กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บริษัทในกลุ่มซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาด เห็นได้จากภาคการบริโภคที่เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนจากยอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวลดลงกว่า 10% และการปรับลดลงของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็เริ่มชะลอตัวเช่นกัน โดยการนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าทุน และการอนุมัติพื้นที่ก่อสร้างใหม่ ๆ ที่เริ่มเติบโตน้อยลง ภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่ปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์สูงน่าจะทำให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และทำให้ยอดขายรถยนต์ รวมถึงอสังหาฯ ไม่โตมากเหมือนในอดีต 1 — 2 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยโดยรวมน่าจะยังเติบโตได้ปานกลาง ไม่สูงมากเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำเพียงประมาณ 2% ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อของไทย โดยบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับลดลงได้อีกเล็กน้อยในปีข้างหน้า ซึ่งภาวะตลาดลักษณะนี้เหมาะกับการลงทุนในตราสารหนี้อายุประมาณ 2 — 3 ปีน่าจะให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เนื่องจากได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าในกรณีที่ดอกเบี้ยทรงตัว และอาจมีกำไรจากการลงทุนหากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง
นายอุดมการ อุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า บริษัทจัดการมีความเชื่อว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางในระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1 ปีขึ้นไป เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวซึ่งดีกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทจัดการเลือกที่จะไม่ออกกองทุนตราสารหนี้ประเภท Term Fund แต่จะให้คำแนะนำนักลงทุน ลงทุนใน “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี- พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iFIXED)” ซึ่งเป็นกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะกลางอายุเฉลี่ย 2 ปี จุดเด่นของ กองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED คือ มีการกระจายการลงทุน (Diversification) มากกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภท Term Fund ซึ่งมักจะลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 4-5 บริษัท และผู้ลงทุนยังมีสภาพคล่องสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวัน ซึ่งกอง Bond Fund ลักษณะนี้ในต่างประเทศเป็นที่นิยมแนะนำให้ลูกค้าถือเป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุน ( Core Investment) โดยประมาณ 1 ใน 3 ของตลาดกองทุนในประเทศอเมริกาก็เป็นกองทุนประเภทนี้
ปัจจุบันกองทุน CIMB-PRINCIPAL iFIXED เปิดให้ลงทุนในลักษณะแบบ Multi Share Class 2 ชนิด คือ 1. Class A -Accumulation เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยหรือบริษัทที่ต้องการสะสมมูลค่าจากดอกเบี้ยและ Capital Gain 2. Class R -Auto Redemption เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการแบ่งรายได้แบบสม่ำเสมอผ่านการ Auto Redemption โดยมูลค่ากองทุนรวมทุก share class อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถซื้อ — ขายได้ทุกวันและเวลาทำการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 0 2686 9595
www.cimb-principal.com หรือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย 0 2626 7777 กด 0 www.cimbthai.com
***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน