กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,277 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,287 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.38 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,000 บาท กับ 19,100 บาท และกลับมาปิดที่ 18,950 บาท กับ 19,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,004 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,781 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.9% GFQ13 ปิด 19,230 บาท และ GFV13 ปิด 19,290 บาท GF10Q13 ปิด 19,240 บาท GF10V13 ปิด 19,300 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,285.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.5 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 19.50 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 910.53 ตัน (ขายออก 4.51 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 93 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 104.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 48.07 จุด ปิดที่ 15,470.67 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตลาด COMEX หลังจากที่ลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ในช่วงตอนต้นตลาดเอเชีย สาเหตุของการปรับตัวสูงขึ้นมาจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อปิดสถานะ Short ทำกำไร
ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากข่าวสมาชิกเฟดออกมากล่าวเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดอาจเริ่มต้นลด QE ในช่วงเดือนกันยายน
SPDR ยังคงขายต่อเนื่องเป็นวันที่ห้าอีก 4.51 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 910.53 ตัน
แสตนดาร์ด แบงก์ระบุว่า ปริมาณความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นหลังจากราคาหลุดต่ำกว่าระดับ 1,300 เหรียญ โดยดูจากค่าพรีเมี่ยมในตลาดเซี่ยงไฮ้ทำทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 26.25 เหรียญ เมื่อเทียบกับ 14.87 เหรียญเมื่อสัปดาห์ก่อนในช่วงที่ราคาทองคำอยู่เหนือระดับ 1,330 เหรียญ
HSBC ระบุว่า ผลกระทบของการลดวงเงิน QE จะเป็นผลลบ แต่จะมีอย่างจำกัดในตลาดทองคำ เนื่องจากยังคงมีแรงเข้าซื้อเครื่องประดับ เหรียญทอง และทองคำแท่งจากนักลงทุนสถาบันอยู่ โดยปริมาณความต้องการทองคำของจีนยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,300 เหรียญ
ผู้นำเข้าทองคำอินเดีย ยังคงรออยู่นอกตลาดเนื่องจากรอผลความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะมีการดำเนินการใดเพิ่มเติมหรือไม่
นางแซนดร้า เพียนาโต้ ประธานเฟดสาขาเคลฟแลนด์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นไปอย่างช้าๆ แต่มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยมีการฟื้นตัวในตลาดแรงงานทั้งในปัจจุบันและต่อๆ ไปจากมาตรการของเฟด ซึ่งเฟดกำลังเตรียมในการลดวงเงิน QE
นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารอังกฤษคนใหม่ ประกาศเมื่อวานนี้ว่า บีโออีจะไม่ใช้นโยบายรัดกุมหรือลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์จนกว่าอัตราการว่างงานของอังกฤษยังคงอยู่เหนือ 7% คล้ายกับนโยบายของเฟด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายจากความวิตกกังวลที่เฟดจะลดวงเงิน QE
ตลาดหุ้นนิกเกอิเปิดบวงเช้านี้ โดยนักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้ และตัวเลข Trade Balance ของจีน เช่นเดียวกันกับตลาดฮั่งเส็งที่รอผลตัวเลขจีนเช่นกัน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ตลาดหุ้นของไทยกำลังปรับตัวลดลงรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อแผนการใช้จ่ายทางโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุด
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันพุธ
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 326K คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 336K
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำมี Technical Rebound กลับขึ้นมาเมื่อคืนนี้และในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดบริเวณ 1,275 เหรียญ โดยคาดว่าเป็นการดีดตัวในระยะสั้นจากแรงซื้อ Short Covering ในวันนี้จะมีตัวเลข Unemployment Claims คาดว่าจะสูงขึ้น 10,000 ราย โดยอาจจะมีผลดีทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ หรืออาจจะเป็นการรับข่าวไปแล้วด้วยก็ได้ โดยภาพรวมยังมองระยะกลางและระยะยาวเป็นขาลงสำหรับทองคำ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,270 — 1,295 เหรียญ ในกรอบทิศทางขาลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำให้ทำการขายก่อนตามกลยุทธ์ เก็งกำไรในแนวโน้มขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ปิดสถานะ Long Position ในจังหวะที่ราคาดีดตัวขึ้นมา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ขายก่อนบริเวณ 1,295 เหรียญและหาจังหวะซื้อเพื่อปิดทำกำไรในจังหวะที่ราคาปรับตัวลดลง
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,110 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,310 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,350 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง