กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,315 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,314 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.25 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,350 บาท กับ 19,450 บาท และกลับมาปิดที่ 19,300 บาท กับ 19,400 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,573 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,994 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3.8% GFQ13 ปิด 19,480 บาท และ GFV13 ปิด 19,610 บาท GF10Q13 ปิด 19,540 บาท GF10V13 ปิด 19,610 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 22 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,334.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 93.3 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.34 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 911.13 ตัน (โดยเมื่อวานไม่ได้ทำการซื้อขาย แต่จะมีซื้อเข้า 1.8 ตัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 106.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 5.83 จุด ปิดที่ 15,419.68 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบสามสัปดาห์เมื่อวานนี้ที่เป็นวันหยุดของไทย จากการที่กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือน ประกอบกับมีรายงานความต้องการจีนที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนถูกกระตุ้นให้ใช้คำสั่ง Buy Stop และการทำ Short Covering ในทองคำ
เมื่อวันศุกร์ SPDR ซื้อเข้า 1.8 ตัน และวันจันทร์คงทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 911.13 ตัน โดยครั้งล่าสุด SPDR ซื้อเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน
สมาคมค้าทองคำของจีนรายงานว่า ปริมาณการบริโภคทองคำในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 706.36 ตัน โดยมีการคาดการณ์ว่าจีนจะสามารถขึ้นสู่การเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่งแทนอินเดียได้ในปีนี้
ค่าพรีเมี่ยมทองคำในอินเดียอาจเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีก เนื่องจากมาตรการจำกัดการนำเข้าทองคำของแบงก์ชาติอินเดีย
รัฐมนตรีคลังอินเดียระบุว่า รัฐบาลอินเดียจะเพิ่มการดำเนินการจำกัดการนำเข้าทองคำและซิลเวอร์มากขึ้น แต่จะยังคงให้มีการนำเข้าทองคำให้ได้ 850 ตันในปีนี้
ข้อมูลจาก CFTC เก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 6 สิงหาคมระบุว่า Hedge Funds และ Money Managers ลดสถานะ Long Position ลง
เทรดเดอร์ต่างจับตาว่า ราคาทองคำจะสามารถฝ่าระดับ 1,350 เหรียญได้หรือไม่ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยไปถึงนับตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน โดยล่าสุดในวันที่ 23 กรกฎาคมทำได้เพียง 1,349.20 เหรียญ
เมื่อวานนี้ เหมืองทองนิวเครสต์ ผู้ผลิตทองคำอันดับห้าของโลก รายการผลประกอบการขาดทุนรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 โดยได้รับผลกระทบจากการยอมสูญเงินหลังราคาทองคำปรับตัวลดลง
นักเศรษฐศาสตร์จากเฟดสาขาซานฟรานซิสโกและสาขานิวยอร์คระบุว่า งบดุลบัญชีของเฟดที่ขยายตัวอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นสาเหตุมาจากมาตรการ QE แต่ครั้งนี้ช่วยน้อยกว่าตอน QE2 แต่การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะมีผลมากกว่าการสิ้นสุด QE
แม้ตัวเลขจีดีพีกรีซจะออกมาดีขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นภาษีรายได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ โดยมีการรายงานจากนิตยสารของเยอรมนีว่า แบงก์ชาติเยอรมนีมองเห็นความเสี่ยงในเรื่องการช่วยเหลือกรีซ และสมาชิกยูโรโซนจำเป็นต้องช่วยเหลือมากขึ้นในปีหน้า
จีดีพีญี่ปุ่นไตรมาสสองออกมา 2.6% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ซึ่งชี้ให้เห็นว่า อาเบะโนมิกส์ใช้งานไม่ได้ผล ยิ่งเป็นการเพิ่มความคิดที่ว่า นายอาเบะหรือคุโรดะอาจจะทำการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ทำจุดสูงสุดในรอบสองเดือนหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีขึ้น และมีความคิดเห็นจากรัฐบาลจีนในความต้องการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันจันทร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น หลังจากมีรายงานว่าจีดีพีขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์
เช้านี้ตลาดหุ้นนิกเกอิปรับตัวสูงขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยนท่ามกลางการรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะกำลังพิจารณาการลดภาษีนิติบุคคล
ทางด้านตลาดฮั่งเส็งก็เปิดตลาดบวกเช่นกัน จะมีการจับตาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากที่กรุงเหวินโจวกลายเป็นเมืองแรกที่ข้อจำกัดการซื้ออสังหาริมทรัพย์ลดลง โดยผู้ซื้อบ้านครั้งแรกจะสามารถซื้อบ้านใหม่ได้สองหลัง
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 116.5B ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ -97.6B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้
- Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.4%
- Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.2%
ทิศทางทางราคาทอง
ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าของวันจันทร์ หลังจากที่ราคาทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,300 เหรียญได้ ตลาดเริ่มคลายความกังวลในเรื่องที่เฟดจะยกเลิกมาตรการ QE หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนว่างงานที่ยังดูสูงอยู่บริเวณ 333,000 ตำแหน่ง ทำให้ราคาทองคำเมื่อวานนี้ดีดตัวสูงขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดเมื่อสามสัปดาห์ก่อนบริเวณ 1,345 เหรียญ ในวันนี้จะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับยอดค้าปลีกคาดว่าจะออกมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว คือ Core Retail Sales คาดว่าจะดีขึ้นในขณะที่ Retail Sales คาดว่าจะแย่ลง โดยที่เมื่อวาน SPDR ไม่ได้ทำอะไรในขณะที่วันศุกร์ซื้อเข้า 1.8 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 911.13 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นและระยะยาวแบบรายสัปดาห์เริ่มดูจะเป็นทิศทางแนวโน้มขาขึ้น โดยที่ในระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำอาจจะขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,350 เหรียญได้ ถ้าสามารถทะลุขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบ 1,380 เหรียญ แต่ถ้าไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ก็จะกลับลงมาทดสอบที่ระดับ 1,300 เหรียญเช่นเดิม กรอบการลงทุนในวันนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1,315 — 1,345 เหรียญ เป็นลักษณะกรอบการลงทุนในทิศทางแนวโน้มค่อนไปทางขาขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ราคาทองคำคงจะแกว่งตัวเพื่อทดสอบแนวต้านด้านบนก่อนในระยะสั้นๆ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้ขายปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ ตามบริเวณแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ทยอยปิดสถานะ Short ตามจังหวะและโอกาสที่มี รวมทั้งแนะนำให้มี Stop Order ที่บริเวณ 1,350 เหรียญถ้าราคาเกิดทะลุขึ้นไปข้างบนได้ โดยที่นักลงทุนที่ติดสถานะ Short อยู่ในพอร์ตมากกว่า 50% ไม่แนะนำให้ทำ Short เพิ่ม คอยบริหารพอร์ตให้สมดุลกับสภาพตลาด
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,850 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,950 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ติดต่อ
Tel: 02-222-6222 ext. 103 E: research@mtsgoldgroup.com
MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44