กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00 น. นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย มร. เอช นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มร. เอ็ม คาวาฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พรีเซ็นเตอร์ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส” และนายสนธยา พันซะโก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก้วเมธี ร่วมเปิดโครงการ “อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต” แห่งที่ 3 ณ โรงเรียนบ้านแก้วเมธี ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย
จากการศึกษาและสำรวจของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลพบว่า โรงเรียนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ร้อยละ 50 มีสารปนเปื้อนในน้ำดื่มเกินมาตรฐาน ส่งผลให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารต่าง ๆ ในระยะยาว ซึ่งหลายพื้นที่ประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำดื่มขั้นรุนแรง โดยเฉพาะในหน้าแล้ง กลุ่มอีซูซุจึงได้ริเริ่มโครงการ “อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต” โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อผลิตเป็นน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการเจาะน้ำบาดาล พร้อมติดตั้งหอถัง ตลอดจนอาคารปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มสะอาด (RO) ที่สามารถผลิตน้ำดื่มสะอาดให้กับนักเรียน บุคลากร ตลอดจนชุมชนได้มีน้ำดื่มที่สะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค ซึ่งเริ่มดำเนินการที่โรงเรียนบ้านห้วยจะค่าน ตชด.อนุสรณ์ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแห่งแรก และแห่งที่ 2 โรงเรียนบ้านละว้าวังควาย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งโรงเรียนบ้านแก้วเมธี ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย เป็นแห่งที่ 3 โดยเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาล - ประถมศึกษา ปีที่ 6 รวมนักเรียนทั้งสิ้น 123 คน และครู จำนวน 10 คน โรงเรียนแห่งนี้ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาด และไม่เพียงพอต่อความต้องการ กลุ่มอีซูซุเล็งเห็นความสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขเป็นการเร่งด่วน ซึ่งดำเนินการแล้ว 3 แห่ง และ จะดำเนินการต่อไปในแห่งที่ 4 ได้แก่ โรงเรียนบ้านด่านโรจน์ อำเภอระโนด จังหวัดพัทลุง
ในการนี้ นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ดำเนินการแล้วมากกว่า 2,000 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2551 - 2555 และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก จำนวน 457 แห่ง ในปี 2556 ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว จะช่วยให้นักเรียน และบุคลากรในโรงเรียนมีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนได้อย่างเพียงพอ