กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--IR network
บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก โชว์ศักยภาพกำไรไตรมาส 2/2556 ทุบสถิติสูงสุดอีกครั้ง มีกำไรสุทธิ 41.29 ล้านบาท พุ่งกระฉูดถึง 536.38% เหตุเพราะกำไรจากกิจการโรงพิมพ์เพิ่มขึ้น เป็น 20.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 168% จากปีก่อนและกำไรจากโรงไฟฟ้าที่บ่อพลอย เป็นเงิน 20.64 ล้านบาท ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จังหวัดลพบุรี มีความคืบหน้าแล้ว 70% สร้างความประทับใจต่อผู้ถือหุ้น ควักจ่ายปันผลระหว่างกาลทันที 0.074 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 64.4% จากปีก่อน “ยุทธ ชินสุภัคกุล” เผยต่อจากนี้จะผลักดันให้ธุรกิจของ EPCO เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ พร้อมสยายปีกรุกตลาดต่างประเทศ ลงทุนโรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และกำไรสุทธิ เติบโต 200%
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2556 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ของบริษัทและบริษัทย่อย ปรากฏว่ามีกำไรสุทธิจำนวน 41.29 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 6.49ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 536.38% โดยสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 2/2556 ของ EPCO ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้รวม 190.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 160.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 14.4%
ขณะที่งวด 6 เดือน (มกราคม — มิถุนายน 2556) บริษัทมีกำไรสุทธิ 88.4 ล้านบาท (หรือ 0.17 บาท/หุ้น) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 214.47 % โดยบริษัทมีรายได้รวมที่ 416.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 340.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 22.3%
“ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปีนี้ที่เติบโตโดดเด่นเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องนับจากไตรมาสแรก ที่ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมาก โดยกิจการสิ่งพิมพ์มีกำไรเพิ่มขึ้น 168% หรือ 20.65 ล้านบาท และกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่งเริ่มมีกำไร 20.46 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่อำเภอบ่อพลอย ส่งผลให้บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.074 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 64.4% จากปีก่อนที่ 0.045 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นและทุ่มเทของเหล่าผู้บริหารและพนักงาน เพื่อผลักดันให้ธุรกิจของ EPCO เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นตลอดไป” นายยุทธ กล่าว
นายยุทธ กล่าวต่อว่า ภาพรวมธุรกิจของ EPCO ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 900 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ที่ 691.17 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่โตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพิ่มขึ้น 200% จากปีก่อนที่ทำได้ 65.21 ล้านบาท เนื่องจากจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดขึ้น จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2555 โดยได้ประมาณการรายได้จากโครงการดังกล่าวประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งโครงการดังกล่าวมีสัญญาเป็นระยะเวลา 10 ปี และมีรายได้ตลอดอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 70% ซึ่งคาดว่าภายในต้นไตรมาส 4/2556 จะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ปลายปี 2556 โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากธุรกิจพลังงานจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2556 โดยที่บริษัทมีแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันรายได้และกำไรให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต