กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,295 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,286 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.41 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,200 บาท กับ 19,300 บาท และกลับมาปิดที่ 19,200 บาท กับ 19,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 933 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,673 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลงลด 0.2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 8.3% GFQ13 ปิด 19,250 บาท และ GFV13 ปิด 19,330 บาท GF10Q13 ปิด 19,240 บาท GF10V13 ปิด 19,320 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 19.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,282.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 19.7 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 19.52 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 915.04 ตัน (ขายออก 2.1 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 105.3 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 93.39 จุด ปิดที่ 15,518.74 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์และปิดตลาดต่ำกว่าระดับ 1,300 เหรียญเมื่อคืนนี้ จากแรงเทขายทางเทคนิค ประกอบกับคำกล่าวจากสมาชิกเฟดต่างๆ ที่กล่าวถึงการลดขนาด QE รวมไปถึงตัวเลข Trade Balance ของสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นอย่างมาก โดยยอดขาดดุลการค้าลดลง 22% สู่ระดับ 3.42 หมื่นล้านดอลลาร์
SPDR ขายต่อเนื่องเป็นวันที่สี่อีก 2.1 ตัน เหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 915.04 ตัน
อย่างไรก็ตาม CNBC รายงานคำกล่าวจาก World Gold Council ที่ระบุว่า ราคาทองคำอยู่ที่ระดับต่ำสุด (Bottom) ไม่ใช่ระดับสูงสุด (Top) ซึ่งนั่นหมายถึงราคาทองคำกำลังจะปรับตัวสูงขึ้น
Bloomberg รายงานว่า การนำเข้าทองคำจากฮ่องกงมายังจีนในเดือนมิถุนายนลดลง 4.8% จากระดับ 106 ตัน สู่ระดับ 101 ตัน โดยบางส่วนเนื่องจากรัฐบาลมีการจำกัดการแลกเปลี่ยนทางการเงินโดยใช้ทองคำแท่ง
หลังจากที่วันจันทร์นายฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ได้แสดงความเห็นถึงโอกาสในการที่เฟดจะลด QE เมื่อมองจากอัตราการว่างงานที่ลดลง เมื่อคืนนี้นายอีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ผู้มีสิทธิ์ในการลงมตินโยบาย ก็ออกมากล่าวว่า ดูเหมือนเฟดจะเริ่มต้นลดขนาด QE ในปลายปีนี้ และสิ้นสุด QE ในกลางปี 2014 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว ซึ่งไม่ได้บอกปัดชัดเจนว่าจะเริ่มต้นลด QE ในช่วงเดือนกันยายนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำอาจชะลอการลด QE ได้ โดยเฟดต้องการให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นใกล้ระดับ 2% เสียก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเฟดจะไม่ลดเป้าหมายของแผนการว่างงานให้ต่ำกว่านี้
นอกจากนี้ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ก็ออกมากล่าวเช่นกันว่า เฟดอาจเริ่มการลดวงเงินซื้อพันธบัตรในช่วงใดช่วงหนึ่งของการประชุมเฟดที่เหลือในปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี S&P 500 ดิ่งลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,700 จุด หลังจากเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจลดขนาด QE ในไม่ช้านี้
ดัชนีนิกเกอิเช้านี้ร่วงลง 318.13 จุด หรือ 2.21% แตะที่ 14,082.93 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ทำจุดต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่นที่อาจออกมาแย่
ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดลดลงเช่นกันตามหุ้นสหรัฐจากความกังวลที่เฟดอาจเริ่มลด QE ในปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
-Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -44.1B คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ -43.1B ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -34.2B
ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4M คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ -1.2M
ทิศทางราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่ตัวเลข Trade Balance ออกมาดีกว่าที่คาดอย่างมาก ออกมาขาดดุลน้อยลงถึงประมาณ 22% ที่ระดับ 3.42 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการคาดการณ์ว่าจะขาดดุล 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ผลออกมายอดขาดดุลลดลงดีกว่าที่คาด 8.9 พันล้านดอลลาร์ ราคาทองคำในช่วงตลาด COMEX ส่วนใหญ่ซื้อขายบริเวณ 1,285 — 1,290 เหรียญ และในช่วงหลังจากที่ประธานเฟดสาขาชิคาโกออกมาแสดงความเห็นถึงโอกาสที่จะปรับลด QE ในเดือนกันยายนนี้กดดันทำให้มีแรงเทขายต่อเนื่องเข้ามาในตลาดในช่วงอิเล็กทรอนิกส์ และเช้านี้ในตลาดเอเชียราคาทองคำหลุดระดับ 1,280 เหรียญลงมา โดยเช้านี้เปิดตลาดเอเชียที่ระดับประมาณ 1,275 เหรียญ สำหรับวันนี้ไม่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงหลังจากที่พยายามทรงตัวในลักษณะ Sideway Down มาโดยตลอด การที่ราคาทองคำหลุดบริเวณ 1,285 เหรียญลงทำให้ทิศทางในระยะสั้นเข้าสู่แนวโน้มขาลงอีกครั้งหนึ่ง ตามระยะกลางและระยะยาวที่เป็นขาลงมาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยแนวรับถัดไปในระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 1,260 เหรียญ แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,295 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังใช้กลยุทธ์การทำกำไรในทิศทางขาลงในลักษณะขายก่อนซื้อทีหลังเพื่อปิดสถานะ Short Position เท่านั้น แนะนำให้หาจังหวะทำ Short Position บริเวณแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ปิดสถานะ Long Position โดยการทำ Stop Loss หยุดภาวะขาดทุนออกไปโดยเร็ว
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ซื้อปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวลดลง และหาจังหวะ Short เพิ่มเมื่อราคาอยู่เหนือ 1,290 เหรียญขึ้นไปเป็นจุดที่น่าจะเปิด Short Position เพิ่ม
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,330 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,400 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Research Department
Tel: 02-222-6222 ext. 103 E: research@mtsgoldgroup.com
MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44