท่าเรือน้ำลึก ซึ่งจะเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและ สสว. ได้มุ่งมั่นที่จะลดปัญหาการบริหารจัดการในด้านต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ ด้วยการสร้างกิจกรรมเพิ่มองค์ความรู้และพัฒนาทักษะการจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจให้สามารถปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันภายในบริบทใหม่ของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการค้าของโลก เป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการแก่ SMEs ไทยให้พร้อมรับกับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC และให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล จึงเป็นการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการSMEsและต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวถึงสถานการณ์ของธุรกิจ SMEs ไทยว่า ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ขณะนี้มีจำนวน 2.652 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.76 ของผู้ประกอบการทั้งหมด จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย ยังคงมีจุดอ่อนในการบริหารจัดการหลายด้าน รวมทั้งความเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจที่ ยังคงมีการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการกันเอง ค่อนข้างน้อยหรือผู้ประกอบการ SMEs โดยส่วนใหญ่มักดำเนินธุรกิจการค้าเพียงลำพัง ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้ต่อไป การดำเนินธุรกิจ SMEs ก็จะไม่แข็งแรง หรือดำเนินธุรกิจอยู่ในวงจำกัด ไม่สามารถขยายกิจการสู่ตลาดใหม่ได้ดีเท่าที่ควร
ขณะที่ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมตัวเพื่อพร้อมรับนโยบายการเปิดการค้าเสรี หรือ AEC ในปี 2558 จึงจำเป็นต้องมีการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการด้านธุรกิจ และการสร้างความร่วมมือของกลุ่มธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับประเทศเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่ง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เห็นความสำคัญ จึงได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรนักบริหารSMEsระดับสูง ภายใต้โครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs ขึ้น เป็นการจัดหลักสูตรอบรมเชิงลึกให้กับผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจ SMEs เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs ให้สามารถพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ มีความพร้อมในการก้าวสู่ตลาดใหม่ที่ใหญ่ขึ้นทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งมีเครือข่ายธุรกิจด้านการค้าระหว่างภาคส่วนต่างๆ
การจัดอบรมนักบริหาร SMEs ระดับสูง ของ สสว. ภายใต้โครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs ครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ รุ่นละ 100 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการSMEs ที่เป็นเจ้าของกิจการหรือเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรธุรกิจนั้น ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ SMEs ทั้งนี้ รุ่นที่ 1ใช้เวลาอบรมระหว่าง วันที่ 30 ส.ค.- 12 ต.ค.2556 และ รุ่นที่ 2 ใช้เวลาอบรมระหว่างวันที่ 7 ก.ย. -18 ต.ค. 2556 ใช้ชั้น 15 ของอาคารรีเจ้นท์ ถนนราชดำริ เป็นสถานที่ฝึกอบรมภาคทฤษฎี
ทั้งนี้เนื้อหาของหลักสูตรประกอบด้วยกิจกรรม 3 ส่วนครอบคลุมเนื้อหาภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติรวม 112 ชั่วโมง ประกอบด้วย การเสริมความรู้ธุรกิจ(Strengthen Knowledge)จำนวน 42 ชั่วโมง เป็นการอบรมเชิงวิชาการเกี่ยวกับกลยุทธ์การบริหารจัดการ (Strategic Business Management) และการบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management ) การสร้างแรงบันดาลใจ(Getting Inspired)จำนวน 14 ชั่วโมง เป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจจากนักธุรกิจชื่อดัง การมุ่งสู่ภูมิภาค(Going Reginal)เป็นการศึกษาวิจัยทางธุรกิจ ค้นคว้าอิสระและศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศในกลุ่มAEC เพื่อมองหาลู่ทางธุรกิจและปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ อย่างมีชั้นเชิง เพราะการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการไปศึกษาดูงานในประเทศกลุ่มAECนั้น จะช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในเส้นทางการเชื่อมโยงจากระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ (หนานหนิง-เวียดนาม) ถึงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (เวียดนาม-ลาว-ไทย-พม่า) ซึ่งในอนาคตคาดว่าเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมโยงการค้าและการลงทุน ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน กับกลุ่มประเทศอาเซียน ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด อีกเส้นทางหนึ่ง จากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาความเชื่อมโยงของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
SMEs ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจฯ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลขที่ 2 ถ.พระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม10200 โทรศัพท์ 02-6518291-4 086-9889293, 084-2960368 โทรสาร 02-6518295 หรือ www.smesadvance.net อีเมลล์ smesadvance@gmail.com