กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,334 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,322 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.27 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท และกลับมาปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,291 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,590 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 4% แบบ 10 บาท ลดลง 2.1% GFQ13 ปิด 19,700 บาท และ GFV13 ปิด 19,780 บาท GF10Q13 ปิด 19,700 บาท GF10V13 ปิด 19,770 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 13.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,320.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.4 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.343 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 911.13 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 72 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 106.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 31.33 จุด ปิดที่ 15,451.01 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ในรอบหนึ่งสัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโรและเยน และการสะสมพลังในกราฟทางเทคนิคหลังจากที่มีการปรับตัวสูงขึ้นล่าสุด
ข่าวการรายงานการเพิ่มปริมาณทองคำเกิดขึ้นในจีนอีกครั้ง โดยในไตรมาสที่สองปริมาณความต้องการทองคำของจีนแตะระดับสูงสุดที่ 385.5 ตัน ซึ่งจีนมีเป้าหมายเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลกแทนอินเดีย
เมื่อวานนี้แบงก์ชาติอินเดียประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำ ซิลเวอร์ และแพลทตินั่มเป็น 10% นับว่าปีนี้อินเดียเพิ่มภาษีนำเข้าเป็นครั้งที่สามแล้ว และข่าวนี้เองที่เพิ่มแรงกดดันทองคำให้ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ดูเหมือนราคาทองคำของอินเดียจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ฝ่าระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน จากการเพิ่มภาษีนำเข้าและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
แบงก์ชาติรัสเซียระบุว่า มูลค่าของการสำรองเงินสดและทองคำของรัสเซียลดลง 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สองสู่ระดับ 5.138 แสนล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง
ภาพในบรรทัด 3
ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐเป็นตัวเลขแรกของสัปดาห์นี้ ซึ่งผลออกมาตรงตามที่คาด 0.2% ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบใดต่อราคาทองคำ โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าตัวเลขที่จะออกมาในสัปดาห์นี้จะส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ยังคงมีสมาชิกเฟดออกมากล่าวเมื่อวานนี้ จากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าที่กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผ่านมามีความผันผวนมากเกินกว่าที่จะสะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่า เฟดจะลด QE ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ แต่เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้และปีหน้า
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าได้ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะยังไม่ลดขนาด QE ในการประชุมเดือนก.ย.นี้
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีนิกเกอิเปิดบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน แม้จะมีช่วงวันหยุดเข้ามากระทบทิศทางขาขึ้นบ้างเล็กน้อยก็ตาม
เช้านี้ตลาดหุ้นฮ่องกงเลื่อนการเปิดตลาดในช่วงเช้าจากรายงานพายุอูตอร์ โดยการเปิดตลาดช่วงเช้าจะชะลอไปหากสัญญาณพายุยังคงอยู่ที่ระดับ 8 หรือมากกว่านั้น และอาจปิดตลาดหากสัญญาณระดับ 8 ยังอยู่ต่อถึงเที่ยง
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.4% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.5%
- Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.6% คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.2%
ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.8% คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.4%
- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2%
ทิศทางทางราคาทอง
ราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ แต่มีการแกว่งขึ้นลงตามแนวรับแนวต้าน โดยทองคำยังเคลื่อนในกรอบจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก โดยที่ Core Retail Sales ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ในวันนี้คาดว่าตัวเลข PPI คาดว่าจะแย่ลงบ้างเล็กน้อย ซึ่งไม่น่าส่งผลใดๆ ต่อตลาดมากนัก ในขณะที่ SPDR เมื่อวานก็ไม่ได้ซื้อหรือขาย และยังมีข่าวเรื่อง QE ประปราย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,310 — 1,340 เหรียญ เป็นลักษณะการเคลื่อนตัวแบบ Sideways และเป็นการแกว่งค่อนข้างมาก โดยที่ค่าเงินบาทเองกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยที่ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์อ่อนค่าลงมาเหลือ 1.3260 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 31.34 บาท/ดอลลาร์ในเช้าวันนี้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นการลงทุนในกรอบแคบ 1,310 — 1,340 เหรียญ โดยทองคำยังไม่สามารถเบรกด้านใดด้านหนึ่งได้ ซึ่งอาจจะต้องอาศัยข่าวสำคัญมากกว่านี้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังเป็นลักษณะหาจังหวะปิดสถานะ Long Position เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะการปิดสถานะเมื่อราคาอ่อนตัวลง
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,820 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,900 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ติดต่อ
Tel: 02-222-6222 E: phutanate@mtsgoldgroup.com
MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44
Sapsin Road, Wangburapapirom Sub-District, ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์
Phranakorn District, Bangkok 10200, Thailand. เขตพระนคร กทม 10200